พระสันตะปาปาแบ่งปันคริสตังไม่เดียวดายเพราะมีนักบุญมากมายเป็นเพื่อนร่วมทาง / 02 พฤศจิกายน 2009 -------------------------------------------------------------------------------- สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงแบ่งปัน
วันสมโภชนักบุญทั้งหลายคือวันแห่งความชื่นชมยินดี ซึ่งทำให้รู้ว่าเราไม่เคยเดินเดียวดาย เพราะยังมีนักบุญมากมายเป็นเพื่อนร่วมทางในอาณาจักรของพระเจ้า พร้อมกันนี้ ทรงเชิญชวนให้ภาวนาเพื่อดวงวิญญาณผู้ล่วงลับ ก่อนปิดท้าย ด้วยการรำลึกถึงการครบรอบ 10 ปีของปฏิญญาร่วมลูเธอรันกับคาทอลิก ซึ่งว่าด้วยการฟื้นฟูเอกภาพในกลุ่มคริสตชน เมื่อช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงเป็นประธานในการนำสัตบุรุษกว่า 15,000 คน สวดเทวทูตถือสาร ณ
ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร โดยใจความสำคัญของสิ่งที่พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ตรัสแบ่งปัน พระองค์ทรงกล่าวถึงวันสมโภชนักบุญทั้งหลาย (1 พ.ย.) เป็นวันที่ทำให้รู้ว่า เราไม่เคยอ้างว้างทางจิตใจ เนื่องจากยังมีนักบุญมากมายร่วมจิตใจเป็นหนึ่งกับเรา ส่วนวันระลึกถึงผู้ล่วงลับ (2 พ.ย.) ก็มีความสำคัญอย่างมากในชีวิตคริสตชน เพราะมันมีความเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งต่อธรรมล้ำลึกปาสกา
พระสันตะปาปา ตรัสว่า "วันสมโภชนักบุญทั้งหลายคือการบอกเราว่า
เราต่างเป็นส่วนหนึ่งในชุมชนทางจิตวิญญาณซึ่งมีความเป็นเอกภาพอย่างลึกซึ้ง การเป็นหนึ่งเดียวกันของบรรดานักบุญคือความงดงามและการตอกย้ำความจริงที่ว่า เราไม่ได้อยู่อย่างเดียวดาย คุณงามความดีของนักบุญแต่ละองค์ได้ส่งผลดีต่อส่วนรวม ในทางกลับกัน มันยังบันดาลความสุขแบบเรียบง่ายให้กับเราแต่ละคนด้วย การเป็นหนึ่งเดียวกันทางจิตวิญญาณ จัดเป็นธรรมล้ำลึกที่เราประสบได้ในโลก, ในครอบครัว, ในความเป็นเพื่อนพี่น้อง และเฉพาะอย่างยิ่ง ในชุมชนทางจิตวิญญาณของพระศาสนจักร"
จากนั้น พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงกล่าวถึงวันระลึกถึงดวงวิญญาณผู้ล่วงลับ โดยตรัสว่า "พ่อขอย้ำว่า การระลึกถึงผู้ล่วงลับมีความสำคัญอย่างมากในชีวิตคริสตชน นี่เป็นความสว่างของธรรมล้ำลึกแห่งปาสกา พระคริสตเจ้าทรงสิ้นพระชนม์และกลับคืนชีพ พระองค์ทรงเปิดประตูให้เรา ได้เข้าสู่บ้านของพระบิดาซึ่งเป็นอาณาจักรของชีวิตนิรันดรและสันติสุขนิรันดร์ ใครก็ตามที่ดำเนินชีวิตติดตามพระเยซู ก็จะได้รับการต้อนรับให้เข้าสู่อาณาจักรนี้"
"ดังนั้น
เมื่อเราไปเยี่ยมสุสาน ก็ขอให้เราระลึกถึงดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับซึ่งยังคงรอคอยการกลับเป็นขึ้นมา วิธีการที่เหมาะสมและดีที่สุดในการระลึกถึงพวกเขา ก็คือ สวดภาวนาด้วยความเชื่อ ความหวัง และความรัก เราต้องสวดขอพระเจ้าโปรดประทานความรอดตลอดนิรันดรให้กับพวกเขา เพื่อที่ว่า สักวันหนึ่ง เราจะได้พบกับพี่น้องเหล่านี้และใช้ชีวิตในอาณาจักรสวรรค์ ด้วยความสุขและความรักตลอดไป"
หลังการสวดเทวทูตถือสารจบลง พระสันตะปาปาทรงกล่าวถึงการครบรอบ 10 ปีของปฏิญญาร่วมระหว่างสหพันธ์ลูเธอรันสากล (World
Lutheran Federation) กับพระศาสนจักรคาทอลิก ปฏิญญาดังกล่าว ลงนามเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ.1999 โดยสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ทรงกล่าวถึงปฏิญญานี้ว่า "เป็นเหตุการณ์สำคัญในการฟื้นฟูเอกภาพทั้งครบในกลุ่มคริสตชน" เลยทีเดียว
พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ได้ตรัสแบ่งปันเรื่องนี้เป็นการปิดท้ายว่า "คาทอลิกและลูเธอรันต่างได้รับการไถ่กู้จากพระเจ้า เราทั้งสองดำเนินชีวิตอยู่ในพระหรรษทานจากพระเจ้าผู้ทรงพระเมตตา พระองค์ทรงอภัยโทษบาปเรา และยังทรงมอบชีวิตใหม่ให้เราได้ติดตามพระบุตรของพระองค์ การครบรอบ 10 ปีของปฏิญญานี้ จึงเป็นโอกาสให้เราตระหนักถึงความจริงแห่งการเป็นผู้ชอบธรรม การเป็นประจักษ์พยาน และการร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันในกลุ่มคริสตชน พ่อหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การครบรอบ 10 ปีของปฏิญญานี้ จะช่วยนำเราให้ก้าวไปบนหนทางเดียวกัน เพื่อจะได้บรรลุถึงเอกภาพที่เป็นรูปธรรมแห่งการเป็นศิษย์ติดตามพระคริสตเจ้าตลอดไป"
|