พระสันตะปาปาสดุดีนักบุญเกรโกรี่เป็นพีซเมคเกอร์ของจริง / 28 พฤษภาคม 2008 --------------------------------------------------------------------------------
เมื่อช่วงสายของวันพุธที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ได้เสด็จออกมาพบปะเทศน์สอนสัตบุรุษ ในการเข้าเฝ้าประจำสัปดาห์ ณ ลานหน้ามหาวิหาร ซาน เปียโตร โดยวันนี้
พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ ทรงนำชีวประวัติของ "นักบุญ พระสันตะปาปาเกรโกรี่ มหาราช" หนึ่งในบุคคลสุดสำคัญแห่งประวัติศาสตร์พระศาสนจักร มาให้ข้อคิดในเรื่องการเป็นผู้สร้างสันติสุข พระสันตะปาปา
ทรงปรากฏพระองค์ ด้วยพระวรกายค่อนข้างอิดโรย หลังจากต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวลือออกมาเป็นระยะว่า พระสันตะปาปาทรงพระประชวร ทำให้สันตะสำนักสั่งระงับการปฏิบัติภารกิจของพระองค์ กระนั้น อาการเจ็บไข้
ก็มิได้ทำให้พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ ทรงย่อท้อแต่อย่างใด พระองค์ยังคงออกมาเทศน์สอนความรักของพระเจ้า ให้ผู้คนตระหนักและใส่ใจอยู่เสมอ ดั่งในวันนี้ ที่ทรงนำชีวิตของ "นักบุญ พระสันตะปาปาเกรโกรี่ มหาราช" มาแบ่งปัน
พระสันตะปาปาผู้กล้า ทรงเริ่มต้นกล่าวกับทุกคนว่า "นักบุญเกรโกรี่ เกิดในครอบครัวชาวโรมันที่ร่ำรวย ท่านเข้ารับราชการและได้รับบรรดาศักดิ์เป็นข้าหลวงแห่งกรุงโรม แต่จากนั้น
ท่านเกิดความประทับใจชีวิตฤาษี และได้สมัครเข้าเป็นนักบวชในอาราม เพื่อสัมผัสชีวิตดังกล่าว" พระสันตะปาปา ผู้ทรงพระชนม์ 81 ชันษา ตรัสต่อไปว่า "ด้วยความที่มีพระพรจากพระเจ้าอยู่ในตัวอย่างมากมาย พระสันตะปาปา เปลากิอุส ที่ 2 จึงแต่งตั้งท่าน เป็นผู้แทนพระองค์ประจำคอนสแตนติโนเปิ้ล เป็นเวลานาน 6 ปี จากนั้น นักบุญเกรโกรี่ ก็ได้รับการตั้งให้เป็นเลขาฯพระสันตะปาปา ก่อนที่ ค.ศ.590 ท่านจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา เพื่อปกครองพระศาสนจักร"
พระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงชื่นชมการอภิบาลสัตบุรุษของ นักบุญเกรโกรี่ ว่าเป็นแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และยังมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ พระองค์ตรัสว่า "นักบุญเกรโกรี่ ทำงานอย่างสุดความสามารถ ในการยับยั้งพวกลอมบาร์ด ไม่ให้รุกรานกรุงโรม ท่านเป็น พีซเมคเกอร์ ตัวจริงเสียงจริง (The Real Peacemaker - ผู้สร้างสันติตัวจริง) ท่านทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดความสงบสุขในอิตาลี นอกจากนี้ ยังเทศน์สอนและอภิบาลประชาสัตบุรุษอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ดูได้จากช่วงบั้นปลายชีวิต แม้จะเจ็บป่วยอย่างหนัก ก็ยังลุกขึ้นมาสอนสั่งผู้คนให้กลับใจ"
ในตอนท้าย ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงเล่นมุก ด้วยการตรัสว่า พระองค์โชคดีที่แม้จะไม่สบาย ก็ยังมีเครื่องขยายเสียงช่วยแบ่งเบาภาระ ผิดกับนักบุญเกรโกรี่ที่ป่วยจนไม่มีเสียง
ถึงกับต้องให้สังฆานุกรมาเทศน์สอนแทน "สมัยก่อน นักบุญเกรโกรี่ป่วยจนไม่มีเสียงสอนสั่งผู้คน ท่านต้องเขียนบทเทศน์ แล้วให้สังฆานุกรมาอ่านแทน พ่อว่า พ่อโชคดีมากที่ยุคนี้ เรามีไมโครโฟน
ไม่งั้น วันนี้ พ่อเสร็จแน่ !!"
|