ค้นหาข้อมูล :

พระสันตะปาปาขอคริสตชน "จงอย่ากลัวที่จะทำตามพระประสงค์ของพระบิดา" / 30 มีนาคม 2009
--------------------------------------------------------------------------------
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงขอร้องคริสตชนอย่ากลัวที่จะทำตามพระประสงค์ของพระบิดา แม้ยามเผชิญหน้าความลำบากจากวิกฤติเศรษฐกิจ ยก "นักบุญมักซิมิเลี่ยน กอลเบ" เป็นแบบอย่างของผู้อภิบาลคนยากไร้ ตอนท้าย ทรงร่วมยินดีกับเด็กๆที่ได้รับศีลมหาสนิทครั้งแรก พร้อมขอทุกคนภาวนาเพื่อพระองค์ด้วย
 
เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุของค์ที่ 265 แห่งพระศาสนจักรคาทอลิก ได้เสด็จฝ่าสายฝนไปเยี่ยมสัตบุรุษและถวายมิสซาที่วัดพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของกรุงโรม โดยความเป็นมาของวัดแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1982 ในชื่อวัดนักบุญมักซิมิเลี่ยน กอลเบ ต่อมาปี 2001 สังฆมณฑลโรมได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นวัดพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า สำหรับความพิเศษของมิสซานี้ นอกเหนือจากพระสันตะปาปาเป็นประธาน ยังอยู่ที่การรับศีลมหาสนิทครั้งแรกของเด็กๆจำนวนหนึ่งด้วย

ในส่วนใจความสำคัญของบทเทศน์ประจำพิธี พระสันตะปาปาทรงย้ำว่า เมื่อเผชิญกับความทุกข์ยากจากเศรษฐกิจโลก อย่าหมดความหวังและหมดความวางใจในพระเจ้า แต่จงก้มหน้าก้มตาทำตามพระประสงค์ของพระบิดาตลอดเวลา พร้อมกันนี้ ทรงแสดงความยินดีกับเด็กๆทุกคน ในโอกาสการรับศีลมหาสนิทครั้งแรกด้วย

พระสันตะปาปา ตรัสว่า "คริสตชนต้องรู้จักช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้เอาชนะวิกฤติเศรษฐกิจ ปัญหาสังคม ความกลัว และความโดดเดี่ยวเดียวดาย ด้วยการเชิญชวนพวกเขามอบความวางใจไว้กับพระเจ้า เราทุกคนต่างทราบดีว่า บ่อยครั้งดวงอาทิตย์มักถูกบดบังด้วยความมืด แต่เมื่อความมืดผ่านพ้นไปเมื่อไหร่ ความสว่างที่เปรียบได้กับการมีชีวิตชีวาก็จะกลับมาอีกครั้ง"

พระวรสารประจำวันอาทิตย์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต พระเยซูทรงกล่าวถึงการสิ้นพระชนม์และการรับพระสิริรุ่งโรจน์ (จอห์น 12:20-33) พระสันตะปาปาทรงเปรียบเหตุการณ์นี้กับความยากลำบากจากปัญหาเศรษฐกิจว่า "ช่วงเวลานี้ก็เช่นกัน เราทุกคนกำลังพบกับความยากลำบากจากวิกฤติโลก มันก็คล้ายกับเทศกาลมหาพรตที่เราต้องแบกกางเขนซึ่งก็คือความทุกข์ยากและปัญหาต่างๆ เมื่อเราผ่านกางเขนไปได้ เราก็จะพบกับแสงแห่งพระเมตตาศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้าประทานให้ ดังนั้น จงอย่ากลัวที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาต่างๆ เราเอาชนะสิ่งเหล่านี้ได้ ถ้าเรามอบความวางใจในพระคริสตเจ้าและเปิดใจต้อนรับความรักของพระองค์"

"วัดแห่งนี้ ชื่อว่า วัดพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู ฉะนั้น ขอให้เราทุกคนมองไปยังพระพักตร์ของพระองค์ ด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความเชื่อและความวางใจ ขอให้เราถามพระบิดาแบบที่พระเยซูเคยถามว่า "พระเจ้าข้า พระองค์ทรงประสงค์ให้ข้าพเจ้าทำสิ่งใด" จากนั้น จงรำพึงภาวนาและสดับฟังเสียงของพระองค์ เมื่อพระบิดาทรงประสงค์ให้เราทำอะไร เราก็จงทำสิ่งนั้นโดยอาศัยการนำจากพระจิตเจ้า จงทำตามพระประสงค์ของพระองค์และจงปฏิเสธการทำตามใจตนเอง"
ผู้นำชาวคาทอลิกทั่วโลก ตรัสย้ำอย่างหนักแน่น
 
วัดพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเป็นหนึ่งในวัดที่โด่งดังเรื่องการอภิบาลผู้ยากไร้ พระสันตะปาปาจึงนำแบบอย่างของนักบุญมักซิมิเลี่ยน กอลเบ ผู้ยอมตายเพื่อช่วยชีวิตนักโทษคนหนึ่งในค่ายเอ้าชวิตซ์ มาสอนคนวัดนี้ว่า "แบบอย่างของ นักบุญมักซิมิเลี่ยน กอลเบ เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถมองข้ามไปได้เลย นอกจากท่านจะยอมตายแทนนักโทษในค่ายนาซีแล้ว ท่านยังบิดาของผู้ยากไร้จำนวนมาก เหตุฉะนี้ ในยุควิกฤติเศรษฐกิจและสังคม พ่อขอให้ท่านทุกคน โดยเฉพาะผู้ทำงานอภิบาลคนจน อุทิศตนอย่างจริงจังตามแบบฉบับท่านนักบุญ เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้พบกับความรักของพระเจ้าด้วย"

ตอนท้ายของบทเทศน์ พระสันตะปาปาทรงแสดงความยินดีกับเด็กๆที่ได้รับศีลมหาสนิทครั้งแรก พร้อมขอทุกคนอย่าปฏิเสธความรักจากพระเยซู นอกจากนี้ ทรงขอพวกเขาสวดภาวนาเพื่อพระองค์ด้วย
 
"เด็กๆที่รักทุกคน วันนี้ พ่อมีความสุขมากที่ได้มาอยู่กับพวกเธอ แม้ว่าสภาพอากาศของเช้านี้ มันจะแย่หน่อยก็ตาม พ่อได้ยินมาว่า พวกเธอเตรียมตัวกันมาอย่างดีเพื่อจะรับพระเยซูเจ้า (พระสันตะปาปาหยุดสักครู่ แล้วมองไปที่เด็กๆ ก่อนจะตรัสถามว่า) ... ใช่ไหม พวกเธอเตรียมตัวกันมาดีใช่ไหม (ยิ้มและหัวเราะกันทุกคน) ... เอาล่ะ จากนี้ไป เมื่อพวกเธอรับพระกายของพระเยซูเข้าไปแล้ว พ่อก็ขอให้ทุกคนรักพระองค์ให้มากๆ พระเยซูทรงรักเด็กๆทุกคน ดังนั้น อย่าปฏิเสธความรักจากพระองค์เป็นอันขาด"

"สุดท้ายนี้ พ่อก็ขอแสดงความยินดีกับพวกเธอทุกคน ขอให้วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่เต็มไปด้วยความสุขและพระพรจากพระเจ้า ก็ขอให้ทุกคนโชคดี อ้อ !! อย่าลืมสวดให้พ่อด้วยล่ะ แล้วพ่อก็จะสวดให้พวกเธอเหมือนกัน"
พระสันตะปาปาตรัสปิดท้ายพร้อมรอยยิ้ม ท่ามกลางเสียงปรบมืออย่างยาวนาน
 
อนึ่ง หลังจากพิธีมิสซาจบลง พระสันตะปาปาจะเสด็จกลับวาติกัน เพื่อนำสัตุบุรุษภาวนาเทวทูตถือสารต่อไป

Pastoral Visit to Santo Volto di Gesu

ภาพ : AP, AFP, GETTY IMAGES, Reuters, Daylife, Catholic World Tour