"บทความจาก CATHOLIC WORLD TOUR" / เรียบเรียง โดย...แผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
พระสันตะปาปาชี้การคืนชีพของพระเยซูพิสูจน์คำสอนพระองค์เป็นเรื่องจริง / 29 มีนาคม 2008
--------------------------------------------------------------------------------
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก
ทรงยกการกลับคืนพระชนม์ชีพของพระเยซูคริสต์เป็นเครื่องพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่า สิ่งที่พระองค์ตรัสและสอนในระหว่างทรงพระชนม์คือเรื่องจริงทุกประการ
เมื่อช่วงสายของวันพุธที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา
เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งจากคาสเตล กันดอลโฟ มุ่งหน้ามายังมหาวิหาร ซาน เปียโตร วาติกัน เพื่อเป็นประธานในการพบปะและเทศน์สอนสัตบุรุษกว่า 30,000 คนที่มารอเข้าเฝ้าประจำสัปดาห์ โดยในวันนี้
พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ทรงใช้เวลาช่วงเทศน์สอนย้ำเตือนสัตบุรุษว่า การกลับเป็นขึ้นมาจากความตายของพระเยซูคือเครื่องพิสูจน์อย่างแน่ชัดว่า สิ่งที่พระองค์เคยตรัสไว้ก่อนสิ้นพระชนม์นั้น เป็นความจริงทุกประการ
พระสันตะปาปา ตรัสว่า "พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ตลอดเทศกาลปาสกาจะประกาศถึงการกลับคืนพระชนม์ชีพของพระคริสตเจ้าด้วยความชื่นชมยินดี
เพราะนี่คือแก่นแท้ตามหลักความเชื่อคริสตศาสนาและชี้ให้เห็นถึงการได้รับชีวิตนิรันดร"
ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงกล่าวต่อไปว่า
"การกลับคืนชีพของพระคริสตเจ้ายังทำให้ผู้มีความเชื่อทุกคนได้กลับคืนชีพเหมือนกับพระองค์ในวันสุดท้าย การสิ้นพระชนม์ของพระอาจารย์เจ้าแสดงให้เห็นถึงความรักอันยิ่งใหญ่ที่พระองค์มีต่อเรา นอกจากนี้
การกลับคืนชีพของพระเยซูยังเป็นการพิสูจน์อย่างชัดแจ้งถึงสิ่งที่พระองค์เคยตรัสว่าจะกลับคืนชีพในวันที่สาม เป็นเรื่องจริงทุกประการ"
"มันสำคัญมากที่พ่อต้องพูดถึงพื้นฐานสัจธรรมแห่งข้อความเชื่อนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก
นี่คือเรื่องจริงทางประวัติศาสตร์และยังได้รับการบันทึกเป็นเอกสารต่างๆมากมาย แต่สถานการณ์ในปัจจุบันก็ยังเหมือนกับสมัยก่อนไม่เปลี่ยนแปลง กล่าวคือ ยังมีผู้คนมากมายที่สงสัยและปฏิเสธความจริงที่เกิดขึ้น
ผลกระทบที่ตามมาสำหรับคริสตชนซึ่งความเชื่ออ่อนแอก็คือเขาจะอ่อนแอในการเป็นพยานยืนยันถึงการกลับคืนชีพของพระเยซูด้วยเช่นกัน"
"ดังนั้น พ่อขอย้ำอีกครั้งว่า
พิธีกรรมในเทศกาลปาสกาเน้นให้เรามีความเชื่อเรื่องการกลับคืนพระชนม์ชีพอย่างสุดจิตใจ พ่อขอให้ทุกคนร่วมพิธีต่างๆตลอดเทศกาลปาสกาอย่างกระตือรือร้นและหมั่นรับศีลมหาสนิทอย่างสม่ำเสมอ นี่คือหนทางที่จะทำให้เราพบกับพระเยซูเหมือนอย่างศิษย์
2 คนที่เดินทางไปเอ็มมาอุสพร้อมกับพระองค์ ตลอดระยะทางที่เดินไป พระองค์ได้แบ่งปันพระคัมภีร์ให้พวกเขาฟัง แต่กระนั้นเขาก็ยังจำไม่ได้ว่าคนนี้คือพระอาจารย์ของตน
พวกเขามาจำได้ก็เมื่อพระองค์ทรงหยิบขนมปังขึ้นขอบพระคุณและบิออกส่งให้พวกเขา"
"เหตุการณ์ที่เอ็มมาอุสคือสิ่งที่พระเยซูทรงสอนเราว่า จากนี้ไป
พระองค์ทรงประทับอยู่ในศีลมหาสนิท ดังนั้น คริสตชนจึงควรรับศีลมหาสนิทอย่างสม่ำเสมอ เพื่อจะได้เข้าใจและนำพระองค์มาประทับในชีวิตเรา" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย
อนึ่ง มีรายงานเข้ามาว่า
ตลอดการเทศน์สอนของวันนี้ พระสันตะปาปาตรัสด้วยเสียงแหบอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ก็เพราะพระองค์ทรงใช้เสียงอย่างมากตลอดสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ที่ผ่านมา และหลังจากการเข้าเฝ้าประจำสัปดาห์จบลง สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงต้อนรับ
เซอร์เก เคริม ประธานสมัชชาองค์การสหประชาชาติที่เดินมาเข้าเฝ้า เพื่อกราบทูลรายละเอียดต่างๆถึงสิ่งที่พระองค์จะปฏิบัติระหว่างการเสด็จเยือนสหรัฐอเมริกา ตามด้วยกลุ่มคริสตชนจากสเปนที่เข้าเฝ้าเพื่อถวายหนังสือ ก่อนที่ช่วงบ่าย
พระสันตะปาปาจะประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จกลับไปพำนักที่คาสเตล กันดอลโฟต่อจนถึงวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม
ที่มา : http://www.catholicnewsagency.com/new.php?n=12153
GENERAL AUDIENCE WITH HOLY FATHER
บรรยากาศการเข้าเฝ้าประจำสัปดาห์ ณ ลานหน้ามหาวิหาร ซาน เปียโตร
พระสันตะปาปาต้อนรับ เซอร์เก เคริม ประธานสมัชชาองค์การสหประชาชาติ
พระสันตะปาปาต้อนรับกลุ่มคริสตชนจากสเปน
ภาพ : AP, L'Osservatore Romano, Reuters
