"บทความจาก CATHOLIC WORLD TOUR" / เรียบเรียง โดย...แผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
พระสันตะปาปาให้ข้อคิดความสุขแท้จริงมาจากการมีความหวังในพระเจ้า | 13 มีนาคม 2008
--------------------------------------------------------------------------------
เมื่อช่วงเช้าของวันพุธที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่
งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงออกมาพบปะเทศน์สอนสัตบุรุษในระหว่างการเข้าเฝ้าทั่วไปซึ่งจัดขึ้น ณ หอประชุมเปาโล ที่ 6 ภายในนครรัฐวาติกัน โดยวันนี้ พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ยังคงนำชีวประวัติขอ
งผู้นำพระศาสนจักรยุคแรกเริ่มมาสอนสั่งสัตบุรุษ ครั้งนี้เป็นคิวของ "โบเอเธียส" และ "คาสซิโอโดรัส" สองนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่
พระสันตะปาปา เริ่มต้นด้วยการเล่าชีวประวัติของโบเอเธียสว่า "โบเอเธียสเกิดเมื่อค.ศ.480 ในครอบครัวที่มีฐานะมั่งคั่งร่ำรวย ท่านได้รับเลือกให้เป็นวุฒิสมาชิกตั้งแต่อายุ 25 ปี อย่างไรก็ตา
ม ระหว่างที่รับราชการ โบเอเธียสได้ศึกษาปรัชญาและเทวศาสตร์ควบคู่ไปด้วย ท่านเกิดความตั้งใจอย่างแรงกล้าในการปกปักษ์รักษามรดกของชาวกรีกและโรมันให้ชนรุ่นหลังได้รับรู้ จะว่าไปแล้ว โบเอเธีย
สได้รับการขนานนามว่าเป็นปัญญาจารย์คนสุดท้ายในยุคโรมันโบราณ หรือจะเรียกว่าเป็นปัญญาจารย์คนแรกในยุคกลางก็ได้"
"แต่โชคร้ายที่โบเอเธียสต้องตกเป็นเหยื่อทางการเมืองทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ท่านถูกจับขังคุกและตัดสินประหารชี
วิต ในระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่ในคุก โบเอเธียสได้เขียนหนังสือที่ว่ากันว่า เป็นผลงานที่ดีที่สุดของท่าน นั่นคือ ปรัชญาซึ่งว่าด้วยการปลอบโยน (The Consolation of Philosophy) หนังสือเล่มนี้ อธิบายถึงเวลาที่เราเผชิญหน้ากับควา
มอยุติธรรม ความจริงเท่านั้นที่จะเป็นยารักษาจิตวิญญาณให้มีความสุข ความจริงที่โบเอเธียสหมายถึงก็คือพระเจ้า พระเจ้าคือองค์ความดีและพระองค์เท่านั้นที่รู้ว่า เราทำดีชั่วเช่นไร"
หลังจากตรัสเล่าเรื่องโบเอเธียสแล้ว พระสันตะปาปาทรงต่อด้วยชีวประวัติของคาสซิโอโดรัส อีกหนึ่งสุดยอดนักเขียนของพระศาส
นจักรยุคแรกเริ่ม "มาร์คุส ออเรลิอุส คาสซิโอโดรัส เป็นคนที่มีชีวิตอยู่ในยุคเดียวกับโบเอเธียส ท่านอุทิศตนให้กับการค้นคว้า,เก็บ
รักษา,รวบรวมมรดกอันมีค่าที่ได้รับมาจากพระศาสนจักรยุคแรกเริ่ม นอกจากนี้ คาสซิโอโดรัสยังได้ก่อตั้งอารามฤาษีเพื่อฝึกอบรมนักบวชอีกด้วย"
"คาสซิโอโดรัส มักจะเน้นย้ำอยู่เสมอว่า จุดมุ่งหมายขั้นพื้นฐานของการใช้ชีวิตพรตในอารามก็คือการรำพึงภาวนาแบบเพ่งพิศกับพระเจ้า อย่างไรก็ตาม ท่านก็สอนสั่งฆราวาสทั่วไปว่า แม้จะไม่ได้เป็นนักบวชแบบท่าน การใช้ชีวิตแบ
บคนธรรมดาทั่วไปก็สามารถทำให้เราเข้าถึงพระวาจาของพระเจ้าได้เหมือนกัน เพียงแต่อาจเป็นมุมมองที่ต่างออกไปเท่านั้นเอง"
"พ่อคิดว่า สิ่งที่คาสซิโอโดรัสบอกนั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญมากในยุคปัจจุบัน ฆราวาสทั่วไปก็สามารถอุทิศตนให้กับกา
รปกปักษ์รักษามรดกอันมีค่าที่ได้รับสืบทอดกันมา เช่นเดียวกัน เรายังสามารถนำพระวาจาของพระเจ้าไปประยุกต์ใช้เข้ากับการดำเนินชีวิตประจำวัน และบางทีอาจสะท้อนข้อคิดออกมาได้ดีกว่าบรรดานักบวชด้วยซ้ำไป" พระสันตะปา
ปา ตรัสปิดท้าย
ที่มา: http://www.cwnews.com/news/viewstory.cfm?recnum=57188
