พระสันตะปาปาชี้เรื่องลาซารัสแสดงถึงพระเยซูมีอำนาจเหนือความตาย / 10 มีนาคม 2008
-------------------------------------------------------------------------------- สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก
ทรงแบ่งปันบทพระวรสารเรื่องลาซารัสว่าเป็นเครื่องหมายแสดงให้เห็นถึงการมีอำนาจเหนือความตายของพระเยซูคริสตเจ้า พร้อมกันนี้ ยังกระตุ้นเราทุกคนมีความเชื่อในพระเจ้าให้มากๆ เพราะสิ่งที่พระเยซูทรงกระทำ
อยู่เหนือความสามารถของมนุษย์จะเข้าใจได้ เมื่อช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงเป็นประธานในการสวดภาวนาเทวทูตถือสาร ณ ลานหน้ามหาวิหารซาน เปียโตร ท่ามกลางสัตบุรุษกว่า
40,000 คน โดยช่วงเช้าของวันดังกล่าว พระสันตะปาปาได้เสด็จไปถวายมิสซาฉลอง 25 ปีแห่งการก่อตั้งศูนย์เยาวชนนานาชาติซาน ลอเร็นโซ่ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับวาติกัน ก่อนจะกลับมานำภาวนาเทวทูตถือสาร
สำหรับบทเทศน์แบ่งปันข้อคิดจากพระวรสารประจำวันอาทิตย์ที่ 5 ในเทศกาลมหาพรต พระสันตะปาปาทรงเทศน์เรื่องเดียวกับที่สอนเยาวชนที่ศูนย์ซาน ลอเร็นโซ่ นั่นคือ การกลับเป็นขึ้นมาจากความตายของลาซารัส
แสดงให้เราเห็นถึงพระธรรมชาติความเป็นพระเจ้าและเป็นมนุษย์ที่มีอยู่ในตัวของพระเยซู พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ เริ่มต้นตรัสว่า
"การนอนแน่นิ่งคือเครื่องหมายของการสิ้นใจทางร่างกาย แต่การนอนนิ่งด้วยความตายทางกาย พระเจ้าสามารถปลุกมนุษย์ให้ตื่นขึ้นได้ตลอดเวลา เราสามารถดูตัวอย่างจากลาซารัส,บุตรของหญิงม่ายที่เมืองนาอิน(ลูกา 7:11-17),บตรสาวของหัวหน้าศาลาธรรม(มาร์โก 5:35-43) เรื่องราวเหล่านี้บอกเราว่า พระเยซูคือพระเจ้า พระองค์ทรงมีอำนาจเหนือความตายทั้งมวล แต่แม้จะเป็นพระเจ้า พระเยซูก็ทรงมีสภาพมนุษย์อยู่ในตัวเช่นกัน ดูได้จากการที่พระองค์ทรงร้องไห้เสียใจ เมื่อเห็นมาร์ธาและมารีย์ร้องไห้ที่พี่ชายตายไป"
"นี่แหละที่แสดงให้เห็นว่า พระเยซูทรงเป็นทั้งพระเจ้าและมนุษย์ ในองค์พระคริสตเจ้า พระเจ้าและมนุษย์ได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน การรวมนี้ไม่มีสิ่งใดสามารถแยกออกจากกันได้
ในความเป็นจริงแล้ว พระคริสต์คือพระฉายาลักษณ์ความเป็นมนุษย์ของพระเจ้า พระองค์คือความรัก,ความเมตตาและเป็นผู้ทรงชีวิตให้กับเราทุกคน" พระสันตะปาปาสุดยอดนักเทวศาสตร์
ยังกระตุ้นให้เราทุกคนมีความเชื่อในพระเจ้าให้มากๆ โดยดูตัวอย่างจากมาร์ธาที่บอกพระเยซูว่าลาซารัสตายไป 4 วันและศพเริ่มมีกลิ่น จะมีทางฟื้นจากความตายได้อย่างไร แต่กระนั้น พระเยซูก็แสดงให้เห็นว่า ความตายไม่สามารถทำอะไรพระองค์ได้
"พ่อเชื่อว่า ถ้าตอนนั้นเราเป็นมาร์ธา เราก็คงสงสัยว่าจะเป็นไปได้อย่างไร แต่กระนั้น สิ่งที่พระเยซูทรงกระทำมันก็อยู่เหนือความสามารถของมนุษย์จะเข้าใจได้ เราต้องมีความเชื่อเท่านั้น พระเยซูสอนให้เราเชื่อพระองค์
เหมือนอย่างที่พระองค์ทรงเชื่อฟังพระบิดาเสมอมา" หลังจากเทศน์สอนและนำภาวนาเทวทูตถือสารแล้ว พระสันตะปาปาชาวเยอรมันได้ตรัสเรียกร้องให้กลุ่มคนร้ายที่ลักพาตัวพระอัครสังฆราช เปาลอส ราห์โฮ ประมุขอัครสังฆมณฑลโมซูล
ประเทศอิรัก ที่ถูกลักพาตัวไปกว่า 2 สัปดาห์ ได้รีบปล่อยตัวพระคุณเจ้าออกมาโดยเร็ว นอกจากนี้ พระสันตะปาปายังตรัสขอร้องอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างจริงจัง พระองค์ทรงกล่าวว่า "ในนามของพระเจ้า พ่อขอสั่งให้ทั้งสองฝ่ายยุติการนองเลือดในบ้านเกิดของพระเยซูคริสต์ได้แล้ว!! ขอให้ทั้งสองดำเนินการเจรจาสร้างสันติภาพและความเข้าใจในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ พ่อขอวิงวอนพระเจ้า โปรดประทานความบรรเทาให้กับผู้บริสุทธิ์ที่ต้องประสบกับความสูญเสียทุกคน ขอพระองค์โปรดประทานสันติภาพมายังดินแดนนี้โดยเร็ววัน"
ท้ายที่สุด พระสันตะปาปาทรงกล่าวกับบรรดาเยาวชนที่ติดตามพระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์มาจากศูนย์เยาวชนนานาชาติซาน ลอเร็นโซ่ เพื่อมาร่วมสวดภาวนาเทวทูตถือสาร
พระองค์เชิญชวนพวกเขาให้มารับศีลอภัยบาปในวันพฤหัสบดีนี้ที่มหาวิหาร ซาน เปียโตร "เยาวชนสังฆมณฑลโรมที่รักทุกคน วันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้
พ่อจะมาฟังแก้บาปให้กับพวกเธอที่มหาวิหาร ซาน เปียโตร ดังนั้น ขอเชิญมาสัมผัสกับพระเมตตาของพระเยซูผ่านทางศีลอภัยบาป ก่อนที่จะไปร่วมงานชุมนุมเยาวชนโลกที่ซิดนี่ย์ ประเทศออสเตรเลีย นอกจากนี้
พ่อขอฝากไปยังบรรดาพระสงฆ์และผู้อภิบาลเยาวชน ขอให้พวกท่านช่วยกระตุ้นเยาวชนในความดูแลมารับศีลอภัยบาปอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่ว่า พวกเขาจะได้เป็นทูตของพระคริสตเจ้าและได้ร่วมคืนดีกับพระองค์"
ที่มา: http://www.catholicnewsagency.com/new.php?n=12017 ภาพ : AP, Reuters
|