หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

"บทความจาก CATHOLIC WORLD TOUR" / เรียบเรียง โดย...แผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ  อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

พระสันตะปาปาหวังคริสตชนเป็นหนึ่งเดียวกันในปีนักบุญเปาโล  /29 มิถุนายน  2008
--------------------------------------------------------------------------------
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงเปิดปีนัก บุญเปาโลอย่างเป็นทางการ พร้อมย้ำ ปีดังกล่าว มีเพื่อให้คริสตชนเอาชนะความแตกแยก และเกิดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน แบบที่นักบุญเปาโลสอนให้คริสตชนรักกันฉันท์พี่น้องในพระคริสตเจ้า นอก จากนี้ พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ ยังทรงจุดเทียน สื่อความหมายของสัจธรรมความจริง ซึ่งเทียนนี้ จะส่องสว่างตลอดปีนักบุญเปาโลด้วย

เมื่อเวลา 18.00 น. ของวันเสาร์ที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา (ตรงกับ 23.00 น. ตามเวลาในไทย) สมเด็ จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก พร้อมด้วย สมเด็จพระอัยกา บาร์โธโลเมออส ที่ 1 ประมุขพระศาสนจักรออโธด็อกซ์แห่งคอนสแตนติโนเปิ้ล ทรงร่วมกั นเป็นประธานวจนพิธีกรรมเปิดปีนักบุญเปาโล ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิหารนักบุญเปาโล นอกกำแพงกรุงโรม ปีดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อระลึ กถึงการเกิดมาครบ 2,000 ปีของอัครธรรมทูตผู้ยิ่งใหญ่ของคริสตศาสนา ทั้งยัง กระตุ้นให้คริสตชนทุกคน ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันเหมือนอย่างที่ นักบุญเปาโล สอนไว้

ก่อนขบวนแห่ของประธานจะเข้าสู่มหาวิหาร ได้มีการจุดเทียน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ถึงความจริงตามที่นักบุญเปาโลเทศน์สอน พระสันตะปาปาทรงเป็นผู้จุดคนแรก ก่อนจะตามด้วย พระอัยกา และผู้แทนศาสนาคริสต์ นิกายต่างๆ โดยเทียนนี้ จะถูกจุดส่องสว่าง จนกว่าจะจบปีนักบุญเปาโล (28 มิถุนายน 2008 - 29 มิถุนายน 2009) ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ดามัสกัส เมืองที่นักบุญเปาโลกลับใจ ก็ได้มีพิธีเปิดปีนักบุญเปาโลด้วย โดยเป็นความร่วมมือระหว่างชาวคาทอลิก, ออโธด็อกซ์, โปรเตสตันท์

สำหรับใจความสำคัญของบทเทศน์ในวจนพิธี พระสันตะปาปา ทรงเริ่มต้นถามสัตบุรุษว่า "นักบุญเปาโลคือใคร นี่คือคำถาม สำหรับปีนักบุญเปาโล ก่อนจะฉลองปีดังกล่าว เราต้องรู้ความหมายให้ชัดเจนถูกต้อง"

พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ ตรัสต่อไปว่า "นักบุญเปาโลคืออาจารย์ของชาวต่างชาติและเป็นผู้ประกาศพระนามของพระเยซูคริสต์ นี่คือสิ่งที่ท่านพรรณนาตนเองตลอดชีวิต การที่ท่านอธิบายตัวเองเป็นอาจารย์ของชาวต่างชาติ เป็นสาวก ของคนต่างศาสนา แสดงให้เห็นว่า นักบุญเปาโลมองไปยังอนาคตข้างหน้า มองที่การสั่งสอนและประกาศพระนามพระเยซูให้กับประชากรทุกยุคทุกสมัย ดังนั้น พ่ออยากย้ำเตือนพวกเราอีกครั้ง นักบุญเปาโลไม่ใช่แค่ปูชนียบุคค ลในอดีตกาล ที่เราระลึกถึงเพื่อให้ความเคารพเท่านั้น แต่ท่านยังเป็นครูอาจารย์, เป็นอัครสาวก, เป็นผู้ประกาศข่าวดีของพระเยซูคริสต์ให้กับเราซึ่งเป็นเป็นประชากรในยุคนี้ นี่คือเหตุผลที่พ่อปรารถนาให้มีการชุมนุม เพื่อเปิดปี นักบุญเปาโล พ่ออยากให้ทุกคนเรียนรู้และฟังคำสอนของนักบุญเปาโล ผู้เป็นอาจารย์ของพวกเรา ขอให้ทุกคนตระหนักเสมอว่า ความเชื่อและความจริงซึ่งเป็นรากฐานของเหตุผล คือบ่อเกิดสำหรับความเป็นหนึ่งเดียวกันในกา รเป็นสาวกติดตามพระคริสตเจ้า"

"ในบทจดหมายถึงชาวกาลาเทีย นักบุญเปาโลแสดงให้เห็นถึงการเป็นคนมีความเชื่อแบบมืออาชีพ ท่านเปิดใจตัวเอง ให้ผู้อ่านได้รับรู้ว่า ความเชื่อเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อชีวิตท่านอย่างไร นักบุญเปาโลเขียนว่า 'ข้าพเจ้าด ำเนินชีวิตด้วยความเชื่อในพระบุตรของพระเจ้า ผู้ทรงรักข้าพเจ้าและทรงมอบพระองค์เพื่อข้าพเจ้า" (กาลาเทีย 2:20) ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตนักบุญเปาโล เริ่มต้นจากตรงนี้ ความเชื่อคือการประสบกับความรักอย่างสมบูรณ์แบ บของพระเยซูคริสต์ด้วยตัวเอง ความเชื่อของท่านนักบุญ ยังแสดงให้เห็นถึงความจริงที่ว่า พระเยซูทรงเผชิญความตาย ไม่ใช่เพื่อคนใดคนหนึ่งเท่านั้น แต่ทรงยอมตายเพื่อมนุษย์ทุกคน ความเชื่อของนักบุญเปาโล ไม่ใช่ทฤษฎีเ กี่ยวกับพระเจ้าและโลกมนุษย์ แต่มันคือความจริงหลังได้ประสบกับความรักของพระเจ้า ท่านประสบรักนี้ ด้วยหัวใจของตนเอง ดังนั้น สรุปได้ว่า ความเชื่อของนักบุญเปาโล ก็คือ ความรักที่ท่านมอบให้กับพระเยซูคริสต์"

"ความรักยังได้กลายมาเป็นกฏแห่งชีวิตของท่านนักบุญเปาโล ทำนองเดียวกัน ความรักยังมอบอิสรภาพที่แท้จริงให้กับท่าน นักบุญเปาโลเทศน์สอนและกระทำทุกอย่าง โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรัก ท่านรักทุกคนอย่างจริงใ จ ไม่ใช่รักเพียงลมปากเท่านั้น ความรักยังทำให้นักบุญเปาโล รับใช้เพื่อนพี่น้องด้วยความเต็มใจ โดยไม่ยึดติดกับความมีอีโก้ตามประสามนุษย์"

พระสันตะปาปายังอธิบายถึงการกลับใจของนักบุญเปาโล พระองค์ตรัสว่า "ในอดีต นักบุญเปาโลเป็นผู้ข่มเหงกลุ่มคริสตชน วันหนึ่ง พระเยซูทรงปรากฏแก่ท่าน พร้อมตรัสถามว่า 'เซาโล เซาโล เจ้าเบียดเบียนเราทำไม' เรื่องนี้ พระเยซู ทรงต้องการบอกเราว่า ตัวพระองค์เองและพระศาสนจักรเป็นหนึ่งเดียวกัน ถ้าเบียดเบียนผู้มีความเชื่อในพระเจ้า ก็เท่ากับเบียดเบียนพระองค์ด้วย นี่คือการเผยแสดงความจริงที่พระเยซูต้องการให้มนุษย์ได้รับรู้ พระศาสนจักรคือ พระวรกายของพระเยซู ผู้ทรงกลับคืนชีพจากความตาย และยังคงมีชีวิตจนถึงทุกวันนี้"

"ณ ตอนนี้ เป็นเรื่องเร่งด่วนและจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องทำให้พระวรกายของพระคริสต์ ได้กลับมารวมเป็นหนึ่ง เ ราต้องยอมรับความจริงที่ว่า เรารับพระกายของพระคริสตเจ้าองค์เดียวกัน ฉะนั้น เราก็ต้องเป็นหนึ่งเดียวกันในพระองค์ โดยปราศจากการแตกแยกและแบ่งฝักแบ่งฝ่าย นักบุญเปาโลได้สอนเรื่องความรักอย่างสมบูรณ์แบบ รักแ บบไม่ยึดติดกับอีโก้ของตัวเอง ถึงเวลาแล้ว ที่เราต้องทำให้สิ่งเหล่านี้ กลายเป็นความจริง" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย


ที่มา: http://www.asianews.it/index.php?l=en&art=12631&theme=2&size=A