ค้นหาข้อมูล :

พระสันตะปาปาเปิดประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิกแอฟริกันแล้ว  /05 ตุลาคม  2009
--------------------------------------------------------------------------------
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงเปิดประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งแอฟริกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมชี้ แอฟริกากำลังเผชิญไวรัสตัวร้ายอย่าง "ลัทธิวัตถุนิยม" และ "ลัทธิเคร่งศาสนาแบบผิดๆ" ย้ำ ซินน็อตครั้งนี้ มุ่งเน้นสร้างความเข้มแข็งให้สถาบันครอบครัว และช่วยเหลือเด็กชาวแอฟริกันที่ต้องทนทุกข์จากความขัดแย้งต่างๆนาๆ
 
เมื่อช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงเป็นประธานในพิธีมิสซาเปิดการประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งทวีปแอฟริกา (แอฟริกัน ซินน็อต) ซึ่งจัดขึ้นภายในมหาวิหารนักบุญเปโตร โดยพิธีนี้ มีพระสังฆราชชาวแอฟริกันมาร่วมถึง 239 องค์ และยังมีพระสงฆ์ผู้ร่วมการประชุมอีก 55 องค์ ในส่วนของซินน็อต จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 4-25 ตุลาคม 2009 และสำหรับบทเทศน์ประจำมิสซา พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ ทรงแสดงความวิตกต่อปัญหาวัตถุนิยมและการศรัทธาศาสนาแบบผิดวิธี ซึ่งกำลังระบาดในแอฟริกา นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงเรียกร้องให้ทุกฝ่าย ปกป้องสถาบันครอบครัวและเด็กๆอีกด้วย

พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ผู้เสด็จเยือนแคเมอรูนและแองโกลาเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทรงเริ่มต้นบทเทศน์ด้วยการรำลึกถึงการประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งแอฟริกาเมื่อ ค.ศ.1994 ซึ่งครั้งนั้น สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ทรงจัดขึ้นเพื่อให้แอฟริกาเตรียมความพร้อมด้านจิตใจ ก่อนเข้าสู่ปีปีติมหาการุญด้วยความชื่นชมยินดี "ซินน็อตเมื่อ 15 ปีที่แล้ว จัดเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่สำคัญและรวมวัฒนธรรมที่โดดเด่นของทวีปแอฟริกาให้เป็นหนึ่งเดียวกัน นี่คือการตระหนักถึงความศักดิ์สิทธิ์พระเจ้า ผู้ประทับ ณ ที่สูงสุด"

พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงกล่าวต่อไปว่า "แน่นอนว่า ทรัพย์สมบัติของแอฟริกาคือทรัพยากรล้ำค่ามากมายที่อยู่ตามผืนดินต่างๆ ทว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าที่มันต้องกลายเป็นชนวนให้เกิดสงคราม ความขัดแย้ง และการคอร์รัปชั่น แต่เหนือสิ่งอื่นใด มนุษยชาติทุกคนต่างต้องการมรดกทางวัฒนธรรมและจิตใจ สิ่งนี้ มีค่ามากกว่าวัตถุฝ่ายกายชนิดประเมินค่าไม่ได้"

"กระนั้นก็ตาม ตอนนี้ ปอดฝ่ายจิตใจของทวีปแอฟริกากำลังเผชิญหน้ากับความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโรคอันตราย 2 ชนิด หนึ่งคือเชื้อโรคที่แผ่ระบาดมาจากโลกตะวันตก มันมีชื่อในทางปฏิบัติว่า ลัทธิวัตถุนิยม นี่คือโรคที่เกิดจากการผสมกันของแนวคิดโลกนี้ไม่มีพระเจ้ากับแนวคิดที่ว่าศีลธรรมเป็นเรื่องไร้ค่า เป็นที่รู้กันดีว่า โลกยุคปัจจุบันมียาพิษฝ่ายจิตจำนวนมาก มันแพร่ขยายไปยังประชากรทุกทวีป รวมทั้งแอฟริกาด้วย"

"ส่วนเชื้อโรคตัวที่สอง ชื่อว่า ลัทธิเคร่งศาสนาแบบผิดๆ มันคือการผสมกันระหว่างประเด็นทางการเมืองและเศรษฐกิจ มีหลายกลุ่มหลายองค์กรเดินทางมาประกาศศาสนาในแอฟริกา พวกเขาบอกว่าทำในนามพระเจ้า แต่เมื่อพิจารณาจากสิ่งที่เขาปฏิบัตินั้น มันตรงข้ามกันสิ้นเชิง พวกเขาไม่สอนความรักและการเคารพเสรีภาพ ตรงกันข้าม กลับสอนการใช้ความรุนแรงและการไม่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่น"

พระวรสารประจำวันอาทิตย์ที่ 27 ในเทศกาลธรรมดา พระเยซูเจ้าก็สอนเรื่องการหย่าร้างและเด็ก (มาร์โก 10:2-16) พระสันตะปาปาจึงนำเรื่องนี้เชื่อมโยงเข้ากับการประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งทวีปแอฟริกา โดยทรงย้ำว่า ซินน็อตครั้งนี้จะเน้นหนักไปที่เรื่องครอบครัวและเด็กๆเป็นสำคัญ

"สมัชชาครั้งนี้ จะให้ความสนใจต่อสภาพความเป็นจริงที่เกิดกับเด็กๆ ซึ่งเป็นคนหมู่มากที่ต้องทนทุกข์ในทวีปแอฟริกา พระศาสนจักรในแอฟริกามุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือเด็กทุกคน รวมถึงเด็กที่ยังไม่ลืมตาดูโลก เราทำดังนี้ เพราะมนุษย์ทุกคนมีสิทธิในการดำเนินชีวิตตั้งแต่วินาทีแรกในครรภ์มารดา การจะเผชิญหน้ากับความท้าทายที่กล่าวมา พระศาสนจักรในแอฟริกาจะต้องดำเนินการประกาศพระวรสารรูปแบบใหม่ สิ่งนี้ เรียกร้องท่านให้ปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อก้าวให้ทันสังคมและปรากฏการณ์โลกาภิวัฒน์ เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเน้นย้ำการยกระดับการดำเนินชีวิตคริสตชน กล่าวคือ เราต้องเพิ่มระดับการดำเนินชีวิตด้วยความศักดิ์สิทธิ์ ทั้งพระสงฆ์และนักบวชทุกคน ต่างได้รับกระแสเรียกให้มาเป็นนักบุญ"
 
"ส่วนบรรดาฆราวาส พวกท่านก็ได้รับกระแสเรียกให้ประกาศความศักดิ์สิทธิ์ภายในครอบครัว สถานที่ทำงาน โรงเรียน และสถานที่สาธารณต่างๆ รวมไปถึงการแสดงออกทางการเมือง ถ้าสิ่งเหล่านี้บังเกิดผล พระศาสนจักรในแอฟริกาก็จะกลายเป็นศิษย์ที่แท้จริงของพระเยซูคริสต์ เช่นเดียวกัน พระศาสนจักรในแอฟริกาก็จะรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ความแตกต่างทางเผ่าพันธุ์ก็จะจางหายไป"
 
"การให้อภัยและคืนดีเป็นของขวัญจากพระเจ้าที่มนุษย์ต้องน้อมรับและนำไปใช้ในการดำเนินชีวิต นี่คือรากฐานอันมั่นคงที่จะใช้สร้างสันติ ดังนั้น จงอย่ากลัวที่จะเป็นคนแรกในการทำให้เกิดการคืนดี จงก้าวไปออกทำให้สังคมเกิดการคืนดีกัน" พระสันตะปาปา ตรัสในตอนท้าย

หลังพิธีมิสซาจบลง พระสันตะปาปาได้เป็นประธานในการสวดเทวทูตถือสาร โดยก่อนภาวนา พระองค์ทรงเชิญชวนสัตบุรุษ สวดให้การประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งทวีปแอฟริกาประสบผลสำเร็จด้วยดี นอกจากนี้ ยังขอให้สวดอุทิศแด่ดวงวิญญาณผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่อินโดนีเซีย, ผู้ประสบภัยพายุไต้ฝุ่นกิสนาที่ฟิลิปปินส์, เวียดนาม, ลาว และกัมพูชา ก่อนจะปิดท้าย ด้วยการขอให้สวดอุทิศแด่วิญญาณผู้เสียชีวิตจากเหตุโคลนถล่มที่ซิซิเลีย ประเทศอิตาลี