ค้นหาข้อมูล :

พระสันตะปาปาอภิเษกพระอัครสังฆราชใหม่ 5 องค์ ย้ำ "อย่าทำงานเพื่อตัวเอง" / 13 กันยายน 2009

--------------------------------------------------------------------------------
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงอภิเษกพระอัครสังฆราชใหม่ 5 องค์ พร้อมย้ำ นายชุมพาบาลหน้าใหม่ก็คือศิษย์ 72 คนที่พระเยซูทรงส่งออกไปทำงานรับใช้ผู้อื่น มิใช่ทำงานเพื่อตนเอง พร้อมกันนี้ ทรงเตือนสติ พระสังฆราชต้องสุขุมรอบคอบ ต้องสุภาพ และปกครองคนอื่นด้วยหลักเหตุผล ไม่ใช่ให้อารมณ์นำพาจนฝูงแกะแตกกระเจิง
 
เมื่อช่วงสายวันเสาร์ที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงเป็นประธานในพิธีมิสซาอภิเษกพระอัครสังฆราชใหม่ 5 องค์ ซึ่งจัดขึ้นในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน โดยนายชุมพาบาลป้ายแดงทั้งห้าองค์ ประกอบไปด้วย พระอัครสังฆราช กาบริเอเล่ คัชช่า สมณทูตวาติกันประจำเลบานอน, พระอัครสังฆราช ปิเอโตร ปาโรลิน สมณทูตวาติกันประจำเวเนซุเอล่า, พระอัครสังฆราช ฟรังโก้ ค็อปโปล่า สมณทูตวาติกันประจำบุรุนดี, พระอัครสังฆราช จอร์โจ คอร์เบลลินี่ ประธานสหภาพแรงงานประจำสันตะสำนัก และ พระสังฆราช รัฟฟาเอลเล่ มาร์ติเนลลี่ ประมุขสังฆมณฑลฟราสชาติ ประเทศอิตาลี

ในส่วนใจความสำคัญบทเทศน์ประจำมิสซา พระสันตะปาปาทรงให้ข้อคิดว่า พระ(อัคร)สังฆราชต้องไม่ยึดตัวเองเป็นที่ตั้งและต้องไม่ทำงานโดยเห็นแก่ประโยชน์ของตัวเอง แต่ต้องสุขุมรอบคอบและแสวงหาความจริงในพระคริสตเจ้า ถ้าทำได้ตามนี้ นายชุมพาบาลก็จะสามารถนำฝูงแกะเดินไปหาพระเจ้าได้อย่างแน่นอน

พระสันตะปาปา ตรัสว่า "ความศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านได้รับจะถูกเติมเต็มด้วยพระจิตของพระเจ้าและพวกท่านจะดำเนินชีวิตอยู่ในพระองค์ พระสังฆราชต้องนำข่าวดีไปประกาศแก่ผู้ยากไร้ ท่านต้องนำความหวังและเสรีภาพแท้จริงไปรักษาผู้ป่วยทางใจทุกคน ในพระคัมภีร์ พระเยซูทรงส่งศิษย์ 72 คนออกไปเทศนา พระองค์ย้ำกับพวกเขาว่า จงเป็นหนึ่งเดียวกับทุกคน จงรักษาบาดแผลในจิตใจ และจงนำคนที่ห่างไกลจากพระเจ้าให้มารู้จักพระองค์"

"พระเยซูทรงสรุปความหมายของการเป็นสงฆ์ไว้ให้เราแล้ว ใจความนั้นสั้นๆแค่ประโยคเดียว นั่นคือ "บุตรแห่งมนุษย์มิได้มาเพื่อให้ผู้อื่นรับใช้ แต่มาเพื่อรับใช้ผู้อื่น" (มาร์โก 10:45) การรับใช้หมายถึงการมอบตัวเองเป็นของขวัญเพื่อผู้อื่น ในสายพระเนตรของพระเจ้า การรับใช้คือแก่นแท้ที่ลึกซึ้งที่สุดในพันธกิจของพระเยซูคริสต์ ดังนั้น การรับใช้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับสงฆ์ของพระองค์เช่นกัน"

จากนั้น พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงยก 3 สิ่งสำคัญที่พระสังฆราชต้องปฏิบัติมาแบ่งปัน นั่นคือ ความซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า ความสุขุมรอบคอบ และการยึดมั่นคุณงามความดี

"ลักษณะนิสัยประการแรกที่พระเจ้าทรงร้องขอจากผู้รับใช้ของพระองค์ ก็คือ ความซื่อสัตย์จงรักภักดี พระศาสนจักรที่เราอาศัยอยู่นี้ไม่ได้เป็นของเรา แต่เป็นพระศาสนจักรของพระเจ้า ผู้รับใช้(หมายถึงพระสังฆราช)ต้องไม่แสวงหาอำนาจ ชื่อเสียง และการนับหน้าถือตาให้กับตัวเอง ตรงกันข้าม เราต้องนำคนก้าวไปหาพระเยซูและพระเจ้าผู้ทรงชีวิต"

"ในภาษากรีก คำว่า "จงรักภักดี" (Loyalty) มีความหมายสอดคล้องกับคำว่า "ความเชื่อ" (Faith) ความซื่อสัตย์ที่พระสังฆราชมีต่อพระเจ้าก็ต้องมั่นคง ไม่ใช่คอยหาทางประยุกต์ความเชื่อให้เข้ากับกระแสแห่งกาลเวลา การซื่อสัตย์จงรักภักดียังหมายความว่า เราต้องปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดไปกับพระอาจารย์ผู้ทรงความดี ทั้งนี้ เพื่อจะได้อุทิศตนทั้งครบให้กับพันธกิจของพระองค์ การซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าไม่ใช่ความกลัวพระองค์ แต่มันคือแรงบันดาลใจที่เราได้จากความรักที่มีต่อพระองค์"

"ลักษณะนิสัยประการที่สองที่พระเจ้าทรงร้องขอจากผู้รับใช้ของพระองค์ ก็คือ ความสุขุมรอบคอบ สิ่งนี้แตกต่างอย่างชัดเจนจาก "ความฉลาดแกมโกง" ความสุขุมรอบคอบบ่งบอกถึงความจริงที่เราใช้เป็นแนวทางและลงมือปฏิบัติสิ่งต่างๆ การเป็นคนสุขุมรอบคอบ เรียกร้องความสุภาพถ่อมตน มีระเบียบวินัย และใช้หลักเหตุผล เราไม่สามารถเป็นคนสุขุมรอบคอบได้เลย ถ้าเรายังมีอคติและตัดสินผู้อื่นตามอารมณ์ของตัวเอง พระสังฆราชที่ฉลาดหลักแหลมก็คือบุรุษผู้เปี่ยมด้วยหลักเหตุผลและแสวงหาความจริง"

"ลักษณะประการสุดท้ายที่พระเจ้าทรงร้องขอจากผู้รับใช้ของพระองค์ ก็คือ การยึดมั่นความดี พระเจ้าคือองค์ความดีเหนือสิ่งอื่นใด และความดีก็มีอยู่ในจิตใจของมนุษย์ พระสังฆราชจะเป็นผู้รับใช้ที่ดีงามก็ต่อเมื่อท่านร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า ถ้าเราสวดภาวนาและพูดคุยกับพระเจ้าทุกวัน พระองค์ก็จะสอนสั่งสิ่งดีๆให้กับเรา เพื่อให้เราได้เป็นผู้รับใช้ที่สมบูรณ์แบบ และพร้อมนำความหวังไปประกาศสู่ปวงชน"
พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย

Episcopal Ordinations

ภาพ : GETTY IMAGES, Reuters, Daylife, Catholic World Tour