พระสันตะปาปาขอให้พระสงฆ์ยึดแม่พระเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต / 13 สิงหาคม 2009
-------------------------------------------------------------------------------- สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก
ทรงหวังเห็นพระสงฆ์ยึดแม่พระเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต เฉกเช่น "นักบุญจอห์น" อัครสาวกและผู้นิพนธ์พระวรสารที่ตอบรับคำสั่งของพระเยซู ด้วยการรับแม่พระเป็นมารดาของตน ตอนท้าย ทรงร่วมเป็นทุกข์ไปกับชาวฟิลิปปินส์, ไต้หวัน, จีน และ ญี่ปุ่น ที่ต้องประสบภัยจากไต้ฝุ่นมรกต เมื่อช่วงสายวันพุธที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ได้เสด็จออกมาพบปะสัตบุรุษกว่า 4,000 คน ระหว่างการเข้าเฝ้าทั่วไป ซึ่งจัดขึ้นภายในลานกว้างของพระราชวังฤดูร้อน เขตคาสเตล กันดอลโฟ
ใจความสำคัญสิ่งที่พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ตรัสสอน พระองค์ยังคงเน้นหนักเนื้อหาเกี่ยวกับปีพระสงฆ์ โดยทรงอยากให้พระสงฆ์นำแม่พระมาเป็นแบบอย่างในการอภิบาล เช่นเดียวกับมอบความวางใจในพระนางตลอดไป
พระสันตะปาปา ตรัสว่า "เมื่อพระเจ้าทรงตัดสินพระทัยส่งพระบุตรแต่องค์เดียวลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์ พระองค์ทรงคาดหวังว่า พระบุตรของพระองค์จะได้รับการต้อนรับจากมนุษย์ด้วยความเต็มใจ พระเจ้ามิได้บังคับ แต่ทรงให้อิสระแก่มนุษย์ว่า จะตอบรับ (YES) พระบุตรของพระองค์หรือไม่ และเมื่อแม่พระตอบเยสกับพระเจ้า
คำตอบนี้เองคือประตูที่เปิดให้พระเจ้าลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์ ดังนั้น แม่พระจึงมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงในธรรมล้ำลึกซึ่งพระวจนาตถ์ทรงรับเอากาย เช่นเดียวกับ มีส่วนร่วมในแผนการไถ่กู้โลก"
"นักบุญแบร์กนาร์ (ระลึกถึงวันที่ 20 สิงหาคม) เคยเทศน์ให้ข้อคิดไว้ว่า การตอบ "เยส" ของแม่พระคือเหตุการณ์ที่มีความหมายมากๆต่อโฉมหน้าประวัติศาสตร์โลก เพราะตอนนั้น พระเจ้าได้เตรียมแผนการสำหรับโลกและสวรรค์ไว้หมดแล้ว เหลือแค่การตอบรับจากมนุษย์ว่า จะให้ความร่วมมือหรือไม่"
จากนั้น
พระสันตะปาปาผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเทวศาสตร์ที่เก่งสุดในพระศาสนจักร ทรงกล่าวถึงเหตุการณ์ที่พระเยซูทรงสั่งให้ "นักบุญจอห์น" ศิษย์ที่พระองค์รักที่สุด รับแม่พระเป็นมารดา โดยทรงชี้ว่า พระสงฆ์คาทอลิกก็ต้องรับแม่พระ "มาประทับในจิตใจ" ด้วยเช่นกัน
"เห็นได้ชัดว่า นักบุญจอห์นเป็นบุคคลที่พิเศษมากๆ ท่านยังเป็นแบบอย่างของทุกคนที่สมัครใจติดตามพระเยซู เฉพาะอย่างยิ่ง บรรดาพระสงฆ์ทุกองค์ ในพระวรสารมีการระบุว่า "อัครสาวกคนนั้น ได้รับแม่พระไปพักอาศัย ณ
บ้านของตน" เราคาดกันว่า สาวกคนดังกล่าวก็คือนักบุญจอห์น ฉะนั้น มันจึงหมายความว่า นักบุญจอห์นได้ต้อนรับแม่พระเข้ามาในชีวิตของตน ทำนองเดียวกัน พวกเราที่เป็นพระสงฆ์ก็สมควรจะทำเช่นนั้น เพราะเราได้รับกระแสเรียกให้นำแม่พระมาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต" พระสันตะปาปา ตรัสย้ำ
"ความสนิทสัมพันธ์พิเศษระหว่างแม่พระกับบรรดาพระสงฆ์ ตั้งอยู่บนพื้นฐานความจริงที่ว่า พวกเขา(พระสงฆ์)มีส่วนคล้ายกับพระเยซูตรงการอุทิศชีวิตตนให้กับแผนการไถ่กู้มนุษยชาติ
พระสงฆ์มีส่วนเหมือนกับแม่พระตรงที่พวกเขาอุทิศตนให้กับการประกาศพระวาจา, การเป็นประจักษ์พยานถึงพระคริสตเจ้า และการนำพระคริสตเจ้าไปมอบให้กับโลก ดังนั้น ขอให้เราทุกคน เฉพาะอย่างยิ่งบรรดาพระสงฆ์ มอบความวางใจไว้กับแม่พระ พระเยซูทรงมอบแม่พระให้กับเราทุกคน เราก็ต้องดำเนินชีวิตให้เหมือนกับพระนางทั้งความคิด การกระทำ และชีวิตฝ่ายจิต" พระสันตะปาปา ตรัสสรุปช่วงสอนคำสอน
ตอนท้าย พระสันตะปาปาทรงร่วมเป็นทุกข์และส่งกำลังใจให้กับประชากรในประเทศฟิลิปปินส์, ไต้หวัน, จีน และ ญี่ปุ่น
ซึ่งต้องประสบภัยจากพายุไต้ฝุ่นมรกตพัดกระหน่ำ โดยที่ฟิลิปปินส์ มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 22 ศพ, ไต้หวัน 66 ศพ, จีน 6 ศพ และญี่ปุ่น 14 ศพ
พระสันตะปาปา ตรัสว่า "พ่อขอเชิญชวนทุกคนร่วมสวดภาวนาให้กับผู้ที่กำลังประสบภัยพิบัติและผู้ไร้ที่อยู่อาศัย พ่อหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยและความช่วยเหลือจากทุกส่วนของโลก จะหลั่งไหลไปช่วยพวกเขาอย่างไม่ขาดสาย" |