พระสันตะปาปา ยกหญิงสะมาเรียให้บทสอนเรื่องการเปิดใจรับฟังพระเจ้า / 25 กุมภาพันธ์ 2008
-------------------------------------------------------------------------------- สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุของค์ที่ 265 แห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก
ทรงยกย่องหญิงชาวสะมาเรียที่เปิดใจรับฟังพระเยซูเจ้าขณะทรงขอน้ำดื่มจากเธอ พร้อมชี้ว่า การที่พระเยซูกระหายน้ำนั้น เปรียบได้กับการกระหายความเชื่อจากเราทุกคนว่าจะเปิดใจรับฟังเสียงของพระองค์หรือไม่
เมื่อช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงออกมาพบปะสัตบุรุษผ่านทางหน้าต่างห้องทรงงานของพระองค์ โดยตอนเช้าของวันนี้ พระสันตะปาปาได้เสด็จไปเยี่ยมกลุ่มคริสตังซึ่งอาศัยละแวกโบสถ์
ซานตา มารีอา ลิเบราตริเช่ ซึ่งอยู่ภายใต้ความดูแลของคณะซาเลเซียน พร้อมทั้งถวายมิสซาให้กับพวกเขา ก่อนจะเสด็จกลับมาเป็นประธานในการสวดเทวทูตถือสารให้กับสัตบุรุษทุกคน ก่อนจะเริ่มการภาวนา
พระสันตะปาปานักเทวศาสตร์ทรงแบ่งปันพระวรสารประจำวันอาทิตย์ที่ 3 ในเทศกาลมหาพรตซึ่งเป็นตอนที่พระเยซูทรงขอน้ำดื่มจากหญิงชาวสะมาเรีย พระองค์ทรงชื่นชมว่า นี่คือหนึ่งในเหตุการณ์ที่สวยงามที่สุดในพระวรสารเลยทีเดียว "บทพระวรสารโดยนักบุญจอห์นที่บรรยายถึงตอนที่พระเยซูขอน้ำดื่มดับกระหายจากหญิงชาวสะมาเรีย จัดเป็นหนึ่งในเรื่องที่สวยงามและมีความหมายลึกซึ้งมากที่สุดในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลเลยก็ว่าได้ สำหรับพ่อ
มันคงเป็นเรื่องยากเอามากๆ ถ้าจะให้อธิบายแบบกระชับถึงความสวยงามของสถานการณ์นี้ว่ายิ่งใหญ่เพียงใด ทางที่ดีก็คือ พ่ออยากให้ทุกคนได้ลองอ่านและไตร่ตรองพระวรสารตอนนี้อย่างถี่ถ้วน ลองจินตนาการดูว่า
ถ้าเราเป็นหญิงชาวสะมาเรียคนนั้นซึ่งใช้ชีวิตแบบคนปกติทั่วไปและต้องเดินไปตักน้ำจากบ่อ แต่แล้ววันหนึ่ง เราพบชายแปลกหน้าคนหนึ่ง นั่งบนขอบบ่อพร้อมขอน้ำดื่มดับกระหายจากการเดินทางตอนกลางวัน ... ถ้าเป็นเราจะรู้สึกอย่างไร"
พระสันตะปาปาทรงตั้งคำถามชวนคิด จากนั้น พระองค์ทรงเฉลยปริศนาดังกล่าวว่า "การกระหายน้ำของพระเยซูคือการเปิดประตูเข้าสู่พระธรรมล้ำลึกของพระเจ้าผู้ทรงกระหายน้ำเพื่อให้เรารู้สึกสดชื่น เช่นเดียวกัน พระองค์ลงมาบังเกิดเป็นคนยากไร้เพื่อให้เรามีความพร้อมสรรพในทุกสิ่ง กล่าวคือ การกระหายน้ำของพระเยซูเปรียบได้กับพระเจ้าทรงกระหายความเชื่อและความรักจากเรา"
"การที่หญิงชาวสะมาเรียผู้นี้มีสามีมาแล้วถึง 5 คนและคนที่กินอยู่ด้วยในตอนนี้ก็ไม่ใช่สามีของเธอ
แสดงให้เห็นถึงคนที่ดำเนินชีวิตแบบจมห้วงทุกข์และยังไม่รู้ว่าใครจะมาเป็นที่พึ่งที่แท้จริงให้กับชีวิต แต่หลังจากได้ฟังสิ่งที่พระเยซูตรัสสอน เธอก็รีบละทิ้งไหน้ำแล้วรีบไปบอกเพื่อนบ้านว่า ชายที่เธอพูดคุยด้วยคือพระผู้ช่วยให้รอด
สิ่งนี้ เปรียบได้กับการเปิดใจยอมรับฟังพระสุรเสียงของพระเจ้าด้วยใจตั้งมั่นอย่างแท้จริง พ่อจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พวกเราจะเปิดจิตใจเพื่อรับฟังเสียงของพระเจ้า เหมือนกับหญิงชาวสะมาเรียที่เปิดใจยอมรับความรักจากพระองค์"
พระสันตะปาปา ตรัสสรุป ในตอนท้ายหลังภาวนาเทวทูตฯเสร็จสิ้นลง พระสังฆราชแห่งกรุงโรม(พระสันตะปาปา) ทรงส่งสารแสดงความห่วงใยไปยังชาวเอกวาดอร์ซึ่งต้องประสบอุทกภัยครั้งร้ายแรง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 16 คน
พระองค์ตรัสว่า "อุทกภัยที่เกิดขึ้นได้ทำลายล้างที่อยู่อาศัยจำนวนมากในเอกวาดอร์ ประชาชนจำนวนมากต้องไร้ที่อยู่อาศัยและถูกตัดขาดจากระบบสาธารณปูโภค พ่อในฐานะผู้นำคริสตังทั่วโลก
จะสวดภาวนาวอนขอพระเจ้าโปรดประทานการบรรเทาให้กับผู้สูญเสียทุกคน เช่นเดียวกัน พ่อจะส่งความช่วยเหลือไปให้พวกท่านอย่างเร็วที่สุด"
ที่มา: http://www.zenit.org/article-21880?l=english, http://www.zenit.org/article-21881?l=english ภาพ: AP, Reuters
|