"บทความจาก CATHOLIC WORLD TOUR" / เรียบเรียง โดย...แผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
พระสันตะปาปาสะกิดสงฆ์ให้รู้จักหามุมสงบให้จิตใจตัวเองระหว่างมหาพรต /10 กุมภาพันธ์ 2008
--------------------------------------------------------------------------------
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงกล่าวเตื
อนสติคริสตังทุกคน เฉพาะอย่างยิ่งบรรดาบาทหลวงนักบวช ต้องรู้จักมองหาความสงบให้จิตใจตนเองบ้าง เพื่อที่ว่า จะได้มีที่ว่างให้กับพระเจ้ามากยิ่งขึ้นในระหว่างเทศกาลมหาพรต โดยพระองค์ตรัสเรื่
องนี้ระหว่างการต้อนรับศาสนบริกรสังฆมณฑลโรมที่เดินทางมาเข้าเฝ้าเมื่อช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
บรรยากาศของการเข้าเฝ้าในครั้งนี้ เปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นประสาพ่อลูกเป็นอย่างยิ่ง พระสันตะปา
ปาชาวเยอรมันทรงเปิดโอกาสให้บาทหลวงทุกคนได้มีโอกาสซักถามเรื่องที่สงสัย ขณะที่พระองค์จะเป็นผู้ให้คำตอบแบบกระจ่างชัดเอง โดยตัวอย่างคำถามที่น่าสนใจประกอบไปด้วยเรื่องวิธีเตรียมจิ
ตใจอย่างดีตลอดเทศกาลมหาพรต,การแพร่ธรรมอย่างมีประสิทธิภาพ
คำถามเกี่ยวกับวิธีเตรียมจิตใจอย่างดีในระหว่างเทศกาลมหาพรต พระสันตะปาปาทรงตอบว่า "ตลอด 40 วันนี้ เราควรลด
การพูดและคิดฟุ้งซ่านให้น้อยลง เพราะเราจำเป็นต้องหาความสงบให้กับจิตใจตัวเอง เราต้องสร้างที่ว่างในจิตใจให้ไกลจากความสาละวนทางโลก เพื่อที่ว่า จะได้มีที่ว่างให้กับพระเจ้ามากยิ่งขึ้นในระหว่างเทศกาลมหาพรต"
คำถามเรื่องจะแพร่ธรรมอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพซึ่งบาทหลวงจากอินเดียเป็นผู้ถามนั้น ผู้นำชาวคาทอลิกทั่วโลกตรัสตอบไ
ปว่า "การประกาศพระวรสารให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อันดับแรกที่ต้องทำก็คือ การให้ความเคารพผู้อื่น เราต้องประกาศพระวรสารแบบให้เกียรติความเชื่อของคนต่างศาสนาไม่ใช่ประกาศพระวรสารแบบก้าวร้าวดูหมิ่นความเชื่อของพวกเขา การให้ควา
มเคารพทุกศาสนาเป็นเรื่องสำคัญมาก แต่การเคารพก็ไม่ได้หมายความว่า คริสตชนต้องนิ่งเงียบไม่แสดงความเชื่อที่นับถือใ
ห้ผู้อื่นได้รับรู้ เพราะการให้ความเคารพที่ถูกวิธี ก็คือการเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมองแก่กัน เพื่อที่ว่า ทั้งเราและเพื่อนต่างศาสนาจะได้มีความเข้าใจในพื้นฐานความเชื่อที่แตกต่างมากยิ่งขึ้น"
"จงจำไว้ว่า งานธรรมทูตไม่ใช่งานที่เราจะไปกล่าวหาคนอื่นว่าเชื่อในสิ่งที่ผิด แต่งานธรรมทูตที่แท้จริงนั้นคือกา
รแบ่งปันพระพรแห่งความเชื่อที่พระเจ้าประทานให้กับเราทุกคน ดังนั้น มันคงเป็นเรื่องล้มเหลวมากๆ ถ้าคริสตชนทุกคนไม่รู้จักแบ่งปันข่าวดีในพระวรสารให้กับคนต่างศาสนาได้รู้จักเรื่องราวของพระเยซู" พระสันตะปาปาสุดยอ
ดนักเทวศาสตร์ ตรัสย้ำ
ประเด็นเรื่อง ทำไมคนสมัยนี้ไม่ค่อยกลัวบาปผิดที่กระทำลงไปเลย พระสันตะบิดาเจ้าทรงตอบว่า "โลกเราทุกวันนี้ ไม่ค่อย
มีใครสนใจว่าสิ่งที่ตนกระทำลงไป เป็นบาปหรือไม่ หรือบางคนก็ไม่เชื่อว่าสวรรค์กับนรกมีลักษณะเป็นเช่นไร ด้วยเหตุนี้เอง พ่อจึงนำข้อความในสมณสาส์น "สเป ซาลวี"(เพราะเราได้รอดพ้นโดยความหวัง) มาอธิบายอีกครั้งว่
า การพิพากษาครั้งสุดท้ายต่อหน้าพระเจ้า จะเป็นเครื่องเตือนใจถึงบาปที่เราได้กระทำ ดังนั้น การไถ่ให้รอดพ้นจากบาปจึงเป็นสิ่งจำเป็นยิ่ง ใครก็ตามที่ไม่ตระหนักความจำเป็นในข้อนี้ เขาคนนั้นก็จะไม่สามารถรู้ซึ้งถึงคุณค่
าแห่งความหวังซึ่งพระเจ้าทรงมอบให้อย่างแน่นอน"
ในส่วนของคำถามเรื่องวิธีการทำงานอภิบาลกลุ่มเยาวชนให้เดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง ควรจะทำเช่นไร พระสันตะปาปาทรงเสนอแนวคิดว่า "พ่อยอมรับว่าการทำงานอภิบาลเยาวชนยุคนี้ เป็นงานที่สาหัสเอามากๆ เพราะชีวิตของวัยรุ่นสมัยใหม่จะมีเรื่องวัตถุนิยมและบริโภคนิยมเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่เสมอ แต่กระนั้น พ่ออยากให้ท่านปฏิบัติตนเพื่อแสดงใ
ห้เด็กๆเห็นว่า ท่านสามารถเป็นพยานและทำให้พวกเขาเดินร่วมทางไปกับพระเยซูได้"
ที่มา: http://www.cwnews.com/news/viewstory.cfm?recnum=56504
