"บทความจาก CATHOLIC WORLD TOUR" / เรียบเรียง โดย...แผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
พระสันตะปาปาย้ำคนที่สวดภาวนาจะไม่มีวันหมดหวังกับการดำเนินชีวิต / 14 สิงหาคม 2008
--------------------------------------------------------------------------------
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงย้ำ คนที่สวดภาวนา
จะไม่มีวันสูญเสียความหวังในการดำเนินชีวิต โดยทรงหยิบยกชีวประวัติ "นักบุญมักซิมิเลี่ยน โกลเบ" และ "นักบุญเอดิธ ชไตน์"
2 มรณสักขีผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งถูกพวกนาซีสังหาร มาเป็นแบบอย่างสอนใจ ตามรายงานข่าวจาก คาสเตล กันดอลโฟ ประเทศอิตาลี
เมื่อช่วงเที่ยงวันพุธที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16
ทรงออกมาพบปะเทศน์สอนสัตบุรุษกว่า 8,000 คนในระหว่างการเข้าเฝ้าทั่วไป ความพิเศษของพิธีนี้ อยู่ที่สถานที่จัดงาน ตามกำหนดการเดิม สันตะสำนักแจ้งว่า จะจัดที่ลานหน้ามหาวิหาร ซาน เปียโตร วาติกัน แต่เกิดการเปลี่ยนแปลงกระทันหัน
การเข้าเฝ้าประจำสัปดาห์จึงต้องย้ายมาจัดที่ คาสเตล กันดอลโฟ ทำให้เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีที่การเข้าเฝ้าประจำสัปดาห์ ถูกจัดขึ้นที่นี่ ครั้งสุดท้ายที่การเข้าเฝ้าประจำสัปดาห์จัดใน คาสเตล กันดอลโฟ ต้องย้อนไปในสมณสมัยการปกครองของ
สมเด็จพระสันตะปาปา เปาโล ที่ 6 เลยทีเดียว
ใจความสำคัญของสิ่งที่พระสันตะปาปาชาวเยอรมันตรัสสอนประจำวันนี้ พระองค์ชี้ว่า คนที่สวดภาวนาอย่างสม่ำเสมอ ต่อให้ประสบความยากลำบาก เขาก็จะไม่สิ้นหวังกับชีวิตทั้งโลกนี้และโลกหน้า
โดยทรงนำชีวประวัติของ นักบุญมักซิมิเลี่ยน โกลเบ สงฆ์ผู้ยิ่งใหญ่จากโปแลนด์ และ นักบุญเอดิธ ชไตน์ ซิสเตอร์คาร์เมไลต์ชาวเยอรมัน มาเป็นแบบอย่างให้คนได้เห็นว่า ของจริงเขาปฏิบัติกันอย่างไร
พระสันตะปาปา ตรัสว่า "ทุกวัน จะมีคนส่งจดหมายมาพ่อ เพื่อขอให้สวดภาวนาเพื่อพวกเขา บางคนเขียนมาแบ่งปันความสุข บางคนแบ่งปันความทุกข์ กระนั้น ขอให้มั่นใจว่า พ่อสวดภาวนาให้ทุกคน
ทั้งในพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณหรือจะเป็นการสวดสายประคำ พ่อขอย้ำอีกครั้งว่า คริสตชนที่สวดภาวนาเป็นประจำ จะไม่มีวันสูญเสียความหวังในการดำเนินชีวิต ต่อให้คนๆนั้น ตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากหรือจะเป็นช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายก็ตาม
ตัวอย่างที่ชัดเจนได้แก่บรรดามรณสักขี ผู้ยอมสละชีวิตเพื่อเป็นประจักษ์พยานถึงพระคริสตเจ้า อาทิ นักบุญเอดิธ ชไตน์ และ นักบุญมักซิมิเลี่ยน โกลเบ"
สาเหตุที่พระสันตะปาปาตรัสถึงนักบุญทั้งสอง ก็เพราะ
พระศาสนจักรคาทอลิกจัดให้วันที่ 9 สิงหาคมเป็นวันระลึกถึงนักบุญเอดิธ ชไตน์ (หรือ "นักบุญเบเนดิกตาแห่งไม้กางเขน") ส่วนนักบุญมักซิมิเลี่ยน โกลเบ พระศาสนจักรระลึกถึงในวันที่ 14 สิงหาคม
พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันชีวิตมรณสักขีทั้งสองว่า "นักบุญมักซิมิเลี่ยน โกลเบ และเอดิธ ชไตน์ ได้จบชีวิตบนโลกมนุษย์อย่างน่าอนาถในค่ายกักกันเอ๊าชวิตซ์ หากมองดูท่านทั้งสองตามสายตามนุษย์ เราอาจประเมินว่า ชีวิตของท่านล้มเหลว
เนื่องจากถูกประหารชีวิต แต่ถ้ามองตามสายพระเนตรของพระเจ้า เราจะพบว่า การสละชีวิตของพวกท่าน เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักเพื่อพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์อย่างหาที่สุดมิได้"
General Audience at Castel Gandolfo
ภาพ : AP, AFP, Reuters, Daylife, Catholic World Tour
ที่มา: http://www.asianews.it/index.php?l=en&art=12992&theme=2&size=A,
http://www.catholicnews.com/data/stories/cns/0804135.htm
