พระสันตะปาปาสถาปนานักบุญใหม่ 5 องค์ / 27 เมษายน 2009 -------------------------------------------------------------------------------- สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงสถาปนานักบุญใหม่ 5 องค์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเทศน์ให้ข้อคิดระหว่างพิธี
ด้วยการย้ำคริสตัง จงนำศีลมหาสนิทมาเป็นศูนย์กลางของชีวิตเหมือนที่บรรดานักบุญใหม่แสดงให้เห็นเป็นแบบอย่าง เมื่อช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุของค์ที่ 265 แห่งพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงเป็นประธานในพิธีมิสซาสถาปนานักบุญใหม่ ซึ่งจัดขึ้น ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมพิธีประมาณ 38,000 คน โดยนักบุญใหม่ทั้งห้า เป็นชาวอิตาเลี่ยน 4 องค์ และ โปรตุเกส 1 องค์ ได้แก่ นักบุญอาร์คันเจโล่ ตาดินี่, นักบุญแบร์นาโด้ โตโลเม,
นักบุญเจร์ตรูเด้ โคเมนโซลี่, นักบุญคาเตริน่า วอลปิเชลลี่ และ นักบุญนูโน่ อัลวาเรซ เปเรยร่า ส่วนอีก 5 องค์ที่เหลือที่จะได้รับการสถาปนาในวันที่อาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม 2009 ประกอบไปด้วย บุญราศีซิกมุนด์ เฟลินสกี้, บุญราศีโยเซฟ ดาเมี่ยน เด ฟ๊อยส์เตอร์, บุญราศีฟรานซิสโก้ โกลี กีตาร์ต, บุญราศีราฟาเอล อาร์นาอิซ บารอน และ บุญราศีฌองเน่ ชูก็อง (ค.ศ.2009 พระสันตะปาปาจะสถาปนานักบุญใหม่ 10 องค์ โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ เดือนเมษายนและตุลาคม)
ปราศจากศีลมหาสนิท ชีวิตคริสตชนก้าวต่อไปไม่ได้
พระวรสารวันประจำวันอาทิตย์ที่ 3 เทศกาลปาสกา เป็นเหตุการณ์ที่ศิษย์ 2 คนจำพระเยซูได้ เมื่อพระองค์ทรงบิขนมปังแล้วส่งให้พวกเขา พระสันตะปาปาจึงเริ่มต้นเทศน์ด้วยการแบ่งปันข้อความตอนนี้ว่า "การที่พระคริสตเจ้าทรงปรากฏพระองค์และบิขนมปังมอบให้บรรดาสาวก ได้ช่วยพวกเขาเกิดความเข้าใจพระคัมภีร์และแผนความรอดแห่งแสงสว่างของปาสกา ทุกวันนี้ คริสตชนทุกคนต่างมีส่วนร่วมในพิธีบิขนมปังผ่านทางศีลมหาสนิท(บูชามิสซา)
ศีลมหาสนิทคือสุดยอดของความประเสริฐซึ่งพระศาสนจักรตระหนักว่า นี่เป็นบ่อเกิดของชีวิต"
"การร่วมมิสซาคือการสนทนากับพระคริสตเจ้า ทั้งยังเป็นการอ้อนวอนพระองค์โปรดทรงยกโทษและอภัยบาปเรา ถ้าปราศจากศีลมหาสนิทซึ่งเป็นมรดกล้ำค่าที่พระเจ้าทรงมอบให้ ชีวิตคริสตชนจะดำเนินไปได้อย่างไร ... ฉะนั้น ไม่ต้องแปลกใจว่า เหตุใดพระศาสนจักรจึงเรียกร้องให้เรายึดศีลมหาสนิทเป็นศูนย์กลางของชีวิตอยู่เสมอๆ ทั้งนี้ เพราะพระเยซูผู้ทรงกลับคืนพระชนม์ชีพทรงประทับอยู่ในศีลมหาสนิทนั่นเอง" พระสันตะปาปา ตรัสย้ำ
จากนั้น ประมุขสูงสุดของพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงอ่านชีวประวัตินักบุญใหม่ทั้ง 5 องค์ ก่อนจะเชื่อมโยงเนื้อหาเข้ากับศีลมหาสนิทให้สัตบุรุษได้ไตร่ตรองตาม ดังต่อไปนี้ .....
นักบุญอาร์คันเจโล่ ตาดินี่ : ศีลมหาสนิทคือพระพรของการอภิบาล
พระสันตะปาปา ตรัสว่า "นักบุญอาร์คันเจโล่ ตาดินี่ มีชีวิตระหว่าง ค.ศ.1846-1912 ท่านเป็นสงฆ์อิตาเลี่ยนผู้รักการสวดภาวนาหน้าศีลมหาสนิทเป็นเวลานานหลายชั่วโมง นักบุญตาดินี่มีพระพรพิเศษในการอภิบาลกลุ่มฆราวาส กระนั้น
ท่านมักเตือนตัวเองเสมอว่า ความสำเร็จในการอภิบาลไม่ได้เกิดจากความสามารถของตัวเอง แต่เกิดจากพระพรแห่งศีลมหาสนิท นักบุญตาดินี่ได้รับมอบหมายให้ดูแลฆราวาสหลายกลุ่ม นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ก่อตั้งคณะซิสเตอร์ผู้รับใช้ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์แห่งนาซาเร็ธ พี่น้องที่รัก แบบอย่างของคุณพ่อตาดินี่เตือนใจเราว่า การเจริญชีวิตฝ่ายจิตและเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงลึกกับพระเจ้าอยู่เป็นประจำ เฉพาะอย่างยิ่งผ่านทางศีลมหาสนิท จะทำให้เราเป็นเชื้อแป้งที่ดีตามหลักพระวรสาร ทั้งในที่ทำงานและชุมชนที่เราอยู่อาศัย"
นักบุญแบร์นาโด้ โตโลเม : ศีลมหาสนิททำให้กล้ารับใช้ด้วยการสละชีวิต
"นักบุญแบร์นาโด้ โตโลเม มีชีวิตระหว่าง ค.ศ.1272-1348 ท่านเป็นฤาษีชาวอิตาเลี่ยน และยังเป็นผู้ก่อตั้งคณะฤาษีแม่พระแห่งมอนเต โอลิเวโต้ นักบุญโตโลเมรักการสวดภาวนาและนำศีลมหาสนิทมาเป็นศูนย์กลางของชีวิต เวลาอยู่ในอาราม ท่านอุทิศตนทั้งครบให้กับการรำพึงภาวนา เพราะเชื่อว่านี่คือวิธีที่ทำให้ตนกลายเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อยอย่างแท้จริง"
"เหตุการณ์สำคัญในชีวิตนักบุญโตโลเม เกิดในค.ศ.1348
ตอนนั้น กาฬโรคระบาดไปทั่วทวีปยุโรป ท่านจึงตัดสินใจเดินทางออกจากอารามเพื่อมาช่วยปฐมพยาบาลผู้ป่วยทุกคน ที่สุดแล้ว ท่านก็ติดโรคตามไปด้วยและสิ้นใจประดุจมรณสักขีแห่งความรัก แบบอย่างของท่านนักบุญจึงเชิญชวนเราทุกคนให้กล้ารับใช้เพื่อนมนุษย์ด้วยความรัก และพร้อมเสมอที่จะสละชีวิตเพื่อทุกคน" นักบุญเจร์ตรูเด้ โคเมนโซลี่ : ศีลมหาสนิทคือผู้ร่วมทางของคนที่ทำงานเพื่อพระเจ้า
"นักบุญเจร์ตรูเด้ โคเมนโซลี่ มีชีวิตระหว่าง ค.ศ.1847-1903
ท่านเป็นซิสเตอร์ชาวอิตาเลี่ยนและยังเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มซิสเตอร์แห่งศีลศักดิ์สิทธิ์ ในวัยเด็ก นักบุญโคเมนโซลี่รักการสวดภาวนาต่อหน้าพระเยซูผู้ประทับในศีลมหาสนิทมากๆ ท่านเคยกล่าวไว้ว่า ศีลมหาสนิทช่วยเติมเต็มกระแสเรียกและพันธกิจของท่านในพระศาสนจักร ด้วยเหตุนี้เอง นักบุญโคเมนโซลี่จึงอุทิศตนอย่างจริงจังให้กับการแพร่ธรรม โดยเฉพาะการอภิบาลเยาวชน"
"นักบุญโคเมนโซลี่แสดงให้เราเห็นว่า ศีลมหาสนิทคือผู้ร่วมทางไปกับทุกคนที่อุทิศตนทำงานเพื่อพระเจ้า ท่านนักบุญเตือนใจเราอีกว่า
การเทิดทูนศีลมหาสนิทต้องแสดงออกผ่านทางพันธกิจแห่งความรัก เพราะศีลมหาสนิทคือความรักที่พระคริสตเจ้าผู้ทรงสิ้นพระชนม์และกลับคืนชีพได้มอบแก่เรา ดังนั้น เราต้องประกาศพระวาจาด้วยความรักที่นำเราทุกคนให้มาเป็นพี่น้องกัน"
นักบุญคาเตริน่า วอลปิเชลลี่ : พูดคุยกับพระเยซูผ่านทางศีลมหาสนิท
"นักบุญคาเตริน่า วอลปิเชลลี่ มีชีวิตระหว่าง ค.ศ.1839-1894 ท่านเป็นชาวอิตาเลี่ยนผู้ก่อตั้งกลุ่มผู้รับใช้แห่งพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์
นักบุญวอลปิเชลลี่คือประจักษ์พยานความรักของพระเจ้าซึ่ง "อยู่เพื่อพระคริสต์" และ "นำพระคริสต์ไปสัมผัสจิตใจผู้อื่น" นักบุญวอลปิเชลลี่ก็เช่นกัน ท่านยกให้ศีลมหาสนิทเป็นศูนย์กลางของชีวิต ท่านบอกกับเพื่อนร่วมงานเสมอว่า การบำรุงเลี้ยงจิตวิญญาณสามารถทำได้โดยการสวดภาวนา เฉพาะอย่างยิ่ง การพูดคุยกับพระเยซูเจ้าผ่านทางศีลมหาสนิท ตรงนี้เอง พ่ออยากเน้นย้ำกับบรรดาผู้สอนคำสอนว่า การเป็นผู้ถ่ายทอดคุณค่าแห่งคริสตศาสนาไปสู่คนรุ่นหลัง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปฏิบัติไปพร้อมกับการสวดภาวนา
สองสิ่งนี้ไม่สามารถแยกออกจากกันได้เลย"
"นักบุญวอลปิเชลลี่แสดงให้เห็นว่า ทุกคนต้องสนทนากับพระเจ้า เพื่อพระองค์จะได้ทรงเปลี่ยนจิตใจของเราให้ดำเนินอยู่ในแนวทางแห่งพระวรสาร การพูดคุยกับพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยสร้างสังคมให้เกิดความยุติธรรมและความเป็นหนึ่งเดียวกัน นอกจากนี้ ยังช่วยกำจัดความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ยังคงคุกคามโลกของเราอีกด้วย"
นักบุญนูโน่ อัลวาเรซ เปเรยร่า : จากแม่ทัพสงครามสู่ภราดาคาร์เมลไลท์
"นักบุญนูโน่ อัลวาเรซ เปเรยร่า มีชีวิตระหว่าง ค.ศ.1360-1431 ท่านเป็นภราดาคาร์เมลไลท์ในโปรตุเกส เมื่ออายุ 23 ปี ท่านได้เข้ารับราชการทหารและออกรบในสงคราม อโตเลยรอส ซึ่งปลดปล่อยโปรตุเกสให้เป็นอิสระจากการปกครองของสเปน จากนั้น ค.ศ.1423 ภรรยาของท่านได้เสียชีวิต ส่วนลูกสาวเพียงคนเดียวของท่านก็ได้แต่งงานกับโอรสของกษัตริย์เจา ที่ 1 เมื่อเป็นเช่นนี้ นักบุญนูโน่ อัลวาเรซ จึงตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิตเรียบง่ายด้วยการเป็นภราดาคาร์เมลไลท์ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "นูโน่ เด ซานตา มารีอา"
ท่านสิ้นใจในวันอาทิตย์สมโภชปาสกา พร้อมมอบความทรงจำดีๆให้กับภราดาคาร์เมลไลท์รุ่นหลัง ในฐานะที่เป็นบุรุษแห่งการสวดภาวนา เป็นทุกข์ถึงบาป ให้ทานผู้ยากไร้ เฝ้าศีลมหาสนิท และอุทิศตนอย่างร้อนรนให้กับแม่พระ" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้ายบทเทศน์ |