ค้นหาข้อมูล :

"มอนซินญอวิษณุ ธัญญอนันต์ " อธิบายสาเหตุที่สาส์นวันวิสาขบูชาเน้นความยากจนเป็นหลัก  / 7 เมษายน 2009
--------------------------------------------------------------------------------
มอนซินญอร์วิษณุ ธัญญอนันต์ ปลัดสมณสภาเพื่อการเสวนาระหว่างศาสนา เผย เหตุที่สาส์นวันวิสาขบูชาของวาติกันเน้นเรื่องความยากจน เพราะต้องการขอบคุณเพื่อนชาวพุทธที่เป็นประจักษ์พยานถึงการไม่ยึดติดกับวัตถุและพอใจสิ่งที่ตนมีอยู่ ทั้งนี้ ตามรายงานจาก "ยูแคน" เว็บไซต์ข่าวคาทอลิกชื่อดัง เมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา
 

 
คุณพ่อวิษณุ ธัญญอนันต์ ปลัดสมณสภาเพื่อการเสวนาระหว่างศาสนา เปิดเผยสาเหตุที่สาส์นแสดงความยินดีจากพระสันตะปาปาเนื่องในโอกาสวันวิสาขบูชา เน้นหนักไปที่เรื่องความยากจน ก็เพราะวาติกันอยากจะขอบคุณพุทธศาสนิกชนสำหรับการดำเนินชีวิตเป็นประจักษ์พยาน ด้วยการไม่ยึดติดกับสิ่งของทางโลกและพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่

ปีนี้ สาส์นแสดงความยินดีวันวิสาขบูชาของวาติกัน เน้นเรื่องความยากจนเป็นอย่างมาก โดยเนื้อหาสำคัญมีใจความว่า "สมเด็จพ ระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 ตรัสไว้เมื่อไม่นานมานี้ว่า ความยากจนอาจแบ่งได้เป็นสองประเภทที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง กล่าวคือ ความยากจน "ที่เลือกเอง" กับความยากจน "ที่ต้องกำจัดให้หมดไป" (บทเทศน์ วันที่ 1 มกราคม 2009)"

มอนซินญอร์วิษณุ ในฐานะผู้ร่างสาส์นนี้ด้วยตนเอง ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่เลือกความยากจนมาเป็นหัวข้อหลักว่า "ในการร่างสาส์นนี้ เราได้ยึดตามพระประสงค์ของพระสันตะปาปาที่ตรัสไว้ในวันที่ 1 มกราคมซึ่งเป็นวันสันติภาพสากล พระองค์ย้ำว่า เราต้อ งกำจัดความยากจนให้หมดไปจากโลก สิ่งนี้สอดคล้องอย่างยิ่งกับหลักคำสอนของพุทธศาสนา เราเห็นว่า หลักธรรมคำสอนของศาสนาพุทธกล่าวถึงความยากจนไว้เยอะมาก เราก็เลยสนใจประสบการณ์ฝ่ายจิตของพุทธศาสนิกชน"

"ปีนี้ พระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงกล่าวถึงการต่อสู้กับความยากจนบ่อยมาก ดังที่เราเห็นในสารและบทเทศน์วันสันติภาพสากล การเสด็จเยือนทวีปแอฟริกาช่วงกลางเดือนมีนาคม และในจดหมายที่พระองค์ทรงส่งถึงผู้นำกลุ่ม จี 20 ซึ่งมาร่วมประชุ มกันที่ลอนดอน พระสันตะปาปาน่าจะเน้นย้ำเรื่องนี้อีกครั้งในสมณสาส์นฉบับต่อไป ซึ่งเป็นครั้งแรกที่พระองค์จะกล่าวถึงสภาพสังคม" มอนซินญอร์วิษณุ กล่าวกับผู้สื่อข่าว

ในตอนท้ายของสาส์นแสดงความยินดีวันวิสาขบูชา ระบุไว้ว่า "บรรดาพระภิกษุ แม่ชี และฆราวาสเป็นจำนวนมากสมัครใจถือปฏิบัติความยากจน "แบบเลือกเอง" อันเป็นการบำรุงเลี้ยงชีวิตจิตของมนุษย์ ก่อให้เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความหมายของชีวิ ตแท้ที่มั่งคั่ง อีกทั้งค้ำจุนความตั้งใจที่จะส่งเสริมการมีน้ำใจดีของประชาคมโลกอีกด้วย"

มอนซินญอร์วิษณุ สงฆ์ชาวไทยองค์เดียวที่ปฏิบัติงานในวาติกัน ก็ได้อธิบายเรื่องนี้ว่า "เราต้องการแสดงออกถึงมิตรภาพและความปรารถนาดีไปยังเพื่อนชาวพุทธทุกคน เราต้องการจะขอบคุณพวกเขาสำหรับการเป็นประจักษ์พยานทางแรงบันดาลใจที่พวกเขาได้มอบให้กับจิตวิญญาณแห่งความยากจน ผ่านทางการไม่ยึดติดกับสิ่งของทางโลกและพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่"

แม้พระสันตะปาปาจะไม่ได้เป็นผู้เขียนสาส์นวันวิสาชบูชา แต่คุณพ่อวิษณุก็ยืนยันว่าพระสันตะบิดาเจ้าทรงตรวจและอนุมัติสาส์นดังกล่าวด้วยพระองค์เอง "พระสันตะปาปาทรงตรวจและอนุมัติสาส์นวันวิสาขบูชาด้วยพระองค์เอง จากนั้น เราก็ส่งสาส์นนี้ไปยังสถานทูตวาติกันประจำประเทศต่างๆ เพื่อส่งต่อไปยังหน่วยงานของสภาพระสังฆราชท้องถิ่นที่รับผิดชอบงานศาสนสัมพันธ์กับชาวพุทธ กับหน่วยงานของรัฐบาล กับผู้นำชาวพุทธของทั่วโลก และส่งให้กับเอกอัครราชทูตทั้ง 176 ประเทศที่มีเจริญสัมพันธไมตรีกับสันตะสำนัก (มีประเทศไทยด้วย)"

"ต้นฉบับของสาส์นนี้ถูกเขียนขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ และได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆมากกว่า 10 ภาษา อาทิ จีน ญี่ปุ่น เขมร เกาหลี พม่า ไทย เวียดนาม นอกจากนี้ ยังแปลเป็นภาษาฝรั่งเศสและอิตาเลี่ยน อีกด้วย"

"พุทธศาสนิกชนทั่วโลกตระหนักถึงความสำคัญของสาส์นวันวิสาขบูชาอยู่เสมอ พวกเขาใส่ใจและอ่านมันด้วยความจริงจัง พวกเขายังส่งสาส์นขอบคุณกลับมายังวาติกัน รวมถึงส่งคำอวยพรมาให้ในโอกาสวันสมโภชสำคัญทางคริสตศาสนา อาทิ วันคริสต์มาส เป็นต้น" มอนซินญอร์วิษณุ กล่าวปิดท้าย

อนึ่ง วันวิสาขบูชาตามประเทศต่างๆจะไม่ตรงกัน เนื่องจากตำแหน่งที่ตั้งของประเทศต่างกัน ทำให้วันเวลาคลาดเคลื่อนไปด้วย โดยปีนี้ (ค.ศ.2009) วันวิสาขบูชาในไต้หวันและญี่ปุ่น ตรงกับวันที่ 8 เมษายน ขณะที่จีนและเกาหลี ตรงกับวันที่ 2 พฤษภาคม ส่วนไทยและประเทศอื่นๆทั่วโลก ตรงกับวันที่ 8 พฤษภาคม