หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

"บทความจาก CATHOLIC WORLD TOUR" / เรียบเรียง โดย...แผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ  อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

เด็กๆถาม ... พระสันตะปาปาตอบ

สัปดาห์นี้ สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงปฏิบัติพันธกิจอภิบาลสัตบุรุษอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ระยะเวลาอภิบาลคือ 15-21 เมษายน ดังนั้น ณ วันที่เขียนบทความ (เช้าวันที่ 16 เม.ย.) พระองค์เพิ่งเสด็จถึงอเมริกาไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ข่าวสารต่างๆระหว่างประทับอยู่อเมริกา คงต้องยกยอดไปสัปดาห์หน้านะครับ  ...

ช่วงนี้ มีค่ายคำสอนฤดูร้อนเตรียมเด็กรับศีลมหาสนิทครั้งแรก ผมมีหนังสือชื่อ “QUESTIONS AND ANSWERS” เนื้อหาภายในเป็นการถามตอบแบบระหว่างสัตบุรุษกับพระสันตะปาปา อาทิ เด็ก, เยาวชน, พระสงฆ์ถาม แล้วพระสันตะปาปาตอบแบบสดๆ ผมขอนำคำถาม “ใส-ซื่อ-บริสุทธิ์” ของเด็กที่เตรียมรับศีลมหาสนิทครั้งแรกมาแบ่งปัน มาดูกันว่า พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์จะไขข้อข้องใจให้เด็กๆอายุ 9-10 ขวบอย่างไร 

ด.ช.อันเดรีย : ในการเตรียมตัวรับศีลมหาสนิทครั้งแรกของผม คุณครูคำสอนบอกผมว่า พระเยซูทรงประทับอยู่ในศีลมหาสนิท ว่าแต่ ... พระองค์ประทับอยู่อย่างไรครับ ผมไม่สามารถมองเห็นพระองค์ได้เลย   !!

พระสันตะปาปา :
ไม่นะ อันเดรีย ... เราไม่สามารถมองเห็นพระองค์ได้หรอก มันมีหลายอย่างที่เรามองไม่เห็น แต่สิ่งเหล่านั้นมีอยู่จริงและก็มีความสำคัญ ตัวอย่างเช่น เรามองไม่เห็นเหตุผล แต่เรามีเหตุผล เรามองไม่เห็นสติปัญญา แต่เรามีสติปัญญา ในอีกมุมหนึ่ง เรามองไม่เห็นจิตใจของตัวเอง แต่มันมีจริงและเราก็รับรู้ถึงมัน เพราะเราสามารถพูด คิด และตัดสินใจได้
เรามองไม่เห็นกระแสไฟฟ้า แต่เราก็รู้ว่ากระแสไฟฟ้ามีจริงและกำลังปล่อยกระแสอยู่ อาทิ เราเห็นไมโครโฟนที่กำลังส่งเสียง เรามองเห็นแสงจากหลอดไฟ ดังนั้น สรุปได้ว่า เรามองไม่เห็นสิ่งที่มีความลึกซึ้งมากๆที่ช่วยให้ชีวิตและโลกมนุษย์ดำรงอยู่ได้ แต่เราสามารถมองเห็นผลลัพธ์และรู้สึกได้ว่าสิ่งเหล่านั้นได้มอบอะไรแก่เรา เรื่องกระแสไฟฟ้าก็เช่นกัน เรามองไม่เห็นกระแสไฟหรอก แต่เรามองเห็นผลลัพธ์ของมันซึ่งก็คือแสงสว่าง

ฉะนั้น ถ้าพูดถึงพระเยซูผู้กลับคืนชีพ เรามองไม่เห็นพระองค์ด้วยตาเปล่า แต่เราจะเห็นสถานที่ที่พระเยซูประทับ อาทิ มนุษย์คนหนึ่งเปลี่ยนแปลงตัวเองในทางที่ดีขึ้นหรือจะเป็นเรื่องความสามารถในการสร้างสันติ,การยกโทษคืนดีกัน ดังนั้น เรามองไม่เห็นพระเยซูแต่เรามองเห็นผลที่เกิดจากการประทับอยู่ของพระองค์ นี่แหละคือสิ่งที่ช่วยให้เราเข้าใจว่า พระเยซูประทับอยู่จริง
อย่างที่พ่อพูดไป นี่คือสิ่งที่เรามองไม่เห็นแต่มันมีคุณค่ามหาศาล มันลึกซึ้งมากๆและมีความสำคัญเหลือล้น ดังนั้น ขอให้พวกเธอทุกคนก้าวไปพบกับสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าแต่พระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพจะช่วยพวกเธอให้มีดำเนินชีวิตอย่างดี
ด.ญ.อันนา : พระสันตะปาปาที่เคารพรัก ช่วยอธิบายหนูหน่อยว่า พระเยซูทรงหมายความถึงอะไรเวลาที่พระองค์ตรัสกับสาวกว่า “เราคือปังทรงชีวิต”

พระสันตะปาปา : ก่อนอื่น เราต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนก่อนว่าขนมปังคืออะไร ทุกวันนี้ เรามีวิธีทำอาหารให้สละสลวยมากหน้าหลายตา แต่ในสถานการณ์ทั่วไป ขนมปังคือสิ่งพื้นฐานที่ใช้ประกอบอาหารเหล่านั้น และเมื่อพระเยซูทรงเรียกพระองค์เองว่าเป็นปังทรงชีวิต อย่างที่พ่ออธิบายไปเมื่อกี้ ขนมปังคือความหมายแบบย่อของอาหารบำรุงร่างกายทุกชนิดเช่นกัน
การที่เราต้องการอาหารบำรุงร่างกายเพื่อดำรงชีวิต เราก็ต้องการอาหารหล่อเลี้ยงจิตใจและจิตวิญญาณด้วย การเป็นมนุษย์ เราไม่ได้มีแค่ร่างกายเท่านั้น เรายังมีจิตวิญญาณซึ่งใช้คิดเพื่อทำความดี ฉะนั้น เราต้องบำรุงเลี้ยงจิตใจและจิตวิญญาณเพื่อจะได้นำไปพัฒนาและเติมเต็มความเป็นมนุษย์ให้ครบครัน

การที่พระเยซูตรัสว่า “เราคือปังทรงชีวิต” หมายความว่า พระเยซูคืออาหารซึ่งเราจำเป็นต้องใช้เลี้ยงจิตวิญญาณและชีวิตภายใน จิตวิญญาณก็ต้องการอาหารไปเลี้ยงเช่นกัน

ถ้าพูดในเชิงลึก แม้ปังทรงชีวิตจะมีความสำคัญ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ เราจำเป็นต้องมีความสนิทสัมพันธ์กับพระเจ้าเพื่อที่ว่า พระองค์จะช่วยเราให้ทำการตัดสินใจได้ถูกต้อง เราต้องการความเจริญเติบโตฐานะที่เป็นมนุษย์ อีกนัยหนึ่งก็คือ พระเยซูทรงหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณเพื่อให้เราเป็นคนที่เติบโตอย่างแท้จริงและพระองค์ยังช่วยให้เราดำเนินชีวิตอย่างดีงามด้วยเช่นกัน ...

หมายเหตุ – การถามตอบนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2005 ณ ลานหน้ามหาวิหารซาน เปียโตร วาติกัน พระสันตะปาปาเสด็จออกมาพบกับเด็กๆที่จะเตรียมตัวรับศีลมหาสนิทครั้งแรกพร้อมเปิดโอกาสให้พวกเขาได้ถามอะไรก็ได้เกี่ยวกับศีลมหาสนิท ... ผมต้องขอขอบคุณ “พี่เอ๋ – สุวิมล ชาครีย์เวส” สัตบุรุษวัดฟาติมาของเราที่ได้ช่วยจัดหาหนังสือคุณภาพเยี่ยมอย่าง “QUESTIONS AND ANSWERS” มาแบ่งปันทุกคนครับ

AVE  MARIA