พระสันตะปาปาย้ำอีกครั้ง"ทำแท้งและหย่าร้าง"คือการทำผิดต่อพระเจ้า / 6 เมษายน 2008
-------------------------------------------------------------------------------- สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก
ทรงกล่าวย้ำอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อยเกี่ยวกับประเด็นการทำแท้งและการหย่าร้าง ล่าสุด พระองค์ยืนยันอีกครั้ง การกระทำดังกล่าวเป็นการทำผิดต่อพระเจ้า แต่กระนั้น ทรงวอนขอพระเจ้า
โปรดประทานพระเมตตามายังผู้กำลังเผชิญกับเรื่องร้ายๆแบบนี้ด้วย เมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงอนุญาตให้บรรดาสมาชิกของสมณสภาเพื่อครอบครัว
ได้เข้าเฝ้าภายในหอประชุมเคลเมนติน โอกาสนี้ พระองค์ทรงกล่าวซ้ำถึงแนวทางของพระศาสนจักรต่อการทำแท้งและการหย่าร้าง ด้วยการย้ำว่า นี่คือการทำร้ายพระเจ้าชัดๆ พระสันตะปาปา ตรัสว่า "มุมมองด้านศีลธรรมที่พระศาสนจักรคาทอลิกมีต่อการทำแท้งและการหย่าร้าง
จัดเป็นเรื่องที่ชัดเจนและทุกคนต่างทราบกันดี การทำแท้งและการหย่าร้างคือการทำร้ายและทำผิดต่อพระเจ้าอย่างร้ายแรง มันคือการทำลายความศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ นอกจากนี้
ยังเป็นการทำผิดร้ายพระเจ้าผู้ทรงเป็นบ่อเกิดแห่งสันติภาพและชีวิตทั้งมวล" "การหย่าร้างและการทำแท้งคือทางออก ...
ซึ่งบางครั้งนำไปสู่ความยากลำบากและเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่างๆนาๆ แต่ที่สุดแล้ว มันคือบ่อเกิดของความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงสำหรับผู้ตัดสินใจที่เลือกทางออกแบบนี้ เพราะมันจะเป็นตราบาปติดตัวเขาไปตลอดว่า
ครั้งหนึ่งในชีวิตเขาเคยฆ่าผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นฆ่าทารกที่ยังไม่ได้ลืมตาดูโลกหรือฆ่าอนาคตของเด็กที่ต้องเติบโตมาในครอบครัวที่แตกร้าว" จากนั้น พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ ทรงกล่าวถึงการุญฆาต
วิธีเร่งตายยอดฮิตของสังคมยุคใหม่ พระองค์กระตุ้นจิตใต้สำนึกว่า เราไม่ต้องไปหาวิธีให้ผู้ป่วยสิ้นใจ แต่ควรหาทางให้เขาได้สู้กับความเจ็บป่วยจะดีกว่า "ส่วนประเด็นการุญฆาต พระศาสนจักรก็จะต่อต้านและยับยั้งอย่างสุดความสามารถ
ถ้าหากผู้ป่วยคนหนึ่งตกอยู่ในสภาพโคม่า หน้าที่ของเราคือการร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับเขาในการต่อสู้กับโรคร้ายอย่างสุดความสามารถ ไม่ใช่มาหาหนทางทำอย่างไร ให้เขาตายให้เร็วที่สุด" กระนั้นก็ตาม
พระสันตะปาปาผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็นนักเทวศาสตร์ที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์พระศาสนจักรคาทอลิก ทรงแสดงความห่วงใยต่อคนที่เคยหลงผิดไปเกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้ โดยทรงระบุว่า "พระศาสนจักรมีหน้าที่ช่วยเหลือผู้ที่เคยกระทำผิดแต่ได้กลับใจ
พระศาสนจักรให้อภัยและพร้อมเดินไปกับพวกเขาด้วยความรักและความเข้าใจอย่างสุดซึ้ง ดังนั้น ขอพระเจ้าโปรดประทานพระเมตตาซึ่งจะบันดาลความหวังในการดำเนินชีวิต กลับสู่พวกเขาอีกครั้ง"
|