พระสันตะปาปาประกาศชัด"พระศาสนจักรต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนเสมอ" / 9 มกราคม 2008
--------------------------------------------------------------------------------
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงประ
กาศย้ำอย่างชัดเจนว่า พระศาสนจักรจะไม่มีวันยกธงขาวในการทำงานปกป้องสิทธิมนุษยชนอย่างแน่นอน โดยการทำงานนี้ ไม่ใช่แค่ภาคทฤษฏีเท่านั้น แต่ยังลงลึกถึงการปฏิบัติด้วย
พระสันตะปาปาทรงกล่าวกับบรรดาทูตจาก 176 ประเทศทั่วโลกที่วาติกันเจริญสัมพันธไมตรีด้วย ในระหว่างการเข้าเฝ้าเพื่อประทานพรเทศกาลปีใหม่เมื่อวันจันทร์ที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา โด
ยในปีนี้ ทูตชาติน้องใหม่ล่าสุดที่ได้รับเชิญจากพระสันตะปาปาก็คือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซึ่งสันตะสำนักเพิ่งจะเปิดการเจรจาการทูตไปไม่นานนี้
สำหรับประเด็นสำคัญของสุนทรพจน์ที่พระสันตะปาปาทรงกล่าวกับทูตทั้ง 176 คน พระองค์ทรงเริ่มต้นด้วยการย้ำจุดยืนของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกในการปกปักษ์รักษาสิทธิมนุษยชน พระองค์ตรัสว่า "ตามความเชื่อของศาสนาคริสต์ ม
นุษย์ทุกคนคือพระฉายาลักษณ์ของพระเจ้า ดังนั้น พระศาสนจักรจึงเต็มใจอย่างยิ่งที่จะทำงานรับใช้ความศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ แม้ว่าการทำลายชีวิตและดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์จะปรากฏให้เห็
นทุกวัน แต่เราก็จะไม่ยอมแพ้ เพราะพันธกิจที่สำคัญของพระศาสนจักรคือการปกปักษ์รักษาทุกชีวิตอย่างสุดความสามารถ"
จากนั้น พระสันตะปาปาทรงกล่าวชื่นชมยินดีที่องค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ได้ลงมติให้ยกเลิกกการตัดสินประหารชีวิต แล้วหันไปใช้วิธีลงโทษผู้กระทำผิดด้วยรูปแบบอื่นแทน "เมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาติได้ลง
มติให้ยกลเกการตัดสินลงโทษด้วยการประหารชีวิต ข้าพเจ้าได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง นี่คือการแสดงออกถึงความเคารพต่อความศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้าประทานมาให้ และเช่นเดียวกัน ในเมื่อพวก
ท่านปกป้องชีวิตผู้กระทำผิดด้วยการยกเลิกโทษประหารแล้ว ก็สมควรจะปกป้องชีวิตทารกผู้บริสุทธิ์ให้รอดพ้นจากการทำแท้งด้วยเช่นกัน" "เมื่อเอ่ยถึงเด็กทารก ข้าพเจ้าเกิดความรู้สึกเศร้าใจที่จะต้องกล่าวว่า ตอนนี้ ได้มีการทำลายสถาบันครอบครั
วอันเกิดจากการสมรสกันระหว่างชายกับหญิง ดังนั้น บรรดารัฐบาลและสภานิติบัญญัติประเทศต่างๆควรตระหนักอย่างถี่ถ้วนว่า หน้าที่หลักของพวกท่านคือการพิทักษ์สถาบันขั้นพื้นฐานตามธรรมชาติหรือพูดง่ายๆก็คือเ
ซลล์พื้นฐานทางสังคม จงอย่ากระทำการอันใดที่จะทำให้สถาบันครอบครัวซึ่งเป็นบ่อเกิดของสันติภาพ ต้องพินาศลงไป"
เสรีภาพในการนับถือศาสนาก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่พระสันตะปาปาทรงให้ความสำคัญเป็นพิเศษ พระองค์ทรงกล่าวว่า สันตะสำนักได้พยายามสุดความสามารถในการปกป้องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานตรงนี้ "ยังมีอีกหลายประเทศที่เสรีภาพยั
งไม่สามารถสยายปีกออกได้เต็มที่ กระนั้นก็ดี สันตะสำนักจะช่วยปกป้องชนกลุ่มน้อยในประเทศนั้นๆให้ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน เราจะเดินหน้าเรียกร้องเสรีภาพในการนับถือศาสนาด้วยความเคารพต่อประเทศนั้นๆ เราจะ
ช่วยทุกคนไม่ว่าเขาจะเป็นคริสตชนหรือคนต่างศาสนาก็ตาม" สำหรับประเด็นสันติสุขบนแผ่นดิน พระสันตะปาปาชาวเยอรมัน ตรัสว่า "สันติภาพไม่ใช่แค่คำพูดลอยๆหรือคว
ามปรารถนาที่ไร้สาระ สันติภาพคือการอุทิศตนเพื่อความพึงพอใจของทุกฝ่าย และต้องไม่ยึดติดกับความพอใจของตนฝ่ายเดียว สันติภาพในที่นี้ไม่ใช่แค่ยุติสงคราม แต่ยังหมายถึงความสงบในใจด้วย" "ท้ายสุด ข้าพเจ้าขอเรียกร้องให้นานาชาติร่วมกันให้คำมั่นสัญญาว่า จะพยายามสุดความสามารถให้โลกประสบกับสันติสุข ความร่วมมือจากหลายๆฝ่ายจะกลายเป็นพันธกิจที่จะได้รับการสานต่อในการปกป้องภัยก่อการ
ร้ายจากอาวุธพลังทำลายล้างสูงทุกรูปแบบ" พระสันตะปาปา สรุปปิดท้าย
|