พระสันตะปาปาชื่นชมจำนวนฆราวาสแพร่ธรรมเพิ่มขึ้นอย่างมาก / 17 พฤศจิกายน 2007 --------------------------------------------------------------------------------
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงกล่าวชื่น
ชมการเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วของบรรดาฆราวาสแพร่ธรรมที่มีส่วนเกี่ยวข้องในงานประกาศพระวรสาร ขณะเดียวกัน ยังทรงแสดงความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมว่า จิตวิญญาณของการเป็นมิชชันนารียังคงมีให้เห็นในสังคมปัจจุบันอย่างมีไม่วันสาบสูญแน่นอน
เมื่อช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงต้อนรับบรรดาอธิการเจ้าคณะนักบวชมิชชันนารีกว่า 100 คณะที่เดินทางมาเข้าเฝ้า ภายหลังเสร็จสิ้นงานสัมม
นาซึ่งจัดขึ้นโดยสมณกระทรวงประกาศพระวรสารสู่ปวงชน หนึ่งในหน่วยงานสำคัญของสันตะสำนัก โอกาสนี้ พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ทรงกล่าวกับผู้เข้าเฝ้าทุกคนให้กระฉับกระเฉงในการเป็นพยานยืนยัน
ถึงองค์พระเยซูคริสต์ เพื่อจะได้ตื่นตัวและเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลาสำหรับการทำงานแพร่ธรรมของพระศาสนจักร พระสันตะปาปาตรัสว่า "พันธกิจของพวกท่านคือการเป็นพยานยืนยันที่สามารถประกาศให้คนทั่วไปได้เข้าใจเรื่องราว
ของพระเยซูอย่างถูกต้อง เพื่อจะได้สานต่องานแพร่ธรรมอันเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพของพระศาสนจักร รวมทั้งเสริมสร้างจิตวิญญาณความเป็นหนึ่งเดียวกันให้เกิดขึ้นภายกับหมู่คณะ,เป็นหนึ่งเดียวกับพระสันตะปาปา ผู้สืบทอด
ตำแหน่งจากนักบุญเปโตร และที่สำคัญยังได้ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับงานอภิบาลของพระศาสนจักรทั่วโลก" "การร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันกับผู้สืบทอดตำแหน่งจากนักบุญเปโตร(หมายถึงพระสันตะปาปา) ยังคงเป็นบรรทัดฐา
นและหลักประกันที่เกิดจากผลพวงแห่งจิตวิญญาณซึ่งเกิดจากงานแพร่ธรรม ถ้าเราทุกคนไร้ซึ่งความเป็นหนึ่งเดียวกัน แผนการไถ่บาปของพระเจ้าผ่านทางองค์พระคริสต์เจ้า ก็ไม่สามารถประสบผลสำเร็จบนโลกนี้ได้เช่นกัน"
พระสันตะปาปายังทรงกล่าวถึงภาพรวมงานแพร่ธรรมในช่วง 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา มีบรรดาฆราวาสแพร่ธรรมเกิดขึ้นมากมาย
อย่างเห็นได้ชัด พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์จึงชี้ให้เห็นว่า สิ่งเหล่านี้เป็นผลต่อเนื่องจากสังคยานาวาติกัน ครั้งที่ 2 ซึ่งเน้นย้ำถึงหน้าที่ประกาศพระนามของพระเยซูว่าเป็นหน้าที่ของคริสตชนทุกคน ได้บังเกิดผลอย่างจริงจังแล้ว
"การสานต่อความสนใจให้เกิดขึ้นในคณะนักบวชที่ทำงานแพร่ธรรม เป็นเครื่องบ่งชี้ที่ชัดเจนอยู่แล้วว่า เราต้องฟื้
นฟูให้เกิดขึ้นภายในพระศาสนจักร เช่นเดียวกัน เราต้องทำให้คริสตชนตระหนักว่า หน้าที่การประกาศพระนามและคำสั่งสอนของพระเยซู เป็นหน้าที่ของคริสตชนลูกของพระทุกคน เมล็ดพันธุ์แห่งความหวังที่พระศาสนจักรได้หว่า
นลงไปสมัยสังคยานาวาติกัน ครั้งที่ 2 เริ่มผลิดอกออกผลอย่างเห็นได้ชัดแล้ว" ท้ายสุด ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกทรงสนับสนุนให้นักบวชและฆราวาสแพร่ธรรมทุกคน เติมเต็มพันธกิจแล
ะพระพรที่พระประทานมาให้ ด้วยการปฏิบัติตนตามแนวทางของหมู่คณะที่สังกัดอย่างจริงจัง "คนที่จะทำงานแพร่ธรรมได้ดีนั้น จะต้องเคารพพระวินัยของคณะที่ตนเองได้ถวายตัว อย่างเคร่งครัด"
พระสันตะปาปา ตรัสย้ำปิดท้าย
ที่มา: http://www.catholicnewsagency.com/new.php?n=10997 , http://www.cwnews.com/news/viewstory.cfm?recnum=54816
|