หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

"บทความจาก CATHOLIC WORLD TOUR" / เรียบเรียง โดย...แผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ  อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

พระสันตะปาปาอธิบายการเป็นคริสตชนที่ดีคือการเป็นพลเมืองที่ดีด้วยเช่นกัน / 1 พฤศจิกายน 2007
--------------------------------------------------------------------------------
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงอธิบายความหมายของการเป็นคริสตชนที่ดีให้กับสัตบุรุษที่มาเข้าเฝ้าได้เข้าใจอย่างกระจ่างชัด โดยทรงเน้นย้ำว่า สิ่งนี้ ปฏิบัติง่ายๆ ด้วยการเป็นพลเมืองที่ดี,ไม่หลีกเลี่ยงภาษี,บริจาคเงินให้ผู้ยากไร้,รวมทั้งปฏิบัติตนตามนโยบายประเทศที่อาศัยเพื่อร่วมสร้างสันติสุขและความยุติธรรมให้เกิดในสังคม เพียงเท่านี้ ก็พูดได้อย่างเต็มปากแล้วว่า เราก็เป็นคริสตชนที่ดีด้วยเช่นกัน
 
เมื่อช่วงเย็นวันพุธที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ได้เสด็จฝ่าสายฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย เพื่อออกมาพบปะและเทศน์สอนสัตบุรุษประมาณ 30,000 คนที่มาเข้าเฝ้า ณ ลานหน้า มหาวิหาร ซาน ปิเอโตร โดยวันนี้ พระสันตะปาปาทรงนำชีวประวัติผู้นำพระศาสนจักรยุคแรกเริ่มอย่าง นักบุญมัสซิโม่ พระสังฆราชคาทอลิกแห่งเมืองโตริโน่ ซึ่งมีชีวิตอยู่ระหว่าง ค.ศ.380-465 มาเทศน์สอนและให้ข้อคิดสัตบุรุษ พร้อมทั้งให้กำลังใจพวกเขาว่า การเป็นคริสตชนที่ดี ไม่ได้ยากอย่างที่คิด
 
พระสันตะปาปาทรงเริ่มต้นการเทศน์สอนด้วยการเล่าชีวประวัตินักบุญมัสซิโม่ ท่านได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งพระสังฆราชแห่งโตริโน่ (ตูริน) เมื่อ ค.ศ.398 ในสมัยนั้น ชนเผ่าบาวาเรี่ยนได้รุกรานและเมืองที่ท่านดูแล สิ่งนี้ ได้ก่อให้เกิดความยากจนและตัวเมืองยังคราคร่ำไปด้วยผู้ลี้ภัยจำนวนมาก ในฐานะผู้นำกลุ่มคริสตชน พระสังฆราชมัสซิโม่จึงไม่อยากทนนิ่งเฉย ท่านได้ออกมาดูแลและคอยช่วยเหลือบรรดาผู้ลี้ภัยที่ยากไร้เหล่านี้ อย่างสุดความสามารถ
 
"ต่อให้เป็นช่วงเวลาที่เกิดการรุกราน หน้าที่และพันธกิจของผู้มีความเชื่อที่มีต่อสังคมและประเทศชาติก็ไม่ได้มลายหายไป หน้าที่พลเมืองที่ซื่อสัตย์เช่นเดียวกับการเป็นคริสตชนที่ดีนั้น ต้องกระทำควบคู่กันไป โดยไม่ตกหล่นแม้แต่นิดเดียว"

 
"นักบุญมัสซิโม่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่พลเมืองที่ดีเพื่อปลุกจิตสำนึกของคริสตชนให้เกิดความรู้สึกรักชาติเท่านั้น แต่ท่านยังได้เทศน์สอนสัตบุรุษทุกคนให้รู้จักเสียภาษีให้ครบถ้วน อย่าได้มีเจตนาหลบเลี่ยงเป็นอันขาด แม้ว่าเงินภาษีที่ต้องเสียนั้น จะมากจนเราไม่อยากจ่ายออกไปก็ตาม" พระสันตะปาปา ตรัสอย่างจริงจังเพื่อปลุกจิตสำนึกคริสตชนทุกคน
 
นอกจากนี้ บทเทศน์ส่วนมากของนักบุญมัสซิโม่ ยังขึ้นชื่อเรื่องการต่อว่าคริสตชนเศรษฐีที่เป็นตัวการสร้างความยากจนให้เกิดขึ้นในสังคม ท่านมักจะตำหนิคนรวยที่ไม่มีจิตเมตตาบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือคนยากจนอยู่เป็นประจำ พระสันตะปาปาจึงตรัสเล่าเรื่องนี้ว่า "นักบุญมัสซิโมจะตำหนิผู้มั่งมีที่ชอบบริจากเศษเงินให้กับผู้ยากไร้ แล้วยังไปเที่ยวสร้างความยากจนให้เพิ่มขึ้น ด้วยการซื้อที่ดินของคนจนแล้วกดราคาขายให้ต่ำกว่าความเป็นจริง"
 
"บทเทศน์ของนักบุญมัสซิโม่ สะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการของคริสตชนที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสร้างความเสมอภาคและร่วมฟันฝ่าความยากลำบากไปพร้อมกับคนยากจน"
 
"ดังนั้น ขอให้เราดูแบบอย่างของนักบุญมัสซิโม่และพยายามดำเนินชีวิตตามท่าน เราทุกคนมีกระแสเรียกให้มาเป็นพลเมืองที่ดีและมีสามัญสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม เราต้องปฏิบัติหน้าที่การงานต่างๆด้วยจิตตารมณ์แห่งพระวรสาร เพื่ออาณาจักรของพระที่กำลังจะมาถึงพร้อมกับความศักดิ์สิทธิ์ เสมอภาค และสันติสุข" พระสันตะปาปา สรุปปิดท้าย

ที่มา : http://www.catholicnews.com/data/stories/cns/0706199.htm
ภาพ : AP, AFP, L'Osservatore Romano, Reuters

บรรยากาศการเข้าเฝ้าทั่วไป (ท่ามกลางสายฝน) ประจำวันพุธที่ 31 ตุลาคม 2007