แปลข่าวสาร โดย AVE MARIA / เรียบเรียง โดย...แผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
พระสันตะปาปาย้ำจุดประสงค์หลักวิหารนักบุญเปโตรคือเป็นสถานที่สวดภาวนา /12 ตุลาคม 2007
--------------------------------------------------------------------------------
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงเตือนสติ
นักแสวงบุญและนักท่องเที่ยวทุกคนว่า มหาวิหาร ซาน ปิเอโตร (มหาวิหารนักบุญเปโตร หรือ เซนต์ ปีเตอร์) คือสถานที่ไว้ให้สวดภาวนาสรรเสริญพระเจ้าเป็นหลัก มิใช่สร้างขึ้นเพื่ออวดความสวยงามอลั
งการทางสถาปัตยกรรมแก่ชาวโลกเวลามีการถ่ายทอดสดพิธีสำคัญทางศาสนาแต่อย่างใด
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงต้อนรับ พระอัครสังฆราช อันเจโล่ โคมาสตรี้ ผู้ดูแล มห
าวิหาร ซาน ปิเอโตร มหาวิหารเอกของแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกที่มาถวายรายงานประจำปี โอกาสนี้ พระสันตะปาปาทรงกล่าวกับพระอัครสังฆราชผู้ดูแลมหาวิหาร ให้เน้นย้ำนักแสวงบุญและนัก
ท่องเที่ยวที่มาเยือนว่า จุดประสงค์หลักของมหาวิหาร ซาน ปิเอโตร มีไว้นมัสการพระเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ เพราะถ้าไม่ย้ำเตือนแล้ว บางคนอาจมองข้ามความสำคัญพื้นฐานนี้ไป
"นี่คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งในวันหนึ่งจะมีผู้แสวงบุญและนักท่องเที่ยวนับล้านจากทั่วโลกเดินทางมาเยือน ดังนั้น เร
าต้องเน้นย้ำพวกเขาให้รู้ว่า จุดประสงค์หลักของที่นี่ (มหาวิหาร ซาน ปิเอโตร) คือสร้างไว้เพื่อนมัสการพระเจ้าและสวดภาวนาสรรเสริญพระองค์" พระสันตะปาปาชาวเยอรมัน ตรัสย้ำ
ย้อนกลับไปเมื่อศตวรรษที่ 6 ได้มีธรรมเนียมปฏิบัติจากนักบวชกลุ่มหนึ่งซึ่งรวมตัวกันไปสวดภาวนาหน้าหลุมศพนักบุญเปโตร พระสันตะปาปาองค์แรกแห่งประวัติศาสตร์พระศาสนจักรโรมันคาทอลิก พระสันตะปาปาองค์ที่ 265 (เบเนดิกต์ ที่ 16) ทรงร่วม
สนับสนุนการกระทำดังกล่าว เพราะเป็นการแสดงให้เห็นว่า หน้าที่หลักของนักบวชทุกคนคือการสวดภาวนาสรรเสริญพระเจ้า
พระสันตะปาปา ตรัสว่า
"หลายปีที่แล้ว ได้มีคณะนักบวชกลุ่มหนึ่งฟื้นฟูธรรมเนียมสวดภาวนาหน้าหลุมศพนักบุญเปโตร พ่อคิดว่านี่เป็นเรื่องสิ่งดีมากๆ เพราะหน้าที่สำคัญที่สุดของนักบวชทุกคนคือการสวดภาวนา คำภาวนาคือการป
รนนิบัติพระเจ้าผู้ทรงสมควรได้รับการสรรเสริญและยำเกรงอยู่เป็นนิจ"
"พันธกิจของคณะนักบวชซึ่งรวมกลุ่มไปภาวนาหน้าหลุมศพนักบุญเปโตร ย้ำเตือนเราว่าไม่มีสิ่งใดมาก่อนพระเจ้า
พระศาสนจักรจึงถวายเกียรติทั้งหมดเพื่อสดุดีพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์" พระสันตะปาปาตรัสปิดท้าย
อ้างอิง : http://www.catholicnews.com/data/stories/cns/0705719.htm
