หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

 แปลข่าวสาร โดย  AVE MARIA / เรียงเรียบ โดย...แผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

พระสันตะปาปา ปลุกจิตสำนึกคริสตังวันอาทิตย์ต้องเป็นวันของพระเจ้า  / 10 กันยายน 2007

--------------------------------------------------------------------------------
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงเป็นประธานในพิธีมิสซา ณ อาสนวิหารนักบุญสตีเฟ่น อาสนวิหารประจำอัครสังฆมณฑลเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยไฮไลท์ของมิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงปลุกจิตสำนึกคริสตังออสเตรียด้วยการย้ำว่าต้องช่วยกันปกป้องความสำคัญของวันอาทิตย์ (วันของพระเจ้า) ไม่ให้คล้อยตามกระแสโลกอันยุ่งเหยิงที่พยายามสอนว่า วันอาทิตย์คือวันพักผ่อนโดยไม่ต้องไปขอบคุณพระองค์
 
"คริสตังยุคใหม่จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องไปหาพระเพื่อขอบคุณพระองค์สำหรับพระพรที่ประทานมาให้ รวมถึงความช่วยเหลือต่างๆที่พระองค์มอบให้พวกเขาในชีวิตประจำวันซึ่งเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง" พระสันตะปาปาทรงเริ่มต้นบทเทศน์
 
คริสตชนทุกคนต่างถูกปลูกฝังผ่านการเรียนคำสอนซึ่งสอนว่าพระเจ้าทรงหยุดสร้างสรรพสิ่งในวันที่ 7 ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ ดังนั้น เราทุกคนที่เป็นลูกของพระควรไปขอบคุณพระองค์ในพิธีมิสซา พระสันตะปาปาจึงนำเรื่องดังกล่าวมาเป็นข้อคิดเตือนใจผ่านบทเทศน์ด้วย "วันอาทิตย์ไม่ได้เป็นวันที่เราพักผ่อนจากการงานเพียงอย่างเดียว วันอาทิตย์ยังเป็นวันที่พระเจ้าทรงหยุดภารกิจการสร้างโลก ดังนั้น เราทุกคนที่เป็นสิ่งสร้างของพระต้องไปวัดร่วมพิธีมิสซาเพื่อขอบคุณพระองค์ผู้ทรงสร้างเรามา แต่ทว่า ปัจจุบัน สถานการณ์ต่างๆได้เปลี่ยนแปลงไป สิ่งสร้างของพระเจ้าดูเหมือนจะเผชิญกับภยันตรายหลายรูปแบบผ่านทางกิจกรรมที่มนุษย์ด้วยกันจัดขึ้น ดังนั้น เราต้องมีสติในการตอบรับกิจกรรมเหล่านี้ในวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันของพระเจ้า"
 
พระสันตะปาปายังทรงแสดงมุมมองต่อความสำคัญของวันอาทิตย์ในโลกสมัยใหม่ที่ดูเร่งรีบว่า ช่างดูผิดเพี้ยนไปจากสมัยก่อนมากๆ "ในวัฒนธรรมยุโรปสมัยใหม่วันอาทิตย์ ความหมายและความสำคัญของวันอาทิตย์ผิดแปลกไปจากเดิมมาก สมัยนี้ วันอาทิตย์คือวันพักผ่อนแบบเรื่อยเปื่อยไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น การพักผ่อนลักษณะนี้คือสิ่งจำเป็นในโลกที่มีวิถีการดำรงชีวิตแบบเร่งรีบแบบบ้าคลั่ง กระนั้นก็ดี มันยังแตกต่างจากวันอาทิตย์ที่เป็นวันแห่งการขอบคุณพระเจ้าอยู่ดี"
 
มีหลายคนเข้าใจว่า ศาสนาคริสต์บังคับให้เข้าวัดวันอาทิตย์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ประเด็นดังกล่าวไม่ถูกต้องเท่าไหร่นัก เพราะการเข้าวัดร่วมมิสซาวันอาทิตย์ มาจากจิตสำนึกมากกว่าการบังคับ พระสันตะปาปาทรงอธิบายเรื่องนี้ว่า "สำหรับคริสตชนยุคแรกเริ่ม การเข้าวัดร่วมมิสซาวันอาทิตย์ไม่ได้เป็นกฏบัญญัติ แต่มันมาจากจิตใต้สำนึกถึงความสำคัญในการไปพบและขอบคุณพระเจ้า พระผู้ทรงสร้างเรามา"
 
ในส่วนของบทพระวรสารประจำมิสซาวันอาทิตย์ที่ 22 ในเทศกาลธรรมดา พระสันตะปาปาทรงอธิบายความหมายที่พระเยซูทรงกล่าวว่า "จงสละทุกสิ่งและตามเรามา" โดยพระองค์กล่าวว่า "ความรู้สึกหลังจากที่ได้ฟังพระเยซูตรัสเช่นนี้ เรามองว่านี่เป็นทางสองแพร่ง จะเลือกพระเยซูหรือเลือกความสุขสบายส่วนตัว ตัวอย่างของผู้ที่ได้ฟังพระวาจานี้และปฏิบัติตามก็คือ ซิสเตอร์ เทเรซา แห่ง กัลกัตต้า และ คุณพ่อ ปิโอ (รอยแผลศักดิ์สิทธิ์) พ่อทราบดีว่า ไม่ทุกคนหรอกที่จะสามารถปฏิบัติตามพระวาจานี้ได้ แต่พ่อขอให้เราตระหนักถึงความจริงซึ่งพระคริสต์ตรัสเรียกเรา ใครก็ตามที่มีชีวิตอยู่เพื่อตนเอง เขาก็จะสูญเสียชีวิตของตนไป ความรักต้องการสิ่งที่มากเกินกว่าตัวเอง ความรักคือการรับใช้ผู้อื่น"
 
และหลังจากพิธีมิสซาเสร็จสิ้นแล้ว พระสันตะปาปาได้เสด็จออกมาหน้าอาสนวิหารเพื่อนำภาวนาเทวทูตถือสาร พระองค์ได้เทศน์ย้ำเตือนคริสตังทุกคนอีกครั้งด้วยการยกแบบอย่างของแม่พระให้พวกเขานำไปปฏิบัติตาม "พ่อขอให้พวกท่านกลับไปดำเนินชีวิตประจำวันด้วยการดูแบบอย่างของแม่พระ ผู้ซึ่งตอบรับ (YES) กับพระเจ้าตลอดเวลา แม่พระไม่เคยปฏิเสธพระเจ้า ดังนั้น ขอให้เราเจริญชีวิตตามแบบพระนางด้วย"