แปลข่าวสาร โดย AVE MARIA / เรียงเรียบ โดย...แผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
พระคาร์ดินัลมาร์ตินี่กับมิสซาลาติน
--------------------------------------------------------------------------------
หนึ่งในผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับสมณกฤษฏีกามิสซาลาตินก็คือ
พระคาร์ดินัล คาร์โล มารีอา มาร์ตินี่ อดีตประมุขอัครสังฆมณฑลมิลาน ประเทศอิตาลี ปัจจุบัน พระคาร์ดินัลมาร์ตินี่ได้เกษียณอายุแล้ว โดยตอนนี้ ท่านอายุ 80 ปี หลายคนอาจไม่รู้จักพระคา
ร์ดินัลองค์นี้มากนัก เอาเป็นว่า ผมจะเล่าให้ฟังคร่าวๆแล้วกัน
พระคาร์ดินัลมาร์ตินี่ เป็นพระคาร์ดินัลที่ได้รับการแต่งตั้งรุ่นเดียวกับพระ คาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู โดยผู้แต่งตั้งคือสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 (เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1983) พระคาร์ดินัลมาร์ตินี่จัดเป็นหนึ่งในสงฆ์ผู้นำวิถีเสรีนิยม หลายครั้งที่ท่านมีแนวคิดแย้งกับพระคาร์ดินัล โยเซฟ รัตซิงเกอร์ ผู้มีแนวคิดอนุรักษ์นิยม (ซึ่งพระสันตะปาปาองค์ปัจจุบันนั่นเอง)
พระคาร์ดินัลเกษียณอายุองค์นี้พูดได้น่าคิดทีเดียวเกี่ยวกับแนวคิดไม่เห็นด้วยกับมิสซาจารีตลาติน ท่านมองว่า การสวดภาวนาหรือพูดคุยกับพระ ควรใช้ภาษาง่า ยๆที่ตัวเราเองในฐานะลูกของพระ สวดออกไปแล้วรู้เรื่องว่าเรากำลังวอนขอหรือพูดอะไร ไม่ใช่สวดภาษาลาตินแต่คนสวดกลับไม่รู้เรื่องเลยว่า บทสวดนั้นหมายความว่าอะไร
อย่าเพิ่งคิดว่า พระคาร์ดินัลมาร์ตินี่ ต่อต้านสมณกฤษฏีกานะครับ ท่านแค่ไม่เห็นด้วยเท่านั้น พ่อชื่นชมพระสันตะปา ปาองค์ปัจจุบันมากๆ ท่านใจกว้างสุดๆที่อนุญาตให้ถวายมิสซาจารีตลาตินได้อีกครั้ง คริสตังที่แยกตัวออกไปจะได้รู้สึกตัวว่าพระสันตะปาปายอมรับวิถีทางที่พวกเขาปฏิบัติ การที่พระสันตะปาปาประกาศสมณกฤษฏีกานี้ออกมา เป็นการทำเพื่อพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกส่วนรวมอย่างแท้จริง
แต่ถ้าถามพ่อว่า พ่อจะถวายมิสซาลาตินไหม ตอบได้เลยว่า ไม่มีทาง แม้ว่าพ่อรักภาษาลาตินและได้รับศีลบวชเป็นพร ะสงฆ์ด้วยจารีตลาติน แต่พ่อจะไม่มีวันกลับไปทำมิสซาจารีตนั้นอีกเด็ดขาด สังคยานาวาติกัน ครั้งที่ 2 เป็นการดลใจจากพระให้เราเดินไปข้างหน้าอย่างถูกต้อง เพื่อให้คนทั้งหลายจะได้เข้าหาพระองค์ได้ง่ายขึ้น พระคาร์ดินัลให้เหตุผล
นี่ก็เป็นหนึ่งในความเห็นของผู้ที่ไม่เห็นด้วย (แต่ไม่ใช่ ต่อต้าน) ฟังแล้วมีเหตุผลน่าคิดมากทีเดียว บางคนอาจสงสัยว่ า พระสันตะปาปาคิดอะไรอยู่ถึงทำแบบนี้ออกมาได้ งานนี้ ผมต้องปกป้องพระสันตะปาปาสักหน่อย พระองค์ไม่ได้ทำอะไรที่ดูแย่ ตรงกันข้ามกลับเป็นเรื่องดีเสียอีกที่สร้างความปรองดองในพระศาสนจักร คนที่ทะเลาะกันจะได้กลับมาคืนดีกัน (บทบาทค นเป็นผู้นำ บางทีต้องเด็ดขาดและใจกว้างแบบนี้แหละ คือรักษาภาพรวมเอาไว้ มิใช่ เห็นอะไรไม่ถูกใจ กำจัดมันทิ้งเสียเลย)
ดังนั้น ขอย้ำว่า อย่านำเรื่องสมณกฤษฏีกามิสซาจารีตลาตินมาเป็นข้อพิพาทให้เกิดความขัดแย้ง เพราะจุด ประสงค์ที่แท้จริงของสมณกฤษฏีกานี้คือออกมาเพื่อสร้างความปรองดองและเป็นหนึ่งเดียวกัน มิใช่ออกมาเพื่อทำให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกัน พระสันตะปาปาพยายามสร้างความปรองดอง เราก็จงปรองดองกันด้วย
Source : http://www.catholicnews.com/data/stories/cns/0704344.htm
