โป๊ปเตือนทุกสังฆมณฑลจงฟื้นฟูงานแพร่ธรรมให้มีประสิทธิภาพโดยเร็ว / 31 พฤษภาคม 2007 "อิล ปาปา" สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16
ประมุขผู้กล้าแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงออกมากระตุ้นเตือนบรรดาสังฆมณฑลคาทอลิกทั่วโลกให้รีบฟื้นฟูงานแพร่ธรรมให้มีประสิทธิภาพ เพื่อที่จะได้ต่อสู้กับโลกที่นับวันจะถอยห่างจากพระเจ้ามากยิ่งขึ้น สมเด็จพระสันตะปาปา
เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงแสดงความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ธรรมยุคปัจจุบันผ่านทาง สารวันแพร่ธรรมสากล ครั้งที่ 81 ซึ่งทรงเขียนขึ้นล่วงหน้า เพื่อใช้ในวันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม ค.ศ.2007 โดยสารนี้
เจ้าหน้าที่วาติกันได้นำออกมาเผยแพร่เมื่อวันสมโภชพระจิตเจ้า (29 พฤษภาคม) ที่ผ่านมา ในเนื้อหาของสารดังกล่าว พระสันตะปาปาคนจริง
ทรงกล่าวถึงสภาพสังคมแบบดั้งเดิมซึ่งได้รับการปลูกฝังจากบรรดามิชชันนารี่คาทอลิกและบุคลากรที่คอยบำรุงรักษาความเชื่อให้ดำรงอยู่ แต่ทว่าในโลกยุคปัจจุบัน ความเชื่อกำลังถูกท้าทายอย่างหนัก สิ่งดังกล่าวล้วนเป็นผลมาจาก
วัฒนธรรมทางโลก,วิกฤติการณ์ครอบครัว,กระแสเรียกที่ลดลง และช่วงว่างทางอายุระหว่างบาทหลวงชรากับบาทหลวงหนุ่มที่ดูห่างกันเกินไป ปัญหาเหล่านี้กำลังนำความเสี่ยงมาสู่สังฆมณฑลต่างๆ เมื่อพิจารณาสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
พวกมันคือตัวทำลายความหวังและบั่นทอนความพยายามในการแพร่ธรรม ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่พระศาสนจักรต้องรีบปรับปรุงงานแพร่ธรรมให้มีประสิทธิภาพ เพื่อที่จะได้เอาชนะโลกวัตถุนิยม แม้ว่า พระสันตะปาปา
จะยอมรับการเผชิญหน้ากับปัญหาต่างๆ แต่พระองค์ยังทรงมองการณ์ไกลด้วยความหวังว่า "นี่เป็นช่วงเวลาอันดีที่เราจะมอบความวางใจไว้ในความคุ้มครองของพระ
กิจกรรมแพร่ธรรมของธรรมทูตรุ่นใหม่กำลังจะนำความร้อนรนทางจิตใจไปมอบให้กับสังคมทางโลกมากยิ่งขึ้น" พระสันตะปาปาชาวเยอรมัน ทรงกล่าวถึงประเทศโลกที่สามซึ่งในอดีตต้องให้มิชชันนารี่จากยุโรปเข้าไปทำงานแพร่ธรรม
แต่บัดนี้ กลับกลายเป็นประเทศโลกที่สามต้องส่งมิชชันนารีเข้ามาแพร่ธรรมในยุโรป "ในอดีต มิชชันนารีจากยุโรปได้เดินทางไปยังประเทศที่รอคอยพระวาจาของพระเยซูคริสต์ แต่ตอนนี้ ทุกอย่างดูกลับกัน มันกลายเป็นว่า
คนจากประเทศเหล่านั้นต้องเข้ามาทำงานแพร่ธรรมให้กับประเทศต่างๆในยุโรปที่มีศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิกเป็นศาสนาประจำชาติ แต่ไม่เป็นไร เพราะพ่อเชื่อว่าสิ่งนี้คือพระพรที่พระทรงต้องการให้เราแลกเปลี่ยนพระธรรมล้ำลึกแห่งพระเยซูคริสต์
แก่กันและกัน" นอกจากนี้ พระสังฆราชแห่งกรุงโรม (พระสันตะปาปา) ทรงระบุในตอนท้ายของสารว่า งานแพร่ธรรมคืองานขั้นพื้นฐานของพระศาสนจักรคาทอลิก คริสตชนทุกคนเกิดมาเพื่อแพร่ธรรม
"งานบริการขั้นพื้นฐานของพระศาสนจักรก็คืองานบริการมนุษยชาติ เราต้องให้ที่พักพิงกับบรรดามิชชันนารีผู้ออกเดินทางไกลไปประกาศความเชื่อ จงจำไว้ว่า พวกเราทุกคนที่เกิดมาเป็นคริสตชน
ล้วนแต่เกิดมาเพื่อเป็นมิชชันนารีแพร่ธรรม"
|