เริ่มต้นลงทะเบียนเวลา 08.00น. จากนั้นเป็นพิธีบูชาขอบพระคุณโดยคุณพ่อสานิจ สถะวีระวงส์ เป็นประธานร่วมกับคุณพ่อวุฒิเลิศ แห่ล้อม อุปสังฆราช คุณพ่อเดชา อาภรณ์รัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษา คุณพ่ออดิศักดิ์ สมแสงสรวง คุณพ่ออนุชา ชาวแพรกน้อย และคุณพ่อประยุทธ ศรีเจริญ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ โดยมีคุณพ่อปิยะชาติ มะกรครรภ์ มาร่วมสมทบบ
คุณพ่อสานิจเทศน์ให้ข้อคิด ให้เราสำนึกว่า เราเป็นผู้อาศัยไม่ใช่เจ้าของ ให้ทำและดูแล
ดูแลสวนและโลกที่พระเจ้าให้เราอยุ่เราไม่ใช่เจ้าของโลก เราเป็นคนใช้ของพระ คือให้ทำให้โลกดีขึ้นและดูแลโลกที่พระเจ้าสร้างให้เป็นปกติ พระเยซูใช้ในนิทานเปรียบเทียบคือคนใช้กับผู้จัดการ
พระเยซุต้องการเตือนสติเราเราเป็นแค่ผู้รับใช้ไม่ใช่เจ้านาย เราทุกคนเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าไม่ใช่เจ้าของไม่ว่าจะมีตำแหน่งอะไรหรูหราอย่างไรก็เป็นคนใช้
มนุษย์ทุกวันนี้หลงลืมไปว่าเราเป็นแค่ผู้อาศัย ไม่ใช่เจ้าของสวนของพระ
มนุษย์ทำลายโลกมาโดยตลอดมีการทดลองนิวเคลียร์ต่างๆ เมื่อสองสามอาทิตย์ก่อนบทอ่านจากมาลาคีคือโลกทั้งโลกจะร้อนเหมือนไฟไหม้ฟาง พ่อนึกถึงแกนนิวเคลียร์ มันจะไหม้จนกว่าฟางจะเป็นจุล
บทอ่านที่สองพูดถึงเรื่องร่างกายอวัยวะหลายส่วนเป็นร่างกายเดียว หน่วยเล็กๆเหล่านี้สไตท์ร่างกายก็หยุดทำงาน เพราะฉะนั้นต้องประสานงานของเราอย่างดี ต้องรู้เขารุ้เรา ประการที่สองหนึ่งเราต้องมีจิตสำนึกว่าเราเท่าเทียมกัน
ทำงานของพระิอย่างเต็มที่และอย่างดี สองเราต้องทำหน้าที่เฉพาะ โรคภัยไข้เจ็บจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ดร.เฮนรี่ เป็นคริสเตียนเขียนหนังสือสุขภาพดีวิถีเลิศว่า ถ้าวิญญาณป่วยร่างกายจะป่วยตาม ถ้าหน่วยงานไหนมีคนนินทาว่าร้ายกัน
ไม่ทำหน้าที่ของตนหมายถึงหน่วยงานนั้นป่วยต้องรีบรักษาโรค เห็นผู้อื่นผิดตัวเองถูกใช้ิำอำนาจในทางไม่ชอบ ชอบคบคนชั่ว โอ้อวดผลบุญตัวเอง เอาเรื่องส่วนตัวทำลายส่วนรวมนี่คือสมมุติฐานจากตัวเราเอง ยาร้อยขนานรักษาโรคเหล่านี้
สงบเสงีายมเจียมตน สัตย์ซื่อ ไม่กังวลไม่ห่วงใย เป็นยาโรคภัยไข้เจ็บเกิดจากวิญญาญป่วยเพื่อให่ร่างกายของสังคมอนทนแข็งแรงที่สุด ทีีสุดก็จะเดินไปด้วยดี อย่าให้กิเลสตันหามาทำให้เราเจ็บป่วย
|