วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2013 นี้ ทางอัครสังฆมณฑลฯ โดยคณะกรรมการบริหาร ซึ่งประกอบด้วย ผู้ช่วยพระสังฆราชเขตการปกครองทั้ง 6 ท่าน และผู้ช่วยพระสังฆราชฝ่ายต่างๆ ได้ร่วมกันจัดงานเฉลิมฉลองการปิดปีแห่งความเชื่อขึ้นอย่างเป็นทางการ ณ วัดนักบุญยอแซฟ อยุธยา ที่เลือกวัดนักบุญยอแซฟ อยุธยา เพราะเป็นวัดแห่งประวัติศาสตร์ที่ความเชื่อก่อกำเนิดและเจริญเติบโตในประเทศไทยของเราเมื่อเกือบสี่ร้อยปีมาแล้ว

             งานเฉลิมฉลองการปิดปีแห่งความเชื่อในครั้งนี้ พระคุณเจ้าพระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ได้ให้เกียรติไปเป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณและเปิดสวนแห่งความเชื่อ โดยพระคาร์ดินัลเดินทางมาถึงเวลา 09.30น. ในเวลาต่อมา พระอัครสังฆราช พอล ชาง อิน-นัม พระอัครสมณทูตวาติกันประจำประเทศไทย พร้อมด้วยสมณทูตโปรตุเกสประจำประเทศไทยเดินทางทาถึง โดยมีคุณพ่อวุฒิเลิศ แห่ล้อม คุณพ่อวิทยา แก้วแหวน พระสงฆ์หัวหน้าเขต 6 คุณพ่อยอดชาย เล็กประเสริฐ เจ้าอาวาสวัดนักบุญยอแซฟ อยุธยา พร้อมด้วยพี่น้องสัตบุรุษที่มาร่วมงานให้การต้อนรับ กิจกรรมต่างๆ เริ่มเวลา10.00น. คุณพ่อวุฒิเลิศ แห่ล้อม อุปสังฆราชฯ กล่าวรายงาน จากนั้นพระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ได้เริ่มวจนพิธีกรรมเสกและเปิดสวนแห่งความเชื่อพร้อมเสกพระรูปต่างๆ รอบสวน และปลูกต้นไม้แห่งความเชื่อ

             พิธีบูชาขอบพระคุณ เริ่มเวลา 10.30น. โดยพระคาร์ินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู เป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณร่วมกับพระอัครสังฆราช พอล ชาง อิน-นัม พระอัครสมณทูตวาติกันประจำประเทศไทย สมณทูตโปรตุเกสประจำประเทศไทย พระสังฆราชสังวาลย์ ศุระศรางค์ พร้อมด้วยพระสงฆ์หัวหน้าเขตทั้ง 6 นักบวชชาย หญิง และพี่น้องสัตบุรุษอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ มาร่วมพิธีในวันนี้จำนวนมาก ท้ายพิธีบูชา่ขอบพระคุณคุณพ่อวิทยา แก้วแหวน กล่าวขอบคุณประธานในพิธีและเป็นประธานในพิธีเฝ้าศีลและอวยพระศีลมหาสนิท และยังมีนิทรรศการส่งเสริมกระแสเรียกของนักบวชคณะต่างๆ พร้อมทั้งมีของที่ระลึกมอบให้มากมาย พิธีในวันนี้ยังมีการถ่ายทอดสดผ่านทางเวบไซต์ คาทอลิก โดยแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ และสื่อมวลชนคาทอลิกอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ อำนวยภาพและเสียง

             อย่างไรก็ตาม การเฉลิมฉลองปิดปีแห่งความเชื่อ มิได้หมายความว่า ต่อไปเราไม่ต้องมีความเชื่อแล้ว หากแต่เป็นการย้ำเตือนเราทุกคนให้ยังตระหนักในความสำคัญของความเชื่อยิ่งทียิ่งมากขึ้น ให้พยายามที่จะหล่อเลี้ยงความเชื่อของเขาให้เติบโตแข็งแรงขึ้น... และในเวลาเดียวกันเรายังต้องเป็นประจักษ์พยานยืนยันความเชื่อของเราอย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ด้วยการดำรงชีวิตเป็นแบบอย่างดังที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำในวาระแห่งการพระชนมชีพเปิดเผย 3 ปีสุดท้ายของพระองค์นั้นเอง