ภาพ / ข่าว พระสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์ วีระ อาภรณ์รัตน์

Share |

             คณะกรรมการเพื่อคริสตศาสนธรรม นำคุณครูคำสอนจากสังฆมณฑลต่างๆจำนวน 50 คนร่วมงานชุมนุมครูคำสอนนานาชาติและแสวงบุญที่ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 23 กันยายน ถึงวันที่ 2 ตุลาคม 2013

             การชุมนุมครูคำสอนนานาชาตินี้จัดขึ้นที่หอประชุมเปาโลที่ 6 นครรัฐวาติกัน ในโอกาสปีแห่งความเชื่อ จัดโดยกระทรวงเพื่อการประกาศพระวรสารใหม่ โดยมีหัวข้อว่า "ครูคำสอน พยานแห่งความเชื่อ" มีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน 1,600 คน  ในจำนวนนี้มีตัวแทนจากประเทศไทยเข้าร่วมประชุมจำนวน 2 ท่าน คือ คุณพ่อเปรมปรี วาปีโส และคุณพ่อเอกสิทธิ์ ทัฬหะกุลธร

             เนื้อหาในการประชุมครั้งนี้เน้นการไตร่ตรองเรื่องความเชื่อซึ่งเป็นเนื้อหาในภาคแรกของหนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิและเชียวชาญในงานคำสอนเป็นผู้บรรยายหลายท่าน ซึ่งโอกาสอันสำคัญนี้สมเด็จพระสันตปาปาฟรังซิสได้เสด็จมาเป็นวิทยากรแบ่งปันถึงคุณลักษณะของครูคำสอนกับการเป็นพยานถึงความเชื่อในโลกปัจจุบัน โดยพระองค์ได้ตรัสสอนว่า ครูคำสอนไม่ใช่เป็นเพียงอาชีพ แต่เป็นกระแสเรียก ครูคำสอนได้รับการเรียกให้เริ่มทุกอย่างโดยมีพระคริสตเจ้าเป็นศูนย์กลาง ให้เลียนแบบพระองค์ และออกจากตัวเองไปหาคนอื่นๆ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ชายขอบของสังคม  ความเชื่อเป็นพระพรซึ่งเราได้รับมาเปล่าๆ ก็ให้เรารู้จักแบ่งปันกับทุกคนโดยการเป็นพยานด้วยชีวิต  อย่าปิดตัวเอง

             วันเสาร์ที่ 28 กันยายน มีครูคำสอน 3 คน เป็นตัวแทนครูคำสอนไทยไปเรียนคำสอน(ภาษาอังกฤษ) จากพระคาร์ดินัลเอ็ดวิน  โอไบรอัน ที่วัดซานซัลวาตอเร ร่วมมิสซา  และตอนบ่ายร่วมแสวงบุญมหาวิหารนักบุญเปโตร

             การชุมนุมครั้งนี้สิ้นสุดลงด้วยการร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ โดยสมเด็จพระสันตปาปาฟรังซิสทรงเป็นประธานในพิธี ณ จตุรัสนักบุญเปโตร เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2013 มีครูคำสอนและคริสตชนที่มาร่วมพิธี ประมาณ 100,000 คน

บทเทศน์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส  ในมิสซา มีใจความดังนี้

             “วิบัติจงเกิดแก่ผู้ที่มีความสะดวกสบายอยู่ในศิโยน และบรรดาผู้ที่รู้สึกปลอดภัย... เขาทั้งหลายนอนบนเตียงงาช้าง (อาโมส 6: 1, 4)  กิน ดื่ม ร้องเพลง สนุกสนาน โดยไม่ช่วยแก้ไขปัญหาของคนอื่น  พระวาจานี้สอนใจอะไรแก่เรา หากเราสนใจความสะดวกสบาย  ทรัพย์สิน สนุกสนาน จะเป็นอันตราย

             1.ให้เราถามตนเองว่า  เกิดสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร  ปิดตนเอง  วางใจในสิ่งของต่างๆ เกิดขึ้นเพราะเราลืมพระเจ้า หันมาสนใจแต่ตนเอง  ความสะดวกสบายของตน  เหมือนชายหนุ่มในพระวรสาร (ลก 16: 19-31 – อุปมาเรื่องเศรษฐีกับลาซารัส)

             2.ครูคำสอนคือใคร คือคนที่ปกป้องและสนับสนุนให้คนจำพระเจ้าได้ ปกป้องตนเองและคนอื่นจำพระเจ้า  เหมือนพระนางมารีย์ ไม่สนใจเกียรติยศ ชื่อเสียง  ความร่ำรวยของตน ไม่ปิดตนเอง  หลังจากฟังทูตสวรรค์แล้วน้อมรับพระบุตร ไปหานางเอลีซาเบ็ธ  ทั้งๆ ที่ทรงครรภ์  ไปช่วยนาง ไปพบปะ และจดจำสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำ  ดำเนินชีวิตซื่อสัตย์  สรรเสริญพระเจ้าด้วยความสุภาพ  (ลก 1: 46-48, 50) แม่พระจำพระเจ้าได้

             ครูคำสอน เป็นคริสตชนคนหนึ่งที่เปิดตนเอง จดจำพระเจ้า  และปลุกจิตสำนึกผู้อื่นให้จดจำพระเจ้าด้วย  สอนคำสอน  ให้อยู่ใกล้ชิดพระเยซูเจ้า พระวาจาพระเจ้า ในศีลศักดิ์สิทธิ์  ในพระศาสนจักร ในความรักของพระองค์  ครูคำสอนที่รัก  พ่อขอถามว่า เราจำพระเจ้าได้ไหม  เราเป็นเหมือนระฆังปลุกผู้คนให้จำพระเจ้า ทำให้ใจกระตือรือร้นไหม

             ครูคำสอนเป็นมนุษย์ที่จดจำพระเจ้า มีความสัมพันธ์สม่ำเสมอกับพระองค์ และกับเพื่อนพี่น้อง  เป็นผู้มีความเชื่อ... มีความรักเมตตา มองเห็นทุกคนเป็นพี่น้อง  เป็นผู้มีความอดทน ความเพียร  สามารถผ่านความยากลำบาก  การทดลอง  ความล้มเหลว ด้วยความสงบและความหวังในพระเจ้า ถ้าเป็นคนสุภาพ รู้จักเข้าใจ และมีเมตตา”

             การไปร่วมงานชุมนุมครูคำสอนนานาชาติ ที่กรุงโรม ครั้งนี้ นำประสบการณ์ที่ดี  ความเป็นสากลของพระศาสนจักร  และมีกำลังใจยิ่งขึ้นที่จะทำหน้าที่ “ครูคำสอนไทย” ให้ดีที่สุด