ภาพ / ข่าว : นิพัฒน์ สิริพรรณยศ อาสาสมััครช่วยงานแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2013 คุณพ่อ ยอแซฟ ประสาร คูรัตนสุวรรณ เจ้าอาวาสวัดพระคริสตกษัตริย์ นครปฐม ได้จัดฉลองวัดปีที่ 77 โดยได้เรียนเชิญ พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู พระอัครสังฆราชกิตติคุณแห่งอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

เวลา 10.00 น. พระคาร์ดินัล มาถึงบริเวณวัด โดยมีสภาภิบาล และสัตบุรุษคอยต้อนรับ จากนั้น พระคาร์ดินัลได้สวดภาวนาต่อศีลมหาสนิท และทักทายบรรดาสัตบุรุษ

เวลา 10.30 น. พิธีบูชาขอบพระคุณ โอกาสสมโภชพระเยซูเจ้า กษัตริย์แห่งจักรวาลสากล โดย พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู พร้อมด้วย พระสังฆราชกิตติคุณ ยอแซฟ สังวาลย์ ศุระศรางค์

พระคาร์ดินัล เทศน์ให้ข้อคิดว่า

“พระศาสนจักรมีหน้าที่อะไร พระศาสนจักรเป็นเครื่องหมายศักดิ์สิทธิ์ เป็นเครื่องหมายแห่งเวลา เพื่อนำมวลสมาชิกไปสู่ชีวิตนิรันดรตามพระวาจาของพระเยซูคริสตเจ้าที่ตรัสไว้ว่า เราคือหนทาง เราคือชีวิต เราคือความจริง และเราคือความรอด เพราะฉะนั้นเมื่อพระเยซูคริสตเจ้าได้บอกว่า พระองค์เป็นหนทาง และโดยหนทางนี้ เป็นหนทางเดียวเท่านั้น ที่จะนำเราไปสู่บ้านพระบิดา และไปสุดหมายปลายทางของเรา เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งสำหรับคริสตชนจำนวนมิใช่น้อย ที่ไม่ได้พยายามที่จะเดินและดำเนินชีวิตตามหนทางที่พระเยซูเจ้าทรงสร้างไว้ ทรงเป็น

เรา นอกจากจะไม่ได้อยู่ในหนทาง ไม่ได้เดินทางในวิถีที่พระเยซูคริสตเจ้าได้บอกไว้แล้ว เรายังมิได้ปฏิบัติตามคำสอนที่พระเยซูคริสตเจ้าได้สั่งสอนเรา และยิ่งกว่านั้น พระเยซูคริสตเจ้า ได้บอกว่า ชีวิตของเรามนุษย์นี้ มิใช่ดำรงเพียงแต่อยู่ในโลกนี้เท่านั้น แต่ชีวิตและบ้านแท้ของเรา คือ ชีวิตนิรันดร บ้านของพระบิดา ณ สวรรค์ มนุษย์ในปัจจุบันกำลังหลงเดินผิดทางเหตุเพราะว่า โลกนี้คือ สวรรค์ เงินทองทรัพย์สมบัติเป็นสิ่งมีค่ามากกว่าสมบัติในสวรรค์ ความสนุกสนานในโลกนี้ดีกว่าความสุขที่แท้จริงในสวรรค์ มนุษย์ในสังคมปัจจุบันนี้ จึงมุ่งและแสวงหาพยายามให้ได้มาซึ่งความสนุกสนานอันไม่ถาวรและเป็นอันตรายด้วยซ้ำ แต่ชีวิตคริสตชนจงยึดมั่นเถิดในคำสอนของพระเยซูคริสตเจ้า และพระเยซูคริสตเจ้าได้เป็นแบบฉบับในหนทางแห่งชีวิตไปสู่ความสำเร็จสุดท้ายของเรา

พระองค์บอกว่า ชีวิตที่จะต้องดำเนินไปนี้ ก็คือ จงรับกางเขน แบก และติดตามพระเยซูคริสตเจ้า นั่นคือ พระองค์บอกว่า ชีวิตนี้ไม่ใช่เป็นชีวิตที่มีความสุข ความสำเร็จ และเป็นหนทางที่โรยด้วยดอกกุหลาบ แต่ว่า เป็นชีวิตแห่งกางเขนที่จะต้องเผชิญกับความลำบาก ชีวิตต้องเผชิญกับการผจญล่อลวง และชีวิตที่จะต้องเผชิญกับสิ่งเย้ายวนทั้งหลายในโลก เป็นชีวิตที่ต้องต่อสู้แต่คริสตชนจำนวนมิใช่น้อย ประชาชนมิใช่น้อย ไม่ได้ปฏิบัตติตามวิถีทางอันนี้ สังคมของเราจึงเผชิญกับความยุ่งยาก ความสับสน ความปั่นป่วน ความขัดแย้ง การต่อสู่ซึ่งกันและกัน มิใช่หนทางที่พระเยซูเจ้าทรงกำหนดไว้ และเพื่อที่จะได้ดำเนินไปอย่างงี้ ต้องเผชิญกับความยุ่งยากความลำบากแห่งชีวิตในการรับใช้พระเป็นเจ้า บางครั้งบางคราวทำให้เราหมดศรัทธา บางครั้งบางคราวทำให้เราหมดความเชื่อ แต่พระเยซูคริสตเจ้าได้เคยตรัสไว้ว่า ใครที่เชื่อในเราจะไม่มีวันตายเลย

ในชีวิตของเราอาจจะต้องประสบกับคลื่นลม ต้องประสบกับพายุฝนฟ้า ในชีวิตของเรา ในครอบครัวของเรา ในสังคมของเรา ขอให้เราอย่าได้มีความเชื่ออันน้อยนิด จงรักษาความเชื่อมั่นในพระเป็นเจ้า ในพระเยซูเจ้า และเชื่อมั่นในพระวาจาของพระเยซูคริสตเจ้าที่ได้ตรัสให้เราได้รับฟัง ใครที่เชื่อในเราจะไม่มีวันตายเลย ซึ่งได้มอบให้กับเรา และเมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็จะบรรลุหนทาง ความจริง และความรอดอย่างแท้จริง ”

หลังบทภาวนาหลังรับศีล ตัวแทนสภาภิบาลได้กล่าวขอบคุณพระคาร์ดินัล และพระคุณเจ้าสังวาลย์ จากนั้น พระคาร์ดินัล ได้กล่าวให้โอวาท และตามด้วยพระคุณเจ้า สังวาลย์ และพระสังฆราชทั้ง 2 ได้อวยพรแก่สัตบุรุษที่มาร่วมพิธี
จากนั้น เป็นการเทิดเกียรติพระคริสตกษัตริย์ โดย พระคุณเจ้า สังวาลย์ ศุระศรางค์ เริ่มจากถวายกำยาน แห่รอบวัด ถวายกำยาน สวดภาวนา และถวายช่อดอกไม้

บรรยากาศในวันนี้ มีฝนตกลงมาในระหว่างที่การแห่ แต่ก็ไม่ได้ทำให้การเทิดเกียรติพระคริสตกษัตริย์สง่างามลดลงแต่อย่างใด ซึ่งในวันนี้ มีสัตบุรุษมาร่วมเป็นจำนวนมาก และในปัจจุบัน ทางวัดได้มีคริสตชนที่เป็นเวียดนามมาร่วมมิสซาทุกอาทิตย์ และการฉลองวัดในปีนี้ ก็ได้รับความร่วมมือจากคริสตชนชาวเวียดนามอีกด้วย