ภาพ : นิพัฒน์ สิริพรรณยศ อาสาสมััครช่วยงานแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
ข่าว : แผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

ประมวลภาพฉลองวัดแม่พระลูกประคำ กาลหว่าร์

วันอาิทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2013 เวลา 9.20 น. พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ประธานในพิธีเดินทางมาถึง คุณพ่อไพทูรย์ หอมจินดา เจ้าอาวาส สภาภิบาล และสัตบุรุษให้การต้อนรับ จากนั้นเวลา 10.00 น. พิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ โดยพระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู เป็นประธาน ร่วมกับพระสังฆราช สังวาล ศุระศรางค์ พระสังฆราชกิตติคุณ คุณพ่อวุฒิเลิศ แห่ล้อม อุปสังฆราช และคณะสงฆ์ มีสัตบุรุษจากวัดในเขต 1 และเขตอื่นมาร่วมกันเป็นจำนวนมาก

บรรยากาศการฉลองวัดวันนี้ เต็มเปี่ยมด้วยความศรัทธา เป็นต้นการสวดสายประคำภายในวัด และการเตรียมจิตใจเป็นอย่างดีกับการร่วมขอบพระคุณพระเป็นเจ้าสำหรับชุมชนวัดกาลหว่าร์ที่มีความเก่าแก่ยาวนาน ความเก่าแก่ของ  “วัดกาลหว่าร์” มีความเป็นมาจะเรียกได้ว่าพร้อมกับกรุงรัตนโกสินทร์เลยทีเดียว จากประวัติศาสตร์ ทำให้สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า เป็นวัดคาทอลิกคู่กรุงรัตนโกสินทร์ก็ว่าได้

เท่าที่สังเกตุ มีสัญลักษณ์หนึ่งที่สำคัญ หายไปจากวัดกาลหว่าร์ สิ่งนั้นคือ "พระรูปแม่พระลูกประคำ" นอกจากเรื่องราวการเดินทางของชาวโปรตุเกสที่อพยพมาจากกรุงศรีอยุธยามาตั้งถิ่นฐานบริเวณตลาดน้อยแล้ว ยังมีเรื่องราวของพระรูปแม่พระ ซึ่งพวกเขานำมา และให้ความสำคัญเคารพศรัทธายิ่ง และตกทอดมาจนถึงทุกวันนี้ และเป็นที่มาของชื่อ "ค่ายแม่พระลูกประคำ" และชื่อวัดแม่พระลูกประคำ กาลหว่าร์ ซึ่ง ณ ตอนนี้ พระรูปนี้ไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด ก็คิดเอาว่าคงเอาบูรณะซ่อมแซม อย่างไรรายละเอียดคืบหน้าประการใด ก็คงต้องไปติดตามที่ facebook วัดแม่พระลูกประคำกาลหว่าร์ กันแล้ว

หลังมิสซาบูชาขอบพระคุณ สภาภิบาล ได้กล่าวขอบคุณ ทั้งภาษาจีน และภาษาไทย เป็นที่ประทับใจของทุกคนที่ฟัง และกล่าวเชิญชวนให้มาร่วมฉลองวัดในปีหน้าอีกด้วย หลังมิสซาไปแห่พระรูปแม่พระไปรอบๆ วัด เหมือนฝนจะตกแต่ก็ไม่ตก จนหลังมิสซาเลิกแล้ว ฝนจึงตกลงมา

ความประทับใจเวลามาร่วมฉลองวัดจะได้ยินเสียงระฆังวัดที่ดังเป็นเพลงแม่พระ ไพเราะจับใจ มีเรื่องเล่าของระฆังวัดว่า ถ้าย้อนไปในสมัยเพิ่งมีสถาปัตยกรรม Gothic แรกๆ 800 ปีที่แล้วโดยประมาณ หอคอยสูงๆ มี Function ที่สำคัญอย่างนึงคือ เป็นหอระฆัง ใบใหญ่แค่ไหน (ได้ยินมาว่าคนที่ตีระฆังจะต้องเป็นอาสาสมัคร เพราะเมื่อตีแล้วจะหูหนวกไปเลย)ส่วน Gothic revival อย่างวัดกาลหว่าร์เรานั้น ใบเล็กกว่ามาก และเปลี่ยนจากการดึงทีละใบ เป็นนำสายระฆังมารวมกัน และมีที่ตีระฆังดังภาพล่าง โดยมีเรียงตามเสียง ในดนตรีสากล คือมีตั้งแต่ C จนถึง High C และหนึ่งคนสามารถตีเป็นเพลงได้จนจบอย่างปลอดภัย ส่วนถ้าใครอยากฟังแบบ สดๆ เชิญชวนมาฟังที่วัดกาลหว่าร์ ก่อนเริ่มมิสซา ทุกวันเสาร์ และอาทิตย์ แนะนำให้ไปฟังไพเราะจับใจมากจริง ๆ