ภาพ / ข่าว : แผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

ประมวลภาพฉลองวัดซางตาครู้ส กุฎีจีน

วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน 2013 เวลา 10.00 น. คุณพ่อยอห์น วิทยา คู่วิรัตน์ เจ้าอาวาส คุณพ่อเปโตร ฉลองรัตน์ สังขรัตน์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส สภาภิบาล คณะครู นักเรียน ให้การต้อนรับพระอัครสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช ประธานในพิธี บริเวณด้านหน้าวัด  หลังจากพระคุณเจ้าเดินทางมาถึง ได้เข้าไปไหว้ พระธาตุไม้ซางตาครู้ส ก่อนจะเดินเข้าไปขอพรภายในบริเวณด้านในวัด

เวลา 10.30 น.  เริ่มพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ โดยพระอัครสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช เป็นประธานร่วมกับพระคุณเจ้าสังวาลย์ ศุระศรางค์ พระสังฆราชกิตติคุณ คุณพ่อจำเนียร กิจเจริญ และคณะสงฆ์ มีสัตบุรุษจากวัดในเขต 3 และ เขตอื่น ๆ มาร่วมถวายเกียรติในโอกาสฉลองวัดซางตาครู้ส เป็นจำนวนมาก

ก่อนเริ่มพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ พิธีกรได้พูดถึงการฉลองวัดไว้อย่างน่าสนใจว่า “การฉลองวัดมีความหมายต่อชีวิตคริสตชนอย่างไร” มีความหมาย 3 ประการดังนี้

ประการแรก การฉลองวัดในมิติเล็กที่สุดแต่มีความสำคัญมากที่สุด คือ การเฉลิมฉลองชีวิตคริสตชนของเรานั่นเอง ในฐานะที่เราเป็นลูกวัด เรารับศีลล้างบาปที่นี่ ทำให้เราเห็นความเจริญเติบโต ในมิติทางความเชื่อของชีวิตคริสตชนแต่ะละคน ฉะนั้น การฉลองวัดจึงหมายถึง “การฉลองตัวเราแต่ะละคน ซึ่งเป็นวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า”  ร่างกายและชีวิตของเราแต่ละคนเปรียบเสมือนวิหารอันทรงชีวิตซึ่งพระเจ้าเสด็จประทัับอยู่กับเราอยู่ในชีวิตของเราแต่ละคน การเฉลิมฉลองวัดจึงเป็นการเฉลิมฉลองเราในมิติทางความเชื่อที่มีต่อพระเจ้าโดยเราเชื่อมั่นว่า พระเจ้าทรงมอบทุกสิ่งทุกอย่าง ให้กับเราแต่ละคนตามความประพฤติปฏิบัติของเราต่อพระองค์ และต่อเพื่อนพี่น้องทั้งหลาย

ประการที่สอง “การฉลองวัด เป็นการเฉลิมฉลองชุมชนแห่งความเชื่อในเขตวัดของเรา” ซึ่งชุมชนแห่งความเชื่อในกุฎีจีนแห่งนี้ยาวนานถึง 244 ปี มาแล้ว แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งแกร่งกล้าของสมาชิกในพระศาสนจักรของชุมชนแห่งนี้ ที่สามารถอุทิศชีวิตยืนหยัดในความเชื่อ เพื่อประกาศพระนามพระเจ้า ร่วมกับเพื่อนพี่น้องทั้งหลาย เราจึงต้องตระหนักถึงมิติทางความเชื่อในชีวิตของเราเองและมิติทางความเชื่อของชุมชนของเรา ซึ่งถือว่าเก่าแก่ดั้งเดิมและสืบทอดมรดกตราบจนถึงปัจจุบันนี้

ประการที่สาม “การเฉลิมฉลองวัด เป็นการเฉลิมฉลองชื่อของวัด” วัดของเรามีชื่อว่า “ไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์” ทุกครั้งที่เราเห็นไม้กางเขน หรือทำสำคัญมหากางเขน เรามีความนึกคิดอย่างไร ไม้กางเขน มิใช่นำมา ซึ่งความทุกข์ทรมาน แต่นำมาซึ่งชัยชนะต่อบาปและความตายของพระเยซูคริสตเจ้า ไม้กางเขนเป็นเครื่องหมายแห่งความรักอย่างสุดซึ้ง ที่พระเจ้าทรงมอบให้กับมนุษย์ผ่านทางพระบุตรสุดที่รักของพระองค์ ที่ทรงยอมอุทิศชีวิตของพระองค์ตรึงบนไม้กางเขน พระเจ้าทรงท้าทายบรรดาศิษย์ของพระองค์ว่า “ใครที่ปรารถนาจะเป็นศิษย์ของพระองค์ให้เขาเลิกคิดถึงตนเอง แบกไม้กางเขน และติดตามเรามา”

หลังจากประธานในพิธีอวยพรสัตบุรุษแล้ว ประธานสภาภิบาล ได้กล่าวคำนับ และรายงานเกี่ยวกับกิจกรรมของวัดตลอดระยะเวลา  1 ปีที่ผ่านมา จากนั้นพระคุณเจ้ากล่าวให้โอวาท รวมถึงฝากประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับ "แผนอภิบาลภาคปฎิบัติอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯประจำปี ค.ศ. 2014" และ การให้ความช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยเนื่องจากการสู้รบกันในประเทศซีเรีย

จากนั้นแห่พระธาุตุไม้กางเขนไปรอบ ๆ วัด มีการสวดบทภาวนา “โอ้ซางตาครู้ส” ปิดพิธี และขอพรพระธาุตุไม้กางเขน บรรยากาศในวันนี้ มีฟ้าครึ้มแต่เช้า มีไม่มีฝนตก ทุกคนบอกว่า ช่วยกันสวดไม่ให้ฝนตก มีอากาศที่เย็นสบายตลอดการร่วมพิธีกรรม

วัดซางตาครู้ส เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน มีเอกลักษณ์เฉพาะที่โดดเด่นในหลาย ๆ ด้านชุมชนความเชื่อ ซึ่งตั้งแต่ได้รับพระราชทานที่ดิน เป็นเวลา 244 ปีแล้ว และวัดหลังนี้เป็นหลังที่สาม มีอายุ 97 ปี อีก 3 ปี จะฉลองครบรอบ 100 ปีของวัด ซางตาครู้ส เป็นภาษาโปตุเกส แปลว่า “กางเขนศักดิ์สิทธิ์” เพื่อเป็นที่ระลึกถึงวันที่ได้รับพระราชทานที่ดินซึ่งตรงกับวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2312 ซึ่งเป็นวันเทิดทูนมหากางเขนของชาวคริสต์ ชุมชนแห่งนี้่จึงกลายเป็นศูนย์กลางเผยแพร่ศาสนาคริสต์ต่อมาจนถึงปัจจุบัน