ภาพ / ข่าว : คุณนิพัทธ์ สิริพรรณยศ อาสาสมัครช่วยงานแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

             วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม 2013 คณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ ร่วมจัดงานเพื่อขอบคุณพระเป็นเจ้า โอกาสแต่งตั้งบุญราศี ซิสเตอร์ มาเรีย ตรองกัตตี ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นบุญราศี โดย พระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2012 ณ มาคัส ประเทศเอกวาดอร์

             เวลา 09.30 น. การฉายวีดิทัศน์เกี่ยวกับชีวประวัติของบุญราศี มาเรีย ตรองกัตตี ที่บริเวณบ้านธารพระพร โอกาสนี้ พระคุณเจ้า เกรียงศักดิ์ พระคุณเจ้า สังวาลย์ บรรดาพระสงฆ์ นักบวช และสัตบุรุษ ร่วมกันรับชมวีดิทัศน์ดังกล่าว

             จากนั้น พระคุณเจ้า เกรียงศักดิ์ ได้ดูนิทรรศการเกี่ยวกับชีวประวัติของบุญราศี มาเรีย ตรองกัตตีก่อนเข้าสู่หอประชุม โรงเรียนมารีย์อุปถัมภ์

             เวลา 10.15 น. พิธีมิสซาขอบพระคุณพระเจ้า โอกาสแต่งตั้งบุญราศี ซิสเตอร์ มาเรีย ตรองกัตตี คณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ (ซิสเตอร์ซาเลเซียน) โดย พระอัครสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พร้อมด้วย พระสังฆราช ยอแซฟ สังวาลย์ ศุระศรางค์ คุณพ่อ ยอแซฟ วุฒิเลิศ แห่ล้อม อุปสังฆราช คุณพ่อ เปโตร นิพนธ์ สาราจิตต์ และบรรดาพระสงฆ์
 

             พระคุณเจ้า เกรียงศักดิ์ เทศน์แบ่งปันให้ข้อคิดว่า

             “พี่น้องที่รัก วันนี้ พวกเราทุกคนมีความชื่นชมยินดีมาร่วมฉลองบุญราศี ซิสเตอร์ มาเรีย ตรองกัตตี ธรรมทูตผู้ยิ่งใหญ่และผู้ซื่อสัตย์ สมาชิกคณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ หรือที่เราเรียกกันง่ายติดปากว่า ซิสเตอร์ซาเลเซียน เวลาเดียวกันวันนี้เป็นวันอาทิตย์วันพระเจ้า วันที่คริสตชนทุกคนมีนัดกับพระเจ้า เพื่อมารับฟังพระวาจาของพระองค์และขอบพระคุณพระเจ้าในพิธีบูชาขอบพระคุณ พระวาจาพระเจ้าในพระวรสารวันนี้ วันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลธรรมดา เป็นเหตุการณ์หนึ่งในชีวิตขององค์พระเยซูคริสตเจ้า  ขณะที่พระองค์ไปร่วมงานมงคลสมรสที่หมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี

             เหตุการณ์พระวรสารในวันนี้ ดังที่เราได้รับฟังแล้ว พระเยซูเจ้าได้รับเชิญไปเลี้ยงในงานสมรสพร้อมกับศิษย์ของพระองค์ และพระมารดาของพระองค์ก็ทรงอยู่ในงานนั้นด้วย เหง้าองุ่นหมดลง พระเยซูเจ้าได้ทำเครื่องหมายอัศจรรย์เปลี่ยนน้ำให้เป็นเหล้าองุ่น นี่เป็นการเผยแสดงของพระองค์เป็นครั้งที่ 3 ต่อเนื่องมาจาก 2 ครั้งแรก (พระคริสตเจ้าสำแดงองค์ และพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง) และในครั้งนี้ เป็นเผยแสดงพระองค์ต่อบรรดาศิษย์ของพระองค์โดยเฉพาะให้พวกเขาเชื่อมั่นในพระองค์ เพราะเป็นพวกเขาเองที่จะต้องนำความรอดพ้นที่พระองค์นำมาให้นั้นไปถึงมนุษย์ทุกคนทั่วโลก ไปจนกระทั่งถึงในป่าลึกอเมซอนด้วย และเหตุการณ์การแสดงองค์ในครั้งที่ 3 นี้ยังมีบุคคลอีกผู้หนึ่งซึ่งมีบทบาทสำคัญในชีวิตของพระเยซูมาตั้งแต่การปฎิสนธิการจุติมาของพระองค์ในพระครรภ์ การประสูติมาในโลกนี้ การเลี้ยงอบรมพระองค์มาโดยตลอดและแม้ในขนาดนั้นเมื่อพระเยซูกำลังเริ่มภารกิจของพระองต์ พระแม่มารีย์พระมารดาของพระเยซูเจ้าได้ทรงอยู่ในงานสมรสที่หมู่บ้านคานาครั้งนั้นด้วย ในงานสมรสที่เมืองคานาเมื่อแม่พระพบว่าเหง้าองุ่นหมดลงพระนางก็รีบไปหาพระบุตรของพระนางและกล่าวว่า พวกเขาไม่มีเหล้าองุ่นแล้ว ในตอนแรกพระเยซูเจ้าได้ปฏิเสธพระนางโดยทรงกล่าวว่า สตรีเอ๋ย เวลาของเรายังมาไม่ถึง และนั่นพระเยซูเจ้าได้ยืนยันชัดเจนถึงแผนการของพระเจ้าเป็นอย่างไรแล้ว แต่พระองค์ก็ไม่ปฏิเดสธคำขอของพระมารดา พระองค์ได้เปลี่ยนแผนการของพระเจ้า เลื่อนเวลาการทำอัศจรรย์ครั้งแรกของพระองค์เร็วขึ้นกว่ากำหนดเดิม โดยทรงเปลี่ยนน้ำให้เป็นเหล้าองุ่น คำขอของพระนางมารีย์นี้ทำให้เราเข้าใจหลายสิ่งหลายอย่างและน่าสนใจมากด้วย

             ประการแรก คำวอนขอของแม่พระมีพลังอำนาจ พระเยซูเจ้าไม่ทรงปฏิเสธแม่ของพระองค์

             ประการที่สอง แม่พระไม่ได้บอกกับพระเยซูเจ้าว่าขอลูกช่วยทำอัศจรรย์เปลี่ยนเหล้าองุ่นให้พวกเขาด้วย
เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้เน้นการทำอัศจรรย์เพื่ออัศจรรย์เพื่อความเด่นดังความยิ่งใหญ่ของผู้ทำอัศจรรย์หรือเพื่อผลประโยชน์อื่นใด แต่เน้นเพื่อความรักต่อมนุษย์ สำนึกของแม่พระมารีย์สอดคล้องกับจุดยืนของพระเยซูเจ้า ทุกครั้งที่พระเยซูเจ้าทำอัศจรรย์นั้น เราจะเห็นว่ามีเป้าหมายอยู่ทึความรักต่อพี่น้องเพื่อนมนษย์ แม่พระทรงรู้ดีว่าพระทัยของพระบุตรเป็นอย่างไร พระองค์เป็นองค์ความรักและเมตตากรุณา ในสถานการณ์เช่นนี้แหละ สถานการณ์ที่วอนขอไม่ใช่เพื่อตนเอง ดังนั้น พระเยซูเจ้าจึงสดับฟังคำขอของแม่พระ และทรงช่วยกู้สถานการณ์นั้นไว้ แบบอย่างจากชีวิตของพระนางมารีย์ ผู้เป็นมารดาของพระองค์เป็นผู้อบรมสั่งสอนพระองค์ในเยาว์วัยได้กลับกลายมาเป็นสิษย์คนแรกของบุตรของพระนาง เราจะพบว่าชีวิตของแม่พระสะท้อนออกซึ่งความรักต่อพี่น้องเพื่อนมนุษย์อันเป็นส่วนสำคัญในแก่นคำสอนของพระเยซูคริสตเจ้าอย่างชัดเจน ในเหตุการณ์ครั้งนี้ บุคคลแรกที่สังเกตเห็นและพบว่าเหล้าองุ่นหมด คือ แม่พระ และเพื่อเห็นแก่ความรักของเพื่อนมนุษย์ในตัวเจ้าภาพงานแต่งงานที่คงจะต้องเสียหน้าอย่างมากที่ขาดตกบกพร่องในการต้อนรับ แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นกลับผ่านไปอย่างราบรื่น เพราะความรักต่อเพื่อนมนุษย์ของแม่พระ พระนางเอาใจใส่ต่อบุคคลรอบข้าง ไม่ได้ปล่อยให้สิ่งต่างๆเป็นไปแบบฉันไม่เกี่ยว ไม่ใช่หน้าที่ของฉัน แต่แม่พระได้ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือจนว่าแขกเหรื่อที่มาร่วมร่วมงานครั้งนั้น รวมทั้งเจ้าภาพเองด้วยยะงไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า เกิดปัญหาขึ้น และปัญหาเหล่านั้นก็ได้ได้รับการแก้ไขจนเรียบร้อยโดยไม่มีใครหรือแขกเหรื่อคนไหนที่สังเกตว่ามีการแก้ปัญหา มีปัญหาเกิดขึ้น นอกจากพระเยซูเจ้า ศิษย์ของพระองค์ และคนรับใช้เท่านั้น แม่พระทำได้เนียนมากเลยทีเดียว

             อีกเหตุการณ์หนึ่งของพระแม่มารีย์อันเป็นประเด็นเรื่องความรักต่อมวลมนุษย์เช่นเดียวกันและเป็นสิ่งที่พระนางปฏิบัติทันทีหลังจากที่พระนางได้ตอบรับพระเจ้า ยอมรับเป็นพระมารดาขององค์พระผู้ไถ่แล้ว และเหตุการณ์นั้นก็คือ แม่พระเสด็จเยี่ยมนักบุญเอลีซาเบธ เมื่อแม่พระได้รับทราบจากทูตสวรรค์ว่า นางเอลีซาเบธ ญาติของพระนางมีครรภ์ พระนางไม่ได้มัวห่วงกังวลปัญหายากลำบากของพระนางเองก่อน เพราะพระนางเองก็อยู่ในสภาพมีครรภ์เช่นเดียวกัน แต่พระนางเดินทางออกไปเยี่ยมไปให้ความช่วยเหลือไปรับใช้ในยามที่พี่น้องต้องการความช่วยเหลือ แม้ว่าการเดินทางสมัยนั้นจะเป็นไปด้วยความยากลำบากก็ตาม คริสตชนศิษย์ของพระคริสตเจ้าก็เช่นเดียวกัน เมื่อเราได้ตอบรับความรักของพระเจ้าแล้ว ได้จัดให้พระเจ้ามาเป็นอันดับแรกในชีวิตของเราแล้ว สิ่งถัดไปที่คริสตชนจะปฏิบัติก็คือ ความรักต่อพี่น้องเพื่อนมนุษย์เหมือนอย่างที่แม่พระได้ปฏิบัติ และดังนี้ ชีวิตเราแต่ละคนก็จะสะท้อนออกซึ่งความรักของพระเจ้าในการปฏิบัติเพื่อพระประสงค์ของพระองค์ และก็จะสะท้อนออกซึ่งความรักต่อเพื่อนมนุษย์ในการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ จะมีพี่น้องคนไทยอีกหลายๆคนทีเดียวที่ยังไม่มีโอกาสได้รู้จักพระเจ้าองค์ความรัก พวกเขาจะพบและสัมผัสความรักของพระเจ้าด้วยผ่านทางชีวิตและการกระทำของเรา

             พี่น้องที่รักทุกท่าน วันนี้พวกเรามาร่วมใจกันฉลองร่วมใจกับซิสเดตอร์คณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ ฉลองบุญราศี มาเรีย ตรองกัตตี สมาชิกคนหนึ่งของคณะ ที่ได้รับการประกาศสถาปนาเป็นบุญราศี เราจะพบว่า ชีวิตของซิสเตอร์ท่านนี้ ทั้งชีวิตก็สะท้อนให้เห็นถึงความรักเพื่อนมนุษย์ตามคำสั่งสอนของพระเยซูคริสตเจ้า และตามแบบฉบับ ชีวิตของแม่พระ คำนำหน้านามว่า บุญราศีหมายความว่าอย่างไร คำว่า บุญราศีนี้หมายถึงผู้ศักดิ์สิทธิ์ ถ้าพูดง่ายๆก็คือ นักบุญนั่นแหละ แต่เป็นนักบุญในระดับพระศาสนจักรท้องถิ่น ก่อนที่จะได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญ ซึ่งหมายถึงผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการรับรองจากพระศาสนจักรสากล และคำว่าเป็นนักบุญเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์นี้แหละ จะหมายความว่าอย่างไร

             มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับเด็กชายเล็กๆคนหนึ่งที่แม่ของเขามักพาไปเที่ยวชมตามวัดต่างๆหลายแห่ง และทุกครั้งที่เขาเข้าไปในวัดเหล่านี้ คุณแม่ของหนูน้อยคนนั้นก็จะอธิบายให้เขาเข้าใจว่า รูปภาพของบุคคลต่างๆที่ปรากฎตามกระจกสีที่หน้าต่างวัดก็คือนักบุญ ต่อมาภายหลังเมื่อมีคนมาถามหนูน้อยคนนี้ว่า นักบุญคือใคร เขาก็จะตอบตามความซื่อๆของเด็กว่า นักบุญก็คืออะไรบางอย่างที่แสงสว่างรอดผ่านได้ เป็นคำตอบที่น่ารักดีเหมือนกัน ถ้าจะว่าไปแล้ว ดูเหมือนว่าสิ่งที่หนูน้อยคนนี้นั้นอธิบายเกี่ยวกับนักบุญก็จะดูจะตรงกับความจริงทีเดียว ชีวิตของบรรดานักบุญเป้นชีวิตที่โปร่งใสจนว่าแสงสว่างแห่งชีวิตพระสามารถส่องผ่านชีวิตของท่านได้ และคนิท่นๆเมื่อได้เห็นชีวิตของท่านแล้ว พวกเขาก็จะเชื่อในความดีของพระเจ้า เชื่อในความรักของพระองค์ ดังนั้น นักบุญในความเข้าใจของเด็กน้อยคนนั้นจึงเป็นแสงสว่างเจิดจ้าเป็ความอบอุ่นเป็นความงดงามเป็นความมีชีวิตชีวา ในทำนองเดียวกัน ชีวิตของชิสเตอร์ มารีย ตรองกัตตีก็เป็นเช่นนั้น เป้นชีวิตที่อุทิศพลีเพื่อความรักต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยความเชื่อและด้วยใจร้อนรน เธอกล้าประกาศว่า พระเจ้าเป็นองค์ความรักโดยไม่หวั่นเกรงอุปสรรคใดๆทั้งสิ้น เธอยืนหยัดต่อสู้และผ่านมรสุมชีวิตมากมายได้อย่างน่าอัศจรรย์จนกลับกลายเป็นความงดงามแห่งชีวิตธรรมทูตของเธอ เธอได้ผ่านชีวิตจากทุ่งหญ้าแอฟริกา ตำบลถิ่นเกิดของเธอไปสู่ป่าใหญ่แห่งอเมซอนเป็นเวลานานถึง 46 ปีเต็ม คุณพ่อเจ้าวาสในวัดของเธอยังไม่ได้เข้าใจและยังไม่ได้สนับสนุนเธอให้ติดตามกระแสเรียกนักบวชได้กล่าวกับเธอว่า “เธอสามารถทำความดีในตำบลหมู่บ้านของเธอก็ได้ และอีกประการหนึ่ง เธอยังไม่มีวุฒิทางการศึกษาอะไรเลย ” แต่มาเรียก็ถูกดึงดูดอย่างถอนตัวไม่ขึ้นจากอุดมการณือันยิ่งใหญ่ของการเป็นธรรมทูต ก็ได้เดินทางออกไปยังประเทศเอกวาดอร์ ในปี ค.ศ. 1922 และไม่ได้หวนกลับมาตุภูมิอีกเลย

             เธอเขียนจดหมายในฉบับหนึ่งว่า “ยิ่งวันดิฉันก็ยิ่งมีความสุขยินดีในกระแสเรียกนักบวชและธรรมทูตของดิฉัน” และความสุขนี้ได้หนุนนำเธอให้ผ่านจากความกลัวไปสู่ความเชื่อมั่นในการมอบตนเป็นพระพรแห่งความรักและในการช่วยเหลือผู้ยากจน คนเจ็บป่วย สตรีและเด็กๆ ซิสเตอร์มาเรียเป็นแพทย์ที่รักษาร่างกายและจิตใจ ขณะที่รักษาและให้ความช่วยเหลือผู้คน เธอก็ประกาศถึงองค์พระเยซู และเชิญทุกคนให้มั่นใจในการประทับอยู่เยี่ยงมารดาของพระนางมารีย์องค์อุปถัมภ์ คุณพ่อมิสชันนารีท่านหนึ่งที่รู้จักซิสเตอร์มาเรียเป็นอย่างดี ได้กล่าวถึงเธอว่า “ซิสเตอร์มาเรียได้รวมความเชื่อความซื่อของนกพิราบและความเฉลียวฉลาดดุจงูที่มีกล่าวไว้ในพระวรสารไว้ในตัวเธอได้อย่างลงตัว เธอชนะใจทุกคนด้วยความอ่อนโยนเยี่ยงมารดา เธอคลี่คลายแต่ละปัญาด้วยทางที่ดีกว่าเสมอ และไม่เคยลืมว่า กำลังทำงานกับคนอ่อนแอและคนบาป

             ซิสเตอร์มาเรียเอาใจใส่เพื่อนมนุษย์ทุกคนในทุกเรื่อง แม้แต่คนที่น่าสมเพชที่สุด แต่เป็นการเอาใจใส่ที่น่าประทับใจ เป็นไปแบบธรรมชาติ ไม่เคอะเขิน ความอ่อนโยน ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัวของเธอ เธอเป็นสตรีที่น่ารักของทุกคนในทุกเรื่อง จนพูดได้ว่า ยิ่งเธอมีความบริสุทธิ์มากเท่าใด เธอก็ยิ่งมีความเป็นมารดาขึ้นเท่านั้น” อาศัยชีวิตที่ถักทอด้วยชีวิตอันเรียบง่าย และสิ่งที่เธอเองไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่า นั่นคือ วีรกรรม ซิสเตอร์ มาเรียได้บอกให้คนรู้ด้วยความมั่นใจที่ทำให้เธอกล้าหาญในงานธรรมทูต เธอกล่าวว่า “เราไม่ต้องกลัวสิ่งใด เพียงแต่วางใจในองค์พระเจ้า มอบของเราทั้งครบไว้กับพระองค์ผู้ทรงเป็นพระองค์แต่เพียงพระองค์เดียวเท่านั้นที่จะทรงปกปักรักษาเราด้วยความอ่อนโยนแบบที่ไม่มีใครเทียบได้” ซิสเตอร์มาเรีย ตรองกัตตีใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในประเทศเอกวาดอร์ ทวีปอเมริกาใต้ ซึ่ง 1 ใน 3 ของพื้นที่เป็นป่าลึกและชื้น และพื้นที่แห่งนี้มีชนพื้นเมืองอินเดียนอาศัยอยู่ ชนเผ่านี้ขึ้นชื่อมากที่สุดในเรื่องของความดุร้าย คือ ชนเผ่าชัว กิตติศัพท์การล่าหัวมนุษย์ของพวกเขา ทำให้บรรดานักล่าอาณานิคม และบรรดาธรรมทูตก็ขยาดกลัว พยายามอยู่ห่างๆไม่กล้าเข้าใกล้เป็นเวลานานหลายศตวรรษ มีเพียงชนผิวขาวกลุ่มเล็กๆและกลุ่มลูกครึ่งแถบนั้นที่อาศัยอยู่ใกล้มากัสอย่างประปลาย และที่มากัสนี่เอง ที่ซิสเตอร์มาเรียได้เริ่มงานแพร่ธรรมของเธอ เมื่อซิสเตอร์มาถึงมากัส ขณะนั้นได้มีนักล่าอาณานิคมมาอยู่ก่อนแล้ว และเริ่มขับไล่ชนเผ่าผู้ยากจนให้เดินลึกต่อเข้าไปในเขตอเมซอน การมายึดครองพื้นที่ของผู้ที่มาใหม่ย่อมก่อให้เกิดการปะทะกับชนอินเดียนพื้นเมือง

             ยิ่งกว่านั้น ยังมีซาเลเซียนบางท่านที่คอยสนับสนุนให้พวกเขาพยายามรักษาปกป้องสิทธิ รักษาดินแดนของตนไว้ ทำให้เหตุการณืทวีความตึงเครียดมากขึ้น ซิสเตอร์มาเรียก็อยู่ตรงกลางต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเป็นดังสะพานเชื่อมระหว่างทั้งสองฝ่าย เจ้าแม่หมอผีแห่งผิวขาวผู้ทรงพลังที่ยิ่งใหญ่กว่าหมอผีทั้งหลายมาแล้ว จงเปิดทางทุกสายให้เธอและผู้ติดตามทุกคน ไม่ว่าจะย่างก้าวไปแห่งใด นี่คือเสียงร้องตะโกนออกมาจากชาวป่าพร้อมกับเสียงกรูดกราวสนั่นหวั่นไหวที่หมู่บ้านเบนเดรส ในคืนวันหนึ่งของเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 1925 ตำแหน่งเจ้าหมอผีของซสเตอร์มาเรียนี้ได้มาจากความสำเร็จในการผ่าตัดเด็กหญิงเผ่าชาวชัวคนหนึ่ง เธอเป็นลูกสาวหัวหน้าเผ่า ถูกกระสุนปืนจากฝ่ายตรงข้าม

             เมื่อ 4 วันก่อนหน้านั้น ลูกกระสุนยังฝังอยู่ในท้องเป้นเหตุให้เกิดการอักเสบไปทั่วร่าง ขณะที่ชาวป่า 10 คนมีอาวุธครบมือคอยคุมตัวซิสเตอร์อยู่ ซิสเตอร์ก็ดึงมีดเล็กๆของเธอออกมาจุ่มลงไปในน้ำเดือด เธอภาวนาด้วยความวางใจอย่างเต็มเปี่ยม หัวหน้าเผ่าประกาศก้องว่า ถ้าเด็กไม่หาย เราจะฆ่าทุกคนให้ตายไปทั้งหมด หลังจากนั้นไม่กี่วัน อาการของเด็กน้อยก็หายเป็นปกติ คำว่า จงเปิดทางทุกเส้นให้เธอและผู้ติดตามทุกคึนนั้นหมายถึงเปิดทางให้พระจิตของพระเจ้าพระองค์ทรงใช้เหตุการณ์นี้เพื่อนำสารความรอดพ้นไปสู่บรรดาผู้ที่ยังไม่รู้จักพระองค์ พระเจ้าทรงประทานลมปราณในที่ๆพระองค์พอพระทัย นี่เป็นการเริ่มต้นกิจการอันงดงาม กิจการที่นำความทุกข์ยากอย่างน่าสะพึงกลัวของธรรมทูตจากแดนไกลผู้นี้ การผจญภัยและวีรกรรมของซิสเตอร์มาเรีย ตรองกัตตีเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น ยังมีอีกมากและน่าประทับใจอย่างยิ่ง หวังว่าพี่น้องคงจะให้ความสนใจเรียนรู้จากประสบการณ์ของธรรมทูตท่านนี้ต่อไป พี่น้องที่รักวันนี้พ่อไม่ได้เล่าเรื่องราวต่างๆ ประกอบบทเทศน์ดังที่เคยทำเป็นประจำเพื่ออธิบายพระธรรมล้ำลึกแห่งความรักขององค์พระผู้เป็นเจ้า นอกจากประสบการณ์ชีวิตจริงของซิสเตอร์มาเรียผู้นี้ที่พระศษสนจักรได้ประกาศรับรองความศักดิ์สิทธิ์ของเธอแล้ว

             ขอให้แบบอย่างของซิสเตอร์ผู้นี้เป็นแรงบันดาลใจให้เรามีความเชื่อมั่นคง ตักตวงพลังรักจากพระเยซูเจ้าและแบบอย่างของแม่พระ เพื่อจะสามารถปฏิบัติความรักต่อพี่น้องเพื่อนมนุษย์ทุกคนในขั้นวีรกรรมจวบจนวาระสุดท้ายของพวกเราทุกคนตารมแบบอย่างชีวิตที่น่าชื่นชมและน่าจดจำของซิสเตอร์มาเรียผู้นี้ อาแมน ”

             หลังบทภาวนาหลังรับศีล อธิการิณีของคณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ ได้กล่าวขอบคุณประธานในพิธี พร้อมมอบของขวัญให้กับพระคุณเจ้าทั้ง 2 จากนั้น พระคุณเจ้า เกรียงศักดิ์ ได้กล่าวให้โอวาท และอวยพรแก่บรรดาพี่น้องสัตบุรุษ

             จากนั้น การเทิดเกียรติบุญราศี มาเรีย ตรองกัตตี โดย พระคุณเจ้า เกรียงศักดิ์ เป็นตัวแทนของทุกคนในการมอบดอกไม้แด่พระธาตุบุญราศี แล้วจูบด้วยความเคารพ จากนั้น บรรดาพระสังฆราช พระสงฆ์ แขกผู้มีเกียรติ ถ่ายรูปร่วมกัน

             หลังจากพิธีมิสซา ทางคณะได้อัญเชิญพระธาตุบุญราศีมาเรียมาให้กับบรรดาพี่น้องสัตบุรุษได้จูบเคารพบุญราศี

             พิธีในวันนี้ มีสัตบุรุษและนักเรียนโรงเรียนในเครือคณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์มาร่วมเป็นจำนวนมาก