ภาพ / ข่าว : นิพัฒน์ สิริพรรณยศ อาสาสมัครช่วยงานแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

ประมวลภาพฉลองวัดนักบุญยอแซฟ หนองรี 100 ปี ชุดที่1  ภาพ : คุณบุญสิทธิ์ จงเจริญจิตเกษม

ประมวลภาพฉลองวัดนักบุญยอแซฟ หนองรี 100 ปี ชุดที่2  ภาพ : คุณนิพัฒน์ สิริพรรณยศ

         วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม 2013 ที่ผ่านมา วัดนักบุญยอแซฟ หนองรี จัดงานฉลองวัดนักบุญยอแซฟหนองรีไเป็นการฉลองแบบการภายใน ในค่ำคืนนี้ มีพระสงฆ์ และสัตบุรุษมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก  โดยมีคุณพ่อหลุยส์ ธนันชัย กิจสมัคร หัวหน้าเขต 4 เป็นประธาน

วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม 2013 คุณพ่อ ยอห์นบอสโก วิจิตต์ แสงหาญ เจ้าอาวาสวัดนักบุญยอแซฟ หนองรี ได้จัดงานฉลอง 100 ปี วัดนักบุญยอแซฟ หนองรี

เวลา 09.45 น. พระคุณเจ้า เกรียงศักดิ์ มาถึงบริเวณวัด และเข้าไปสวดต่อศีลมหาสนิทในวัด

เวลา 10.30 น. พิธีบูชาขอบพระคุณ โอกาสฉลอง 100 ปี วัดนักบุญยอแซฟ หนองรี โดย พระอัครสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พร้อมด้วย พระสังฆราชกิตติคุณ ยอแซฟ สังวาลย์ ศุระศรางค์ คุณพ่อ หลุยส์ ธนันชัย กิจสมัคร หัวหน้าเขต 4 และพระสงฆ์จำนวนมาก
 

พระคุณเจ้า เกรียงศักดิ์ ได้เทศน์ให้ข้อคิดว่า

“มีนิทานปรัมปราเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับการลี้ภัยไปประเทศอิยิปต์ให้พ้นจากการถูกกษัตริย์เฮโรดปองร้ายของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ เรื่องเล่าดังกล่าวเป็นมา ดังนี้

ในขณะที่ท่านยอแซฟ พาพระกุมารและพระมารดามารีย์เดินทางลี้ภัยไปอิยิปต์นั้น เคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริงๆ ได้มีโจรผู้ร้ายกลุ่มหนึ่ง บุกเข้ามาล้อมกรอบครอบครัวศักดิ์สิทธิ์เพื่อจะได้ปล้นทรัพย์ ในขณะที่พวกโจรกำลังจะช่วงชิงทรัพย์สินที่มีเพียงเล็กน้อยของครอบครัวพระองค์นั้น อิสมา หัวหน้าโจรได้เหลือบไปเห็นพระพักตร์พระกุมารในอ้อมแขนของพระมารดา อิสมารู้สึกประทับใจอย่างลึกซึ้งจากใบหน้าของพระกุมารน้อยผู้นั้นทำให้เขาพยามยามไกล่กล่องพรรคพวกให้ยอมปล่อยแม่พระ นักบุญยอแซฟ และพระกุมารไป โดยมิได้ทำร้ายหรือปล้นสะดมแต่อย่างไร อึดใจหนึ่งก่อนที่โจรที่จากไป อิสมาก็ชะโงกไปชมพระพักตร์พระกุมารอีกครั้งหนึ่ง แล้วเขาก็พูดว่า “จำข้าให้ดีนะ อย่าลืมช่วงเวลานี้เป็นอันขาด” นิทานปรัมปราเล่มนี้ดำเนินต่อไปและจบลงด้วย บรรยายว่า ขุนโจรอิสมาผู้นี้ ในที่สุด ได้กลับกลายเป็นโจรกลับใจที่ได้ถูกตรึงกางเขนด้านขวาของพระเยซูเจ้านั่นเอง และก็เป็นโจรคนเดียวกันนี่แหละที่พระเยซูเจ้าได้ตรัสกับเขาว่า “วันนี้ เจ้าจะอยู่กับเราในสวรรค์”

แน่นอนว่า นี่เป็นเพียงนิทานและเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆ แต่นิทานเรื่องนี้ทำให้เราเข้าใจบางสิ่งบางอย่างชัดเจนขึ้น 2 ประการ

ประการแรก
การลี้ภัยไปประเทศอิยิปต์ของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยอันตราย ในสมัยโบราณ ผู้คนไม่ค่อยชอบเดินทางไปตามลำพังแต่จะเดินทางไปกับกองคาราวานเสมอ เพราะเส้นทางแต่ละเส้นอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกนอกกฎหมาย มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เดินทางไปตามลำพัง ยกเว้นในกรณีจำเป็นเร่งด่วนสุดๆเท่านั้น อย่างเช่น ในกรณีการลี้ภัยของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าว

ประการที่สอง พระเจ้าได้ทรงคุ้มครองพิเศษแก่ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่พระกุมารยังทรงพระเยาว์อยู่ และบุคคลที่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องพระกุมารและพระมารดา คือ ท่านนักบุญยอแซฟ


ท่านนักบุญยอแซฟผู้นี้คือใคร จากข้อมูลพื้นฐานตามพระคัมภีร์ และความศรัทธาภักดีของคริสตชนต่อท่าน ตามที่มีกล่าวถึงในพระวรสารนักบุญลูกา เรื่องลำดับพระวงศ์ของพระเยซูเจ้า และตอนท้ายที่สุดได้กล่าวว่า “ ยากอบกำเนิดยอแซฟ ภัสดาของพระแม่มารีย์ และจากพระนางมารีย์นี้เอง พระเยซูเจ้าได้ทรงถือกำเนิดมา ” ในฐานะที่ท่านยอแซฟเป็นลูกหลานของกษัตริย์ดาวิด ก็ทำให้พระเยซูเจ้ากลายเป็นโอรสกษัตริย์ดาวิดด้วย และในฐานะที่นักบุญโยเซฟเป็นสามีที่แท้จริงของพระนางมารีย์ ท่านโยเซฟเองก็จึงเป็นบิดาของพระเยซูเจ้า เป็นผู้ปกป้อง และเป็นหัวหน้าครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ด้วย
ในบทนำขอบพระคุณมิสซาฉลองบรรดานักบุญนี้กล่าวไว้ว่า พระเจ้าประทานแบบอย่างให้เราได้เห็นในชีวิตของบรรดานักบุญ และด้วยการเสนอวิงวอนของพวกท่าน พระองค์ก็ประทานความช่วยเหลือแก่เรา พร้อมทั้งประทานชีวิตสนิทสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้าโดยอาศัยความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องที่เราคริสตชนในโลกนี้มีต่อบรรดานักบุญผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสวรรค์

แต่ว่าในสามประการนี้ ไม่ว่าเป็นเรื่องแบบอย่างในชีวิตของนักบุญ ความช่วยเหลือจากสวรรค์ และชีวิตสนิทสัมพันธ์กับพระเจ้า พวกเราคริสตชนในปัจจุบันได้รับได้ผ่านทางท่านนักบุญยอแซฟมากเป็นพิเศษ นักบุญยอแซฟเป็นแบบอย่างแก่เราโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความเชื่อ ความเชื่อของท่านก็เป็นความเชื่อพื้นๆ และก็เป็นความเชื่อสูงสุดแบบปิตาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายในพันธสัญญาเดิมและท่านยอแซฟก็ได้รับเครื่องหมายที่สื่อให้เห็นว่า ท่านติดต่อสัมพันธ์กับพระเจ้าเหมือนปิตาจารย์ทั้งหลายในพันธสัญญาเดิมเช่นเดียวกัน และโดยนั้นก็คือ ทางความฝันเป็นความเชื่อซื่อๆ ธรรมดาที่นำท่านไปสู่การนบน้อมเชื่อฟังพระเจ้า ไม่ได้เป็นความเชื่อในบทสวดข้อความเชื่อหรือข้อความจริงทางศาสนา แต่เปผ้นการวางใจอย่างซื่อๆ สุภาพเต็มร้อยในองค์พระผู้เป็นเจ้า และเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์อย่างเคร่งครัดในทุกข้อทุกประการ ความเชื่อชนิดนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การทำงานในจิตใจของท่านยอแซฟอย่างเดียวเท่านั้นแต่ที่ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นการกระทำภาคปฏิบัติที่สอดคล้องตามแนวทางของพระเยซูคริสตเจ้าในการรับใช้พระเจ้า และการรับใช้เพื่อนมนุษย์ นักบุญยอแซฟเป็นภาพลักษณ์ของผู้ที่ลืมตัวเอง ไม่คิดถึงตนเองก่อน พร้อมที่จะเอาชีวิตเข้าไปเกี่ยวข้องและทำสิ่งต่างๆเพื่อความดีของผู้อื่น ด้วยจิตสำนึกกเช่นนี้ ท่านได้ก้าวเดินร่วมกับคู่ชีวิตของท่านที่เมืองเบธเลแฮมเพื่อหาที่พักให้พระนางประสูติพระกุมาร ไปพาพระนางมารีย์และพระกุมารเดินทางลี้ภัยการเบียดเบียนของเฮโรดไปประเทศอียิปต์ และนำพาครอบครัวศักดิ์สิทธิ์มาตั้งรกรากที่นาซาเรธที่ซึ่งท่านได้ใช้ชีวิตที่เหลือทั้งหมดนั้น ซึ่งเราไม่ทราบว่า เป็นระยะวลานานเท่าใด ท่านได้ทำการหาเลี้ยงชีพ ดูแลครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ด้วยอาชีพช่างไม้ และด้วยเหตุอาชีพของท่านนั่นเอง ลูกชายของท่านจึงได้รับขนานนามว่า “ลูกช่างไม้”

ท่านยอแซฟนี้เป็นตัวเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างกษัตริย์ดาวิดกับพระแมสซิอา ระหว่างพันธสัญญาเดิมที่สำเร็จสมบูรณ์ไปในพันธสัญญาใหม่ ในลักษณะเดียวกับที่ความเชื่อของท่านอับบาฮัม ทำให้อับบาฮัมกลายเป็นบิดาของทุกคนและชนมากมาย ในทำนองเดียวกัน อาศัยความเชื่อ ความนอบน้อมเชื่อฟังพระเจ้าของท่านยอแซฟทำให้กลายมาเป็นบิดาของพระเยซูเจ้าตามกฏหมาย

ตอนหนึ่งในพระวรสารของนักบุญมัทธิวมีกล่าวว่า “ยอแซฟ เป็นพระสวามีของพระนางมารีย์ และพระเยซูเจ้าบังเกิดมาในครอบครัวในตระกูลของท่าน ท่านยอแซฟได้อยู่กับพระนางมารีย์ด้วยในขณะที่พระกุมารบังเกิด และท่านเป็นผู้ตั้งชื่อว่า เยซู ให้พระองค์ พร้อมทั้งได้เป็นผู้ปกป้องพระองค์และพระมารดามให้พ้นเงื้อมมือของกษัตริย์เฮโรด โดยให้ทั้งสองพระองค์เดินทางลี้ภัยไปอียิปต์ และต่อมา เมื่อสถานการณ์ทุกอย่างในปาเลสไตน์สงบลงแล้ว ปลอดภัยแล้ว ท่านได้นำสองพระองค์กลับมาแล้ะย้ายไปตั้งหลักแหล่งใหม่ที่นาซาเรธแทน”

ท่านยอแซฟเป็นผู้เติบโตมาในบรรยากาศทางศาสนาของศาสนายูดาห์หรือที่เรียกว่า ศาสนายิว อย่างลึกซึ้งและเป็นผู้ที่นอบน้อมเชื่อฟังอย่างซื่อสัตย์ในการปฏิบัติศาสนกิจ ไม่ว่าธรรมประเพณีการปฏิบัติการเข้าสุหนัตของผู้เป็นลูก การถือศีลชำระของผู้เป็นแม่ การถวายเครื่องบูชาพิธีในพระวิหาร และไปร่วมฉลองปัสกาเป็นประจำทุกปี ท่านเป็นคนซื่อตรง ศรัทธา ซื่อสัตย์ และเป็นคนดี พูดสั้นๆก็คือว่า ท่านเป็นบุรุษผู้ชอบธรรมนั่นเอง

พระเยซูเจ้าเป็นที่รู้จักในนามของลูกท่านยอแซฟ ซึ่งก็ต้องถือว่า เป็นเกียรติเป็นศักดิ์ศรีที่ได้ความเคารพจากผู้คนในฐานะเป็นบิดาและเป็นผู้อบรมพระเยซูเจ้าซึ่งไม่อาจจะหาผู้ใดมาเปรียบกับท่านได้ ตามธรรมประเพณีของพระศาสนจักรจะถือว่า ท่านยอแซฟ เป็นบิดาเลี้ยงของพระเยซูเจ้า เพื่อจะยืนยันว่า พระองค์ได้ทรงกำเนิดมาด้วยอำนาจของพระจิตเจ้า บางทีการเรียกท่านยอแซฟว่า บิดาเลี้ยงของพระเยซูก็อาจจะเป็นตีกรอบบทบาทของท่านให้แคบเกินไป เพราะแม้ว่าในพระวรสารจะระบุชัดเจนว่า พระเยซูเจ้าได้ถือกำเนิดมาด้วยฤทธิ์อำนาจของพระเยซูเจ้าก็จริง แต่พระวรสารได้กล่าวที่จะไม่กลัวที่จะเรียกนักบุญยอแซฟว่า บิดาของพระเยซู และเรียกพระเยซูว่า ลูกของยอแซฟ

เมื่อแม่พระพูกับพระกุมารเยซู พระนางกล่าวว่า “ พ่อของลูก ” และไม่ได้ใช้คำว่า “ พ่อเลี้ยงของลูก ” คำว่า “ พ่อ ” นี้ไม่ได้หมายถึงเฉพาะบุคคลที่ให้กำเนิดพระองค์เท่านั้น แต่ยังหมายถึงผู้ที่น้อมรับพระองค์เป็นลูก พร้อมเลี้ยงดูด้วยความหยาดเหงื่อแรงงาน ด้วยความรับผิดชอบต่อพระองค์ และท่านนักบุญยอแซฟก็ได้ทำหน้าที่นี้อย่างสมบูรณ์แบบเพื่อองค์พระกุมารเยซูโดยเฉพาะ การอบรมด้สนพระคัมภีร์และด้านศาสนาที่พระกุมารได้รับก็เหมือบเด็กชาวฮีบรูทุกคน นั่นคือ โดยผ่านทางผู้ที่เป็นบิดา และนักบุญยอแซฟเองร่วมกับพระนางมารีย์พระมารดาของพระองค์ที่ให้ความรู้ด้านพระคัมภีร์แก่พระองค์ และพระกุมารเยซูก็เรียนรู้ที่จะเอ่ยคำว่า “ อับบา ” พ่อจ๋า เพื่อเรียกท่านยอแซฟก่อนที่จะทรงเรียกพระบิดาบนสวรรค์ของพระองค์ในภายหลังว่า “ อับบา ”

ในสังคมปัจจุบันของเรา มักจะเน้นบ้านเดียวเท่านั้นของการแต่งงาน เน้นเรื่องเพศสัมพันธ์ และมักจะมองข้ามด้านอื่นๆในชีวิตครอบครัว ชีวิตของท่านนักบุญยอแซฟจึงเป็นการเตือนความจำพวกเราทุกคนว่า ชีวิตแต่งงานนั้นยังมีมิติอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีก เช่น การเป็นสามี การเป็นบิดา พ่อบางคนเป็นเพียงผู้ให้กำเนิดลูก ให้กำเนิดลูกเยอะ แต่ได้หาทำหน้าที่เป็นบิดาที่แท้จริงของลูกแม้แต่สักนิดเดียวไม่ ให้กำเนิดลูกแล้วก็ทิ้ง ไม่ได้เอาใจใส่ดูแล หรือหายหน้าหายตาไปจากครอบครัว ทิ้งภาระทั้งหมดให้แม่ผู้น่าสงสารเพียงผู้เดียวต้องเอาใจใส่บรรดาลูกๆทุกคน สิ่งที่โดดเด่นเป็นพิเศษในชีวิตของท่านยอแซฟ ท่านนั้นเป็นพ่อ และเป็นสามี ก็คือ ความสงบเยือกเย็น ไม่เคยปรากฏเลยในชีวิตครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งท่านจะแสดงออกมาด้วยวาจาที่เหนื่อยอ่อนท้อแท้ หรือการแสดงออกที่ขาดความอดทนอดกลั้นไม่มีเลย และประเด็นนี้แหละ ที่ถือเป็นแบบอย่างสำหรับสังคมปัจจุบันในสมัยของพวกเราด้วย นั่นคือความสงบเยือกเย็นและความเคารพให้เกียรติที่สามีคนหนึ่งมีต่อผู้เป็นภรรยา รวมทั้งพ่อที่พึงมีต่อลูกอันเป็นบุรุษน้ำทิพย์ชโลมใจสมาชิกทุกคนในครอบครัว ยอแซฟ ผู้เป็นพ่อและเป็นสามี ผู้ซึ่งเสียสละโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทนเพื่อตัวของตัวเองเลย

พี่น้องที่รัก โอกาสฉลองนักบุญยอแซฟ บิดาเลี้ยงขององค์พระเยซู พ่ออยากจะบอกว่า จงไปหายอแซฟเถิด พี่น้องคงจำคำในพันธสัญญาเดิมสมัยที่ยอแซฟ ลูกชายคนเล็กคนหนึ่งของยากอบที่ถูกพี่ชายขายไปเป็นทาสในประเทศอียิปต์ได้ แต่ที่สุดท้ายแล้ว พระเจ้าก็โปรดให้ยอแซฟลูกคนรองสุดท้องของยากอบได้กลับกลายเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าฟาโรห์ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมหาอุปหลาด ดูแลพืชผล ภักษาหารทั้งหมดของประเทศอียิปต์ และเมื่ออียิปต์เข้าสู่ช่วงกันดารข้าวปลาอาหาร ประชาชนชาวอียิปต์ก็ต่างพากันมาหาพระเจ้าฟาโรห์ทรงช่วยพวกเขา ฟาโรห์ก็กล่าวเพียงคำเดียวว่า พวกเจ้าจงไปหายอแซฟเถิด และเวลานี้ ชาวอียิปต์ทั้งหลายก็รอดพ้นภัยพิบัตินานาประการ พระศาสนจักรก็เอาเหตุการณ์ดังกล่าวในหนังสือปฐมกาลนี้ขึ้นมาเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับบรรดาคริสตชนให้พวกเขาหันหน้าเข้ามาพึ่งนักบุญยอแซฟ ในความจำเป็นและความต้องการต่างๆในชีวิตของพวกเขาเสมอ และไม่ใช่เพียงวาระสุดท้ายของชีวิต เมื่อใกล้จะตายเท่านั้น ขอพี่น้องคริสตชนทุกคนดำเนินชีวิตด้วยความเสียสละเช่นเดียวกับนักบุญยอแซฟเสมอ และหันหน้าเข้าพึ่งท่านในยามจำเป็นของชีวิตและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในวาระสุดท้ายด้วย เพราะท่านเป็นองค์อุปถัมภ์พิเศษของผู้ใกล้จะตาย ทั้งนี้เป็นเพราะว่า ท่านได้สิ้นใจภายใต้การดูแลเอาใจใส่ ภายใต้อ้อมอกพิเศษของพระเยซูเจ้า และพระแม่มารีย์นั่นเอง อาแมน ”

หลังจากบทภาวนาหลังรับศีล ตัวแทนสภาภิบาลได้กล่าวขอบคุณประธานในพิธี

จากนั้น พระคุณเจ้า เกรียงศักดิ์ ให้โอวาท โดยพระคุณเจ้าได้ให้ความรู้ถึงการประชุมทั่วไปของคณะคาร์ดินัลและการประชุมเพื่อลงคะแนนเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่

พระคุณเจ้าได้เชิญชวนให้พวกเราภาวนาในการเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ว่า

“พ่อขอให้พวกเราภาวนาอย่างต่อเนื่อง พ่อได้มีสารอภิบาลไปตามวัดต่างๆแล้ว เชื่อว่า พี่น้องคงจะได้รับผ่านทางสารวัดและอื่นๆ ก็ขอบรรดาพี่น้องทุกคนเป็นส่วนตัวก็ดี ในครอบครัว ในชุมชนวัด ภาวนาอันดับแรกเพื่อพระคาร์ดินัล เพื่อพระศาสนจักรสากล เพราะว่า เรามั่นใจว่า พระจิตเจ้าอยู่กับพระศาสนจักรเสมอและจะค้ำประกันให้พระศาสนจักรนั้นก้าวต่อไปโดยไม่มีความหวาดกลัว จะมีพระสันตะปาปาองค์ใหม่ซึ่งจะเหมาะสมสำหรับแต่ละยุคแต่ละสมัยแต่ละช่วง

ดังนั้น ขอพวกเราทุกคนภาวนาเป็นพิเศษ นี่คือสิ่งที่พ่ออยากจะพูดกับพี่น้องที่มาจากวัดต่างๆ จากทั่วทั้งสังฆมณฑล เพื่อเราจะได้ร่วมใจกับพระศาสนจักรสากลภาวนาเพื่อคณะพระคาร์ดินัลในการเลือกตั้งพระสันตะปาปาที่จะเริ่มขึ้นในไม่ช้า ”

พระคุณเจ้าได้กล่าวประชาสัมพันธ์ถึงแนวทางการออกนามพระสันตะปาปาแบบใหม่ว่า

“เมื่อพี่น้องสังเกตว่า ระหว่างบทภาวนา บทขอบพระคุณพระเจ้า ในมิสซานั้น พระคุณเจ้าสังวาลย์ของเราได้ออกนามอย่างถูกต้อง อันนี้ ขอประกาศประชาสัมพันธ์กับคุณพ่ออีกหลายๆท่านด้วย ในสารอภิบาลในนามของสภาพระสังฆราชในเรื่องการออกพระนามพระสันตะปาปา ระหว่างพิธีมิสซานั้น ตอนนั้นได้รับข้อมูลมาว่า ให้ออกว่า ให้ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับสมเด็จพระสันตะปาปา โดยไม่ออกพระนาม แต่ตอนหลัง ทางโรมได้ส่งข้อมูลมาว่า ไม่ต้องออกพระนามพระสันตะปาปาและตำแหน่งเลย เพราฉะนั้น ให้ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระสังฆราช ประมุขสังฆมณฑล ขอประสัมพันธ์ตรงนี้เลย เพราะว่าช่วงนี้อีกไม่นาน เราก็จะมีพระสันตะปาปาใหม่แล้ว ”

และสุดท้าย พระคุณเจ้าได้แสดงความยินดีแก่วัดนักบุญยอแซฟ หนองรี โอกาสฉลอง 100 ปีวัด ว่า

“สำหรับพี่น้องทุกๆวัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องในชุมชนความเชื่อที่วัดนักบุญยอแซฟ หนองรีนี้ เมื่อกี้ผู้แทนได้พูดว่า เราได้มีประวัติอันยาวนานมามีเรื่องราวเยอะแยะต่างๆนั้น ถ้าจะบอกว่า วัดหนองรีอยู่ไกลรึ แต่คงไม่ไกลเกินไป เพราะฉะนั้น ผู้แทนก็บอกว่า มาหายอแซฟเถิด แล้วจะไม่ผิดหวัง เราก็จะมาวัดนักบุญยอแซฟ หนองรีแห่งนี้ และพ่อก็เชื่อว่า วันนี้ ที่พ่อเองเป็นส่วนตัว มาที่วัดนักบุญยอแซฟ หนองรีแห่งนี้มาที่ชุมชนความเชื่อแห่งนี้ ฉลองรอบ 100 ปี ชุมชนความเชื่อแห่งนี้แล้วพ่อเองในฐานะประมุขสังมณฑลกรุงเทพฯ จะไม่ผิดหวัง พ่อบอกแล้วในบทข้าแต่พระบิดา ในบทเทศน์ด้วย นักบุญยอแซฟเป็นผู้ปกป้องพระกุมารเยซูในชีวิตทรงพระเยาว์ในเวลานั้น แต่พ่อบอกว่า พวกเราทุกคนและสำหรับชุมชนความเชื่อที่หนองรีนี้ ทุกคนร่วมกับคุณพ่เจ้าวัด นักบวชชาย นักบวชหญิงที่อย่างน้อยช่วยงานในวัดนี้ และก็ถ้าไม่มีกำลังจะมี หลังจากนั้นก็มีบรรดาพี่น้องทุกๆคนที่มีส่วนรวมทั้งในสภาภิบาลและกลุ่มองค์กรต่างๆ ทุกคนร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวแล้วมีหน้าที่ปกป้องพระเยซูในชุมชนนี้ พระเยซูในมิติฝ่ายจิต เพราะชุมชนความเชื่อของเราที่ใดก็ตาม มีสองสามคนรวมกันในความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ที่นั้น พระเยซูเจ้าผู้กลับคืนชีพเสด็จไปสวรรค์แล้วแต่พระองค์ยังคงประทับอยู่กับพระศาสนจักร อยู่กับชุมชนความเชื่อทุกแห่งและที่นี่ด้วย

ดังนั้น พ่อจึงหวังอย่างยิ่งแล้ว พี่น้องสัตบุรุษที่วัดนี้ ภายใต้การนำของพ่อเจ้าวัดจะประสานทุกคนให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เพราะมิฉะนั้นแล้ว พระเยซูเจ้าไม่ประทับอยู่ท่ามกลางชุมชนความเชื่อแห่งนี้ เราจะมีพระเยซูเจ้าอยู่ในศีลมหาสนิทแน่นอน อยู่ในพระวาจาแน่นอน แต่ทั้งหมดนั้นมีไว้เพื่ออะไร ก็เพื่อว่า เราจะได้รับการหล่อเลี้ยงจากพระวาจา จากศีลมหาสนิทแล้ว เราทุกคนจะเจริญชีวิตในความรักและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อเป้นพยานให้พี่น้องอีกจำนวนมากที่เขาไม่มีโอกาสได้รู้จักพระคริสตเจ้า ไม่มีโอกาสรู้จักความรักของพระ จะได้พบความรักของพระเจ้าที่อยู่ในความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของพี่น้องคริสตชนทุกวัดทุกชุมชนความเชื่อ และโดยเฉพาะโดยยิ่งที่วัดนักบุญยอแซฟ หนองรีแห่งนี้

เพราะฉะนั้น ทุกคนมีบทบาทหน้าที่ในการปกป้องพระเยซูเจ้าในมิติฝ่ายจิต ที่จะต้องปรากฏแก่พี่น้องคนต่างศาสนาในความรักความเป็นหนึ่งเดียวกันของทุกคน

ในเวลานี้ พระศาสนจักรไม่มีประมุขพระศาสนจักร ขึ้นอยู่กับคณะพระคาร์ดินัลที่จะประชุมและตัดสินใจร่วมกันให้ทุกอย่าง เพราะมีพระเยซูเจ้ากลับคืนชีพประทับอยู่ท่ามกลางคณะพระคาร์ดินัลที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันฉันใดฉันนั้น ในขณะชุมชนของเรานี้ก็แบบเดียวกัน พี่น้อง และไม่ใช่แค่การตัดสินใจในการดำเนินชีวิตเท่านั้น แต่ที่สำคัญเพราะว่าพี่น้องอื่นๆที่อยู่ในเขตหนองรีนี้ พี่น้องที่ยังไม่มีโอกาสได้รู้จักพระเจ้า องค์ความรัก เขากำลังรอที่จะพบที่จะสัมผัสพระองค์จากชุมชนความเชื่อแห่งนี้ ดังนั้น พ่อคิดว่า วันนี้เป็นวันแห่งความชื่นชมยินดี วันแห่งความสุข เมื่อกี้ ผู้แทนบอกว่า วันแห่งพระพร เป้นวันแห่งพระพรจริงๆพี่น้อง และวันนี้เป็นวันที่พ่อมีความชื่นชมยินดี ดีใจเป็นพิเศษ เพราะความเชื่อว่า เมื่อมาหายอแซฟที่วัดนักบุญยอแซฟ หนองรีนี้แล้ว พ่อเองเป็นส่วนตัวจะไม่ผิดหวัง เพราะเชื่อว่า จะมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอย่างแท้จริงที่ชุมชนความเชื่อนี้ ให้ทุกคนร่วมไม้ร่วมมือกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีพระเจ้า องค์ความรักอยู่ท่ามกลางพี่น้องเสมอ และนักบุญยอแซฟ องค์อุปถัมภ์ของวัดนี้ ก็จะปกป้องพระเยซูเจ้าที่ประทับท่ามกลางพี่น้องนี้ให้อยู่กับพี่น้องเสมอไปให้เป็นความรักสำรหับพี่น้องคนอื่นๆที่กำลังรอคอยพระเยซูเจ้า พระเจ้าองค์รักจากชุมชนความเชื่อนี้ โอกาสนี้ พ่อขอส่งความปรารถนาดีมายังพี่น้องทุกคน ทุกครอบครัว และเป็นพิเศษ ในโอกาสฉลองรอบ 100 ปี ชุมชนความเชื่อนี้สำหรับพี่น้องสัตบุรุษวัดนักบุญยอแซฟ หนองรีนี้ ทุกคน ทุกครอบครัว ให้พี่น้องได้เติบโตในความเชื่อและได้รับพระพรของพระเจ้า มีความสุขเสมอไป ขอพระเจ้าประทานพรแก่ทุกคน สวัสดี ”

จากนั้น พระคุณเจ้า เกรียงศักดิ์ ได้อวยพรแก่พี่น้องสัตบุรุษที่มาร่วมพิธี

ต่อมา เป็นการเทิดเกียรตินักบุญยอแซฟ ภัสดาของพระนางมารีย์พรหมจารี โดยเริ่มจากการถวายกำยาน แห่รอบวัด ถวายกำยานอีกครั้ง สวดภาวนา และถวายช่อดอกไม้

บรรยากาศในวันนี้ มีผู้คนมาร่วมเทิดเกียรติท่านนักบุญยอแซฟ และฉลอง 100 ปี ของวัดเป็นจำนวนมาก และปีนี้ ทางวัดได้จัดทำรูปปั้นท่านนักบุญยอแซฟ แก้วน้ำ และหนังสือเพื่อออกมาเป็นที่ระลึกในโอกาส 100 ปี วัดนักบุญยอแซฟ หนองรี

นักบุญยอแซฟ ท่านเป็นองค์อุปถัมภ์พระศาสนจักรสากล บิดา ช่างไม้ กรรมกร ผู้จวนจะสิ้นใจ และความเสมอภาคในสังคม ซึ่งมีการฉลองทุกวันที่ 19 มีนาคม และ 1 พฤษภาคม ของทุกปี