ภาพ / ข่าว : นิพัฒน์ สิริพรรณยศ อาสาสมัครช่วยงานแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

ประมวลภาพฉลองวัดแม่พระมหาการุณย์ นนทบุรี

วันเสาร์ที่ 9  กุมภาพันธ์ 2013 คุณพ่อราฟาแอล มาแนนติ เจ้าอาวาสวัดแม่พระมหาการุณย์ ได้จัดงานฉลองวัดประจำปี 2013 โดยพิธีในวันนี้ มีพิธีโปรดศีลกำลังแก่เด็กนักนักเรียนและผู้ใหญ่อีกด้วย

เวลา 09.30 น. พระคุณเจ้า เกรียงศักดิ์ ประธานในพิธี มาถึงบริเวณวัด บรรดาคุณพ่อ สภาภิบาล ผู้รับศีลกำลัง และสัตบุรุษให้การต้อนรับ

เวลา 10.00 น. พิธีมิสซาขอบพระคุณ โอกาสฉลองวัดแม่พระมหาการุณย์ ประจำปี 2013 โดย พระอัครสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พร้อมด้วย คุณพ่ออาดรีอาโน เปโลซิน อธิการคณะธรรมทูตไทย คุณพ่อราฟาแอล มาแนนติ และพระสงฆ์คณะปีเม จำนวนหนึ่ง

พระคุณเจ้า เกรียงศักดิ์ ได้เทศน์ให้ข้อคิดว่า

“พี่น้องที่รัก วันนี้เราฉลองวัดแม่พระมหาการุณย์ พ่อพยายามออกชื่อวัดนี้ให้ชัดเจน ถูกต้องและด้วยความระมัดระวัง เพราะว่ามีครั้งแรก ก็เคยมีคนๆคนหนึ่งคงจะด้วยอาการรีบร้อน และโดยไม่มีเจตนาใดๆเลย ก็ออกชื่อวัดนี้ไปว่า วัดแม่พระมหาทารุณ จริงๆแล้วแม่พระของเรามีแต่ความการุณ ความกรุณาเท่านั้น ถ้าจะมีความทารุณ ก็คงจะเป็นเพราะพระนางต่างหากที่ได้รับความทารุณจนอาจจะพูดได้ว่า เป็นมหาทารุณที่พระนางต้องประสบในชีวิตของพระนาง และจะต้องประสบความทุกข์ทรมานเช่นนั้นเพราะแม่พระได้ตอบรับแผนการของพระเจ้าเข้าไปมีส่วนรวมในแผนการกอบกู้มนุษยชาติให้รอดพ้นของพระเยซูเจ้า บุตรของพระนาง ทั้งนี้ เพราะมนุษย์ได้ตกเป็นทาสของบาปและสูญเสียอิสรภาพของการเป็นบุตรของพระเจ้า และบาปที่ได้กระทำนั้นก็นำมนุษย์ไปสู่ความตาย ไม่สามารถเอาตัวรอดไว้ได้ แต่ก็เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์เองที่โปรดกอบกู้ประชากรของพระองค์ให้รอดพ้น โดยยอมเป็นผู้จ่ายราคาค่างวดของอิสรภาพนั้นด้วยตัวพระองค์เอง และมูลค่าของอิสรภาพนั้นก็คือ ชีวิตของพระเยซูเจ้า

เราอาจจะนึกว่าเป็นความโง่เขลาของกางเขน นี่เป็นความใจอ่อนของพระเจ้าจนอาจจะเรียกว่าเป็นความอ่อนแอก็ได้ เพราะพระเจ้าใจดีเกินไป ใจกว้างเกินไป พระเยซูทรงยอมกระทำในสิ่งที่คนอื่นๆเขาพยายามหลีกเลี่ยง พระองค์ยอมถูกปฏิเสธ ยอมถูกตัดสิน ยอมถูกทอดทิ้ง เพื่อเรามนุษย์จะได้สิทธิ์การเป็นบุตรของพระเจ้ากลับคืนมา พระองค์ยอมรับโยแบกเอาไว้บนบ่าของพระองค์เองในสิ่งที่เราพยายามจะหลีกเลี่ยง ดังนั้น ก็คือ ภาระความรับผิดชอบต่อบาปของเราความเกลียดชัง ความรุนแรงที่ผิดมนุษย์มนาของเรา พระองค์ทรงถูกตรึงกางเขน พระองค์ไม่ได้ตายธรรมดา แต่ถูกประหารชีวิต พระองค์ทรงยอมเพราะความรักต่อมนุษย์ทุกคน ดังนั้น พระบิดาจึงทรงโปรดให้พระองค์ได้กลับคืนพระชนม์ชีพในวันปัสกา อีกทั้งให้ความหวังของเรามนุษย์ทุกคนกลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งและนี่คือวิถีทางความหวังของเรา นั้นคือความหวังนี้เกิดจากความรัก และผ่านทางกางเขนเท่านั้นที่จะสามารถมีชีวิตใหม่
เราไม่สามารถเจียระไนเพชรได้โดยปราศจากการขัดสีเสียดทาน บุคคลก็ไม่สามารถงดงามได้เมื่อปราศจากความยากลำบาก นี่คือคำพูดของขงจื้อ

ดังนั้น เหตุการณ์พระมหาทรมานและการกลับคืนชีพขององค์พระเยซูเจ้าก็เป็นความโหดร้ายทารุณยิ่ง สิ่งที่ร้ายแรงกว่าความเจ็บปวดความทรมานฝ่ายกายที่พระองค์ต้องประสบ ก็คือ ความรู้สึกปวดร้าวที่พระบุตรได้โทษพระบิดาว่าได้ทอดทิ้งพระองค์ อันนี้มันรุนแรงกว่าเมื่อพระองค์กรีดร้องออกมาว่า พระเจ้าข้า เหตุใดพระองค์ทรงทอดทิ้งข้าพเจ้า กระนั้นก็ตาม พระเยซูเจ้าได้น้อมรับความทรมานและความตายตามพระประสงค์ของพระบิดาจนถึงที่สุดเมื่อตรัสว่า จบบริบูรณ์แล้ว ความทุกข์และความเศร้าโศกเสียใจเป็นเสมือนตนในยุคฝนฟ้าคะนองมันผ่านมาแล้วมันก็จะผ่านไป สิ่งที่สำคัญก็คือ  เราตอบรับมันอย่างไร ที่สำคัญนั้นคือ เราทำอย่างไรกับความทุกข์เหล่านั้น เราอาจจะเป็นได้ว่าเราไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงความเศร้าโศกความทุกข์ยากที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา แต่เราสามารถทำบางสิ่งบางอย่างกับความทุกข์เหล่านั้นได้ เราสามารถเปลี่ยนมันให้กลับกลายเป็นบางสิ่งบางอย่างที่สร้างสรรค์ได้ และไม่ใช่ปล่อยให้มันเป็นเพียงการทำลายล้าง ไม่ปล่อยให้มันบั่นทอนชีวิตของเรา เปลี่ยนให้มันกลายเป็นสิ่งที่เสริมสร้างในชีวิต และไม่ใช่เป็นเพียงการจัดการกับความตายเท่านั้น เราสามารถเปลี่ยนมันให้เป็นสิ่งที่ดีกว่า และไม่ใช่ด้อยกว่า เป็นสิ่งที่ชื่นชูใจหาได้เป็นความขมขื่น เปลี่ยนวิกฤตให้โอกาส เปลี่ยนความทุกข์ยากให้กลับกลายเป็นความรักทั้งต่อพระเจ้าและต่อพี่น้องเพื่อมนุษย์ได้

ดังนั้น เราจะพบว่า
สิ่งสำคัญในชีวิตของเรา หาใช่ความทุกข์ยาก ความเศร้าโศกเสียใจที่ทับถมชีวิตของเรามาก สิ่งสำคัญก็คือ เราตอบสนองต่อความทุกข์นั้นอย่างไร หากเราปฏิเสธที่จะยอมรับความเศร้าโศกและความทุกข์ หากปฏิเสธที่จะหยิบกางเขนขึ้นมา และแบกมันไป เราก็จะสุดสิ้นลงด้วยการสูญเสียชีวิตไปอย่างไร้ค่าและปราศจากความหมาย และทางตรงกันข้าม หากเรายกไม้กางเขนขึ้นมาแบกมาไปด้วยความกล้าหาญเหมือนพระเยซูเจ้ารงกระทำแล้ว เราจะสามารถเปลี่ยนแปลงกางเขนนั้นให้กลับกลายเป็นบางสิ่งบางอย่างที่ก่อเกิด เราสามารถเปลี่ยนแปลงมันเป็นบางสิ่งบางอย่างที่เสริมสร้างชีวิต แม้เราจะรับรู้ว่า ชีวิตจริงของคนเราใช่ว่าจะหวานชื่นตลอดเวลา บางครั้งชีวิตก็เป็นเรื่องเศร้าและโหดร้าย แต่ทว่าเราก็คงพบบางสิ่งบางอย่างนอกเหนือไปจากนี้ด้วย ไม่ช้าเราจะค้นพบได้ว่า ความทุกข์และความโศกเศร้านั้นไม่ใช่นำมาสู่ความตายเสมอไป ขอบพระคุณพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าที่ทำให้เราเข้าใจว่าความทุกข์ยากและความเศร้าโศกก็อาจจะนำมาซึ่งชีวิตใหม่

หลายครั้งๆ พระเจ้าทรงใช้ความทุกข์และความเศร้าโศกเพื่อปรับเปลี่ยนเราให้กลายเป็นคนที่ดีกว่าเดิม อบอุ่นกว่าเดิม สุภาพกว่าเดิม เป็นคนที่รู้จักเข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้อื่นได้มากกว่าเดิม ความเศร้าโศกความทุกข์ยากสามารถเปิดดวงตาของเราให้มองโลกในแง่ดีมากขึ้น สวยมากขึ้นกว่าที่เราเคยเจอ กว่าที่เราเคยคิด พระธรรมล้ำลึกแห่งพระทรมานที่พระเยซูเจ้าทรงรับทนเพื่อความรอดพ้นของมนุษยชาตินี้ พระแม่มารีย์พระมารดามหาการุณย์ของพระเยซูเจ้าก็ได้มีส่วนร่วมด้วยตลอดพระชนม์ชีพของพระนางและพระชนม์ชีพของพระเยซูเจ้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงพระมหาทรมานและการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ พระมารดาของพระองค์ก็อยู่ที่นั้นด้วย ณ เชิงกางเขนนั้น แม่พระได้สัมผัสประสบการณ์มหาทารุณนั้นด้วยตัวพระนางเอง แม่พระจึงเข้าใจดีถึงความทุกข์ทรมานและความยากต่างๆในชีวิตของเราลูกๆของพระนางต้องประสบ พระนางสามารถช่วยเราได้ และพระนางจะช่วยเราอย่างแน่นอน

และเมื่อเราได้ตอบรับความรักของพระเจ้าแล้ว ได้จัดให้พระเจ้ามาเป็นอันดับแรกในชีวิตของเราแล้ว สิ่งถัดไปที่คริสตชนจะปฏิบัติก็คือ ความรักต่อพี่น้องเพื่อนมนุษย์เหมือนอย่างที่แม่พระได้ปฏิบัติทันทีหลังจากที่พระนางได้ตอบรับพระเจ้าแล้ว และเพื่อคริสตชนทุกคนจะปฏิบัติความรักต่อพระเจ้า ความรักต่อเพื่อนมนุษย์ได้อย่างที่แม่พระได้ทำจำเป็นที่เราทุกคนจะต้องพร้อมน้อมรับกางเขนน้อมรับความยากลำบากต่างๆ ยอมจ่ายราคาค่างวดความรักนั้นอย่างที่พระเยซูเจ้าและพระแม่มารีย์ที่ได้เคยปฏิบัติมาในชีวิตของพระองค์ทั้งสอง

พี่น้องที่รักทุกท่าน เราได้มาฉลองแม่พระมหาการุณย์ในวันนี้แล้ว เมื่อเราประสบปัญหาความทุกข์ร้อนในชีวิตของเรา เราจะวอนขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า ผ่านทางคำเสนอวิงวอนของพระแม่เสมอแต่เท่านั้นยังไม่พอ เรายังจะต้องพร้อมจะเป็นเหมือนพระแม่มารีย์องค์น้อยๆแก่พี่น้องคนอื่นๆในการปฏิบัติความรักต่อพวกเขาในฐานะที่เราเป็นศิษย์ของพระคริสตเจ้าเช่นเดียวกับพระนาง เป็นข่าวดีแห่งความรักของพระเจ้าสำหรับทุกคนรอบข้างโดยพร้อมจะน้อมรับความยากลำบากเพราะความเสียสละเหล่านั้นเปลี่ยนความทุกข์ให้กลับกลายเป็นความรักทั้งต่อพระเจ้าและต่อเพื่อนมนุษย์ทุกคนสืบไป อาแมน ”

ในระหว่างพิธีมิสซา พระคุณเจ้า เกรียงศักดิ์ ได้โปรดศีลกำลังแก่นักเรียนและผู้ใหญ่

หลังจากบทภาวนาหลังรับศีล ตัวแทนสภาภิบาลได้กล่าวคำนับและขอบคุณพระคุณเจ้า จากนั้น พระคุณเจ้าได้กล่าวตอบและอวยพรในโอกาสวันตรุษจีน และอวยพรอย่างสง่า

ต่อมา เป็นการเทิดเกียรติแม่พระมหาการุณย์ โดยเริ่มจากการโยนกำยาน แห่รอบวัด โยนกำยานอีกครั้ง สวดภาวนา และถวายช่อดอกไม้

บรรยากาศในวันนี้ มีสัตบุรุษมาร่วมเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสัตบุรุษมีความศรัทธาต่อแม่พระและขอพรโอกาสวันตรุษจีนอีกด้วย