โดย.....ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

Share |

          วันอังคารที่ 2ตุลาคม 2011 เวลา 11.00น. คุณพ่อสานิจ สถะวีระวงส์ เจ้าอาวาสอาสนวิหารอัสสัมชัญ ได้จัดให้มีพิธีบูชาขอบพระคุณระลึกถึงพระอัครสังฆราชยอแซฟ ยวง นิตโย อดีตพระอัครสังฆราชอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ครบ 14 ปีมรณภาพ โดยในปีนี้ได้เชิญคุณพ่อวุฒิเลิศ แห่ล้อม อุปสังฆราชฯ เป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณ ร่วมกับ คุณพ่อจำเนียร กิจเจริญ คุณพ่อศิริพจน์ สกุลทอง พร้อมด้วยพระสงฆ์ และพี่น้องสัตบุรุษมาร่วมพิธีในวันนี้จำนวนมากเป็นพิเศษ ซึ่งในปีนี้ทางอาสนวิหารอัสสัมชัญได้ปรับปรุงบริเวณห้องใต้พระแท่นบางส่วนแล้วหลังพิธีมิสซาเสร็จสิ้นแล้วได้ไปถวายกำยานที่หลุมของพระอัครสังฆราชยวง บริเวณใต้พระแท่นพร้อมมอบดอกไม้ที่บริเวณด้านหน้าหลุมคุณพ่อด้วย

          คุณพ่อวุฒิเลิศเทศน์ให้ข้อคิดวันนี้ว่า บรรดาคุณพ่อแลพี่น้องที่เคารพรัก วันนี้เป็นพิเศษเรามาชุมนุมกัน ณ อาสนวิหารแห่งนี้เพื่อระลึกถึงพระคุณเจ้ายอแซฟ ยวง นิตโย ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นบรรพบุรุษของเราเป็นนายชุมพาบาลของเราดูแลพวกเรามาตลอดก็ว่าได้ พ่อจะเล่าถึงประสบการณ์ที่ได้เห็นและรู้จักพระคุณเจ้ายวงมาระยะหนึ่งและแน่นอนท่านก็ดำเนินชีวิตตามจิตตารมณ์ของพระเยซูเจ้าอย่างเด่นชัด พ่อเองเคยอยู่กับท่านยวงช่วงท้ายๆชีวิตของท่านอยู่ที่บ้านเณรเล็กสามพรานช่วงที่ท่านลาพักเกษียณแล้วอยู่ที่นั่น และในวันนั้คงจะเป็นลูกศิษย์ลูกหา บรรดาญาติสนิท มิตรสหาย อย่างคุณพ่อแสวงก็เป็นลูกศิษย์ คุณพ่อจำเนียร และคุณพ่ออีกหลายๆท่านรวมทั้งพี่น้องที่เป็นฆราวาสก็รู้จักพระคุณเจ้าเป็นอย่างดี

          ขอสรุปนิดหน่อยเกี่ยวกับประวัติของท่าน ถ้าปัจจุบันนี้ท่านยังอยู่จะมีอายุ104ปี ่านมรณภาพอายุ90 เกิดปีค.ศ.1908 และเป็นสัตบุรุษวัดลำไทร คลองสิบสอง คุณแม่ของพระคุณเจ้าเสียตอนท่านอาย ุ3 ขวบและท่านได้ย้ายไปที่วัดดวงหทัยนิรมลของแม่พระ และจนกระทั่ง 5 ขวบ ย้ายไปเรียนอยู่ที่ซางตาครู้ส คอนแวนต์ (ปัจจุบันเป็นซางตาครู้สศึกษา) เมื่ออายุ11ปีย้ายกลับไปที่ลำไทร และอายุ14ปี ท่านได้เข้าไปอยู่ที่บ้านเณรบางช้าง 8 ปี และได้ไปศึกษาต่อที่กรุงโรม อายุ22 ปี เมื่อท่านบวชตอนอายุ 27 ปี

          พ่อยังจำได้พระคุณเจ้าเทศน์ถึงเรื่องศีลมหาสนิทที่พ่อยังจำได้ถึงทุกวันนี้ ช่วงแห่ศีล ท่านบอกศีลมหาสนิท ศีลนี้ใหม่ ศีลนี้ใหญ่ และศีลนี้ชื่นใจ ความหมายมีอยู่ในตัวมันอยู่แล้ว เป็นความจริงที่เราเข้าใจความหมายได้อย่างดี ท่านยวงเป็นคนสุภาพ มีความไว้เนื้อเชื่อใจเหมือนเด็กเล็กๆ มีความถ่อมตน ไว้ใจในพระเป็นเจ้าอย่างสิ้นเชิง ทุกอย่างท่านยวงบอกว่ามาจากพระเป็นเจ้า พระองค์ทรงช่วย พระองค์ประทานพระพรให้ เวลาที่เราทำอะไรได้สำเร็จเรามาคุยกันบนโต๊ะอาหารท่านยวงบอกว่าอย่าโม้ระวังดีๆประเดี๋ยวเถอะถ้าโม้เดี๋ยวพระองค์จะทรงจัดการคนที่ทรนง เพราะท่านถือว่าพระเป็นเจ้าทรงจัดการ เราต้องวางใจในพระเจ้า พระศาสนจักรปัจุบันนี้หลายๆอย่างเป็นผลมาจากท่าน ผู้หว่านและบัดนี้ได้เติบโตแตกกิ่งก้านสาขาออกไปมากขึ้น พวกเราร่วมใจกันพ่อเชื่อว่าพระคุณเจ้าทรงเห็นในสิ่่งที่เราทำ และท่านเสนอวิงวอนพระเป็นเจ้าเพื่อเราด้วย