โดย.....ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

Share |

          วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม 2012 เวลา 07.00น. คุณพ่อวุฒิเลิศ แห่ล้อม อุปสังฆราชฯ เป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณร่วมกับคุณพ่อสานิจ สถะวีระวงส์ คุณพ่อสุพจน์ ฤกษ์สุจริต พร้อมด้วยคุณพ่อประยุทธ ศรีเริญ จิตตาธิการฯอาราม คณะสงฆ์ คณะเซอร์ พี่น้องคาร์เมไลท์ และสัตบุรุษมาร่วมฉลองนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู ในวันนี้จำนวนมาก ณ อารามคาร์แมล กรุงเทพฯ

          คุณพ่อวุฒิเลิศอุปสังฆราชฯ เทศน์ให้ข้อคิดในวันนี้ว่า ก็ขอร่วมแสดงความยินดีโอกาสฉลองศาสนนามกับทุกท่านที่มีนามนักบุญเทเรซา  ท่านนักบุญเทเรซาเติบโตมาท่ามกลางการดูแลความรักของพระเป็นเจ้าเพราะพ่อแม่ของท่านมีความศรัทธา และสำคัญคือท่านเป็นผู้ที่พระเป็นเจ้าทรงรักท่านเป็นพิเศษ ตั้งแต่เล็กๆท่านอยู่กับครอบครัวและทำหน้าที่ของท่าน อายุ 15 เข้าอาราม ตามข้อระเบียบ ตามกฎของคณะแล้วไม่รับเพราะยังเด็กไป ท่านก็อยากจะเข้าอารามเพราะมีพี่สาวไปเป็นซิสเตอร์ 4 คน เมื่อไม่รับท่านก็ไปกับบิดาของท่านเพื่อไปขอพระสันตะปาปาเลโอ 13 เพื่อขอเข้าอาราม พระสันตะปาปาไม่ทรงตัดสินใจแต่ท่านบอกว่าแล้วแต่คุณแม่อธิการพิจารณา ท่านนักบุญเทเรซาก็มีจิตใจแน่วแน่ คุณแม่อธิการก็รับเป็นกรณีพิเศษ มาเป็นซิสเตอร์ และท่านเสียชีวิตเมื่ออายุ 24 ปี ท่านก็มีชีวิตต่อจากนั้นอีก 9 ปี เมื่อเข้าอารามแล้วดำเนินชีวิต ท่านอยู่ในอารามด้วยความเชื่อมั่นและด้วยความรักในพระเป็นเจ้า ท่านอุทิศตนทุกอย่างด้วยจุดประสงค์ของการกอบกู้วิญญาณของมนุษย์ให้รอดและสำคัญที่สุด พวกเราที่เป็นพระสงฆ์ เราก็ดีใจที่เทเรซามีข้อตั้งใจอันหนึ่งที่จะสวดภาวนาเพื่อพระสงฆ์เป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นบรรดาพระสงฆ์ทั้งหลายก็มีความรักเคารพและขอท่านนักบุญเทเรซา บางทีคุณพ่อก็มา่ขอให้ซิสเตอร์สวดให้ด้วย สิ่งที่พวกเราทุกคนก็ชื่นชมยินดีไม่ใช่เฉพาะพี่น้อง ที่มีนามนักบุญเทเรซาเท่านั้น นักบุญเทเรซาเมื่อเข้าอารามแต่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ดำเนินชีวิตด้วยความสุภาพถ่อมตนและท่านก็รู้ว่าสิ่งที่ท่านทำได้นั้นคือสิ่งที่เล็กน้อยที่สุด เป็นเรื่องราวในชีวิตประจำวันที่มีอยู่กิจประจำวันของท่านคือ ตื่นขึ้นมาทำภาระกิจหน้าที่ประจำวันกับเพื่อนพี่น้องในอารามและทำหน้าที่สวดภาวนาสำคัญกับพระเจ้าและด้วยความรักต่อพระเยซูเจ้าเป็นพิเศษ แล้วเทเรซานั้นก็น้อมรับน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าเสมอ

          ท่านบันทึกไว้ในหนังสือของท่านและจากบันทึกนี้เป็นเรื่องราว เป็นเหตุผลสำคัญที่พระศาสนจักรรับรองความศักดิ์สิทธิ์ของท่านและประกาศแต่งตั้งเป็นนักบุญจากสิ่งที่ท่านบันทึกไว้ไม่สลับซับซ้อนแต่ว่าเต็มเปี่ยมไปด้วยความแสดงออกในความรักและความเชื่อต่อพระเป็นเจ้าอย่างมั่นคง มีหลายตอนที่ท่านบันทึกไว้ ตั้งแต่ 3 ขวบฉันไม่เคยปฏิเสธสิ่งใดต่อพระเป็นเจ้าเลย คือตั้งแต่รู้ความ แต่ฉันไม่เคยให้สิ่งใดต่อพระเป็นเจ้าเลยนอกจากความรัก ท่านต้องการบอกว่าตั้งแต่รู้ความเลยคือฉันรักพระเป็นเจ้าตลอด และไม่เคยหยุดที่จะรักพระเป็นเจ้า และในประวัติ อายุ 8 ขวบ ป่วยหนักและน้อมรับความทุกข์ทรมาน และเมื่อแม่พระยิ้มกับท่านความเจ็บปวดก็หายไป และสำคัญอีกตอนหนึ่งตอนที่ท่านจะสนใจ ท่านก็บอกฉันจะโปรยฝนดอกกุหลาบลงมาจากสวรรค์และเธอก็กอดไม้กางเขนไว้แน่นอก พลางภาวนาว่าลูกรักพระองค์อย่างที่สุด เราจึงมีรูปของท่านนักบุญเทเรซากอดไม้กางเขนอยู่และมีดอกกุหลาบ เพราะฉะนั้นดอกกุหลาบของนักบุญเทเรซาก็คือสิ่งที่ท่านเจริญชีวิตและท่านได้ทำสิ่งเล็กๆน้อยๆ ก็คือท่านได้ทำพลีกรรม การใช้โทษบาป การทำสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ให้ดีที่สุดเพราะความรักต่อพระเป็นเจ้า เพื่อพระเป็นเจ้า เพื่อคนบาป เพื่อให้เกิดสันติสุขและความดีในสังคมนี่คือ ชีวิตของเทเรซา

          พ่อขอเล่าประวัตนักบุญเทเรซาเล็กน้อย และเราทุกคนจะได้ข้อคิดและสิ่งต่างๆจากประวัติของท่าน เมื่อท่านเป็นซิสเตอร์ในอารามท่านไม่ได้ประกอบกิจการใหญ่โตใดๆ ความรักพิสูจน์ด้วยการกระทำ ท่านบันทึกไว้ แล้วฉันจะแสดงความรักอย่างไร ฉันทุกห้ามทำกิจการใหญ่โตวิธีเดียวที่ฉันสามารถพิสูจน์ความรักของฉันคืิอการโปรยดอกกุหลาบ ดอกไม้เหล่านี้ คือการพลีกรรมเล็กๆน้อยๆทุกชนิดไม่ว่าการมอง การพูดจา หรือการกระทำเล็กๆน้อยๆที่ฉันสามารถแสดงความรัก เธอทำพลีกรรมทุกครั้งที่เธอมีโอกาสไม่ว่าจะเล็กขนาดไหนก็ตาม เธอยิ้มให้กับเพื่อนๆนักบวชที่เธอไม่ชอบ เธอรับประทานอาหารตามที่คนตักให้โดยไม่บ่นด้วยเหตุนี้คนมักให้อาหารที่เหลือหรือที่ไม่มีใครอยากกินให้แก่เธอ ครั้งหนึ่งเธอถูกกล่าวหาว่าเธอได้ทำแจกันแตก เธอไม่ได้ทำ และไม่มีความผิด แต่เธอคุกเขาลงขออภัยโทษ การพลีกรรมเล็กๆน้อยๆ เหล่านี้ทรมานเธอทางด้านจิตใจ ยิ่งกว่าการทำพลีกรรมใหญ่ๆเพราะไม่มีใครมองเห็น หรือรับรู้กิจการดีของเธอนอกจากพระเป็นเจ้าเท่านั้น เธอกำลังดูว่าเธอจะบรรลุความศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตได้อย่างไร เธอไม่ต้องการเป็นเพียงคนดีเท่านั้น เธอต้องการเป็นนักบุญ เธอเชื่อว่าต้องมีวิธีสำหรับคนที่มีชีวิตซ่อนเร้นอย่างเธอ ฉันมีความปรารถนาอยากเป็นนักบุญเมื่อฉันเปรียบเทียบตัวเองกับนักบุญหลายองค์ ฉันพบข้อแต่กต่างระหว่างภูเขาที่มียอดสูงหายเข้าไปในกลับเมฆกับเมล็ดทรายที่อยู่บนพื้นดินถูกีคนเหยียบย่ำ แทนที่จะท้อใจฉันบอกตัวเองว่า พระเป็นเจ้าไม่ปรารถให้ฉันทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้และถึงแม้ฉันเป็นเพียงคนเล็กน้อยฉันก็ยังบรรลุเป้าหมายของการเป็นนักบุญได้ เป็นไปไม่ได้เลยที่ฉันจะทำกิจการใหญ่โต ดังนั้นฉันยอมรับความเป็นตัวฉันเองที่มีความผิดพลาดบกพร่องนับไม่ถ้วนแต่ฉันต้องหาให้พบวิธีไปสวรรค์ให้พบ เป็นทางเล็กๆสั้นๆตรงไปเมืองสวรรค์ เป็นเส้นทางใหม่ เราอยู่ในยุคแห่งการประดิษฐ์ เราไม่ต้องก้าวขึ้นบันไดเป็นขั้นๆในบ้านของคนร่ำรวย และฉันตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะพาฉันไปหาพระเยซูเจ้าเพราะตัวฉันเล็กเกินไปที่จะปีนบันไดชันๆที่พาไปสู่ความดีครบครัน ดังนั้นฉันได้ค้นหาพระวรสารเกี่ยวกับชีวิต ฉันอยากเป็นและอ่านคำเหล่านี้ใครก็ตามที่ตัวเล็กๆให้มาหาเรา แขนของพระเยซูเจ้าเป็นลิฟท์พาฉันเข้าสวรรค์และดังนั้นไม่จำเป็นที่ฉันจะต้องโตขึ้น ฉันต้องเป็นตัวเล็กๆต่อไปและต้องเล็กลงไปเรื่อยๆ เธอกังวลเกี่ยวกับกระแสเรียกของเธอ ฉันรู้สึกในตัวฉันมีพระกระแสเรียกของพระสางฆ์ ของอัครสาวก การเป็นมรณสักขี เป็นความฝันของฉันตอนเป็นเด็ก และความฝันของฉันนี้เติบโตพร้อมกับตัวฉัน พิจารณาถึงพระกายศักดิ์สิทธิ์ฉันฝันเห็นตัวเองเป็นอวัยวะหลายส่วนในพระกายศักดิ์สิทธิ์นั้น ความมีใจเมตตากรุณาเป็นกุญแจนำฉันไปพบพระกระแสเรียกของฉัน ฉันเข้าในพระศาสนจักรและพระศาสนจักรมีดวงใจร้อนรนด้วยความรัก ฉันเข้าใจความรักบรรจุพระกระแสเรียกทุกชนิด ความรักเป็นทุกสิ่ง ความรักโอบอุ้มกาลเวลา และสถานที่

          สรุปความรักชั่วนิรันดร์ในความยินดีเหลือล้นฉันร้องออกมาโอ้พระเยซูเจ้า พระองค์เป็นองค์ความรักและพระกระแสเรียกของข้าพเจ้า ในที่สุดข้าพเจ้าได้ค้นพบพระกระแสเรียกของข้าพเจ้า คือความรักนั่นเอง

          พี่น้อง 24 ปีเป็นนักบุญที่ยิ่งใหญ่ ชีวิตในอารามเงียบสงบ ไม่มีชื่อเสียงในสังคมแต่ทำสิ่งที่เกินความคาดหมายของมนุษย์ทั้งหลาย ทำให้พระศาสนจักรก้าวหน้า ทำให้โลกได้รับรู้ความรักของพระเป็นเจ้าพี่น้องถามว่าเวลานี้เราอายุเท่าไรแล้วกี่เท่าของนักบุญเทเรซาแล้ว เราได้สักเพียงเศษส่วน เศษหนึ่งน้อยนิดของนักบุญเทเรซาหรือไม่ เป็นสิ่งที่เราควรคิดพิจารณาต่อไปและเราควรจะดำเนินชีวิตเช่นเดียวกับท่านในแต่ละวันก็ดี ในคอบครัว ในสังคม ในสถาบันหรือที่ไหนก็ตาม มีชีวิตด้วยความรักและความรักนั่นเองทำให้เราเลียนแบบท่านนักบุญเทเรซา ใกล้ชิดเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ยิ่งทียิ่งมากขึ้น