ภาพ / ข่าว : คุณนิพัทธ์ สิริพรรณยศ อาสาสมัครช่วยงานแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

ประมวลภาพฉลอง 25 ปี วัดพระมารดานิจจานุเคราะห์ คลองจั่น

วันพุธที่ 5 ธันวาคม 2012 คุณพ่อ เปาโล สุรชัย ชุ่มศรีพันธ์ เจ้าอาวาสวัดพระมารดานิจจานุเคราะห์ ได้จัดงานฉลอง 25 ปีของวัด โดยได้เรียนเชิญ พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู พระอัครสังฆราชกิตติคุณแห่งอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ เป็นประธานในพิธี

เวลา 09.15 น. บรรดาคุณพ่อ คุณครูและนักเรียนโรงเรียนพระมารดานิจจานุเคราะห์ และสัตบุรุษร่วมต้อนรับพระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ประธานในพิธี จากนั้น พระคุณเจ้าได้สวดภาวนาต่อศีลมหาสนิท และทักทายบรรดาสัตบุรุษ

เวลา 10.00 น. พิธีฉลอง 25 ปี วัดพระมารดานิจจานุเคราะห์ คลองจั่น โดยเริ่มจากการกล่าวบทอาศิรวาทแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งนำกล่าวโดย พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู และร้องเพลงสดุดีมหาราชา

หลังจากนั้น เป็นการเสกถ้ำจำลองของแม่พระที่ประจักษ์ที่เมืองลูร์ด

และเข้าสู่พิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณตามปกติ โดย พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู พร้อมด้วย คุณพ่อ ยอแซฟ วุฒิเลิศ แห่ล้อม อุปสังฆราช คุณพ่อ ยอแซฟ จำเนียร กิจเจริญ และคณะสงฆ์จำนวนหนึ่ง

พระคาร์ดินัล ได้เทศน์ให้ข้อคิด ดังนี้

“สำหรับพี่น้องสัตบุรุษวัดพระมารดานิจจานุเคราะห์ ต้องบอกว่าวันนี้เป็นวันแห่งพระพรของพระเป็นเจ้าที่พระองค์พระทัยดีต่อพระนางมารีอาพรหมจารีซึ่งทรงมีต่อเราตลอดเวลา 25 ปี ณ ที่นี้ ด้วยเหตุนี้ เราจึงพร้อมใจเป็นหนึ่งเดียวกันมาถวายพระพรแด่พระเป็นเจ้า เราจึงถวายเกียรติแด่แม่พระของเรา พร้อมทั้งสำนึกพระทัยดีพระเมตตาของพระเจ้าที่มีต่อเราและความช่วยเหลือของแม่พระในแต่ละคนแต่ละครอบครัวตลอด 25 ปีนี้เป็นพิเศษ เราต้องสำนึกด้วยการขอบพระคุณไม่ใช่แค่วันนี้แต่ต้องสำนึกที่จะต้องขอบพระคุณรักเมตตาของพระเป็นเจ้าและความช่วยเหลือของคุณแม่ตลอดชีวิต

ในพิธีมิสซาได้อัญเชิญข้อความพระคัมภีร์ในบทอ่านบทหนึ่ง จึงได้รู้ว่า พระมารดานิจจานุเคราะห์พร้อมกับบรรดาศิษย์ของพระองค์ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันในห้องนั้น เพื่อสวดภาวนาฉันนั้น โอกาสที่เรามาถวายเกียรติแด่พระแม่ 25 ปีของวัดนี้ จึงเห็นบรรดาพี่น้องทั้งหลายพร้อมใจเป็นหนึ่งเดียวมาร่วมตัวในพระวิหารของพระเป็นเจ้า ซึ่งถวายเป็นเกียรติแด่พระแม่พระมารดานิจจานุเคราะห์ก็เพื่อสวดภาวนาด้วยใจร้อนรน ด้วยความเชื่อ เพื่อให้บทภาวนาของพระศาสนจักรบังเกิดผลที่แท้จริงสำหรับแต่ละคน

ในบทอ่านที่สอง ในจดหมายท่านนักบุญเปาโลที่เขียนถึงชาวโครินทร์ ฉบับที่ 1 เป็นบทความที่มีความหมายมาก เป็นบทความที่สาระ และแก่นแท้ ท่านได้พูดถึงความรัก ลักษณะของความรักในท่อนที่ 2 เราวันนี้

พระแม่อยากให้เราได้ไปอ่านหลายๆครั้งว่า ความรักที่พูดกันในสื่อสารมวลชน ที่พูดในสังคม ที่พูดในทุกมุมเมืองนั้นพูดว่าอะไร แต่วันนี้นักบุญเปาโลได้บอกลักษณะอันแท้จริงของความรักอันบริสทธิ์นั้น คือ ความรักอดทนนาน และกระทำคุณให้ ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย

สังคมเราในปัจจุบันเหมือนเขาใช้วาทะกรรมในทางการเมืองหรือสังคม ดูเหมือนว่า มันไม่สุภาพเอาเสียเลย ที่พูดกันในสื่อมวลชนหรือสังคม รู้สึกจะมีความโน้มน้าว โน้มเอียงไปในทางที่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแต่ตนแต่ฝ่ายเดียว สังคมของเราปัจจุบันนี้ เราเห็นมั๊ยว่า แบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย ก็เพราะเอาตัวเป็นเอก เอาตัวเป็นใหญ่ ต่อไป ท่านนักบุญเปาโลบอกว่า
ลักษณะความรักต้องไม่ฉุนเฉียว ในชีวิตมนุษย์หลายครั้งหลายคราวมักจะมีฉุนฉียวจนเป็นที่ประจักษ์ ไม่ช่างจดจำความผิด สังคมในปัจจุบันนี้ ช่างจำความผิดของผู้อื่น ความผิดเล็กความผิดใหญ่ แต่สิ่งที่ดีเราไม่จำ ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติผิด

แต่เดี๋ยวนี้เรายกย่อง เรานิยม เราสรรเสริญผู้ที่กระทำความผิดในสังคมหลายสิ่งหลายอย่าง ดูเหมือนปัญหาของประเทศชาติพูดถึงการคดโกงการทุจริต ดูเหมือนว่า เราจะเมินเฉยและละเลย แต่บ่อยครั้ง ตามที่นักบุญเปาโลกล่าวแต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบเรามักจะไม่ยกย่องไม่ให้ความนิยมต่อผู้ที่ประพฤติดี อีกข้อหนึ่งความรักทนได้ทุกอย่าง ในชีวิตของเราความสุข ความทุกข์ ความสำเร็จ ความไม่สำเร็จ ความหวัง ความไม่สมหวัง มักเกิดได้ในทุกผู้ทุกนามและทุกสมัย แปลว่า เราชอบเมื่อเราสำเร็จ เราภูมิใจเมื่อเราสมหวัง แต่บางครั้งไม่ได้เป็นเช่นนั้น เราทนไม่ได้ นั้นไม่ลักษณะของความรักที่แท้จริง และท่านนักบุญเปาโลได้บอกถึงลักษณะของความรักในตอนสุดท้ายของจดหมาย ในความรักนี้ให้อดทนต่อทุกอย่าง ดูเหมือนว่า ชีวิตของเราขาดความอดทน ขาดความอดกลั้น ไปมิใช่น้อย ดังนั้น โอกาส 25 ปีของวัด ท่านนักบุญเปาโลอยากมอบเรื่องความรักให้ไปไตร่ตรองและปฎิบัติในชีวิต

พระศาสนจักรได้เสนอพระวรสารนักบุญยอห์น เรื่อง งานสมรสในเมืองคานา แคว้นกาลิลี จากเรื่องราวในงานสมรสในวันนี้ อยากจะเสนอข้อคิดบางประการ

1.พระเยซูคริสตเจ้าและพระมารดาของพระเยซูเจ้าคริสตเจ้าพร้อมกับสานุศิษย์ได้รับเชิญไปในงานนั้น อันว่า การที่พระเยซูเจ้า พระนางมารีย์ และสานุศิษย์ไปร่วมงาน แสดงว่าในมิติสังคม พระมารดา พระเยซู ดำเนินชีวิตพร้อมกับสังคมนั้น ร่วมรู้ ร่วมรับผิดชอบต่อสังคมนั้นด้วย เพราะฉะนั้น ในงานมงคลสมรสเป็นงานที่นำมาด้วยความชื่นชมยินดี ด้วยเหตุนี้พระเยซูเจ้า พระนางมารีย์ และสานุศิษย์จึงไปร่วมงานเพื่อแสดงความชื่นชมยินดี ร่วมยินดีกับเจ้าภาพ เป็นบทเรียนบทสอนว่า เราอยู่ในชุมชนใดๆ จะต้องมีส่วนของชุมชนนั้นๆ ของวัดของเรา ถ้าสมาชิกมีความชื่นชมยินดี จงร่วมชื่นชมยินดี เมื่อสมาชิกมีความทุกข์ร้อน เราต้องไปช่วยบรรเทา ช่วยเหลือตามที่เราสามารถจะทำได้

2.ในการชื่นชมยินดีนี้ สิ่งภายนอกอันหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ การกินเลี้ยง มันเป็นมิติทางสังคมที่จัดกันเป็นปกติ วันนั้น เจ้าภาพจัดเลี้ยง เหตุการณืที่เกิดขึ้น ปรากฏว่า เหล้าองุ่นหมด แม่พระซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานนั้น สังเกตดูเป็นฉันนั้น ก็รูสึกเห็นใจเจ้าภาพ มีความปรารถนายิ่งที่จะช่วยงานของเจ้าภาพนี้ให้ดำเนินไปด้วยความราบรื่น พระมารดารู้ว่าลูกชาย พระเยซูบุตรสุดที่รักของท่านมีความสามารถที่ทำอะไรๆก็ได้ ซึ่งแปลว่าพระนางรู้จักพระเยซูคริสตเจ้าดีว่าพระองค์มีสถานะอะไร มีความสามารถอะไร และดวงใจของพระเยซูคริสตเจ้าเต็มไปด้วยความเมตตา และเหตุการณ์ต่อไป แม่พระไม่ได้บอกไม่ได้เน้นว่าให้พระเยซูเจ้าทำอะไรเพราะแม่พระเข้าใจรู้จักลูกชายตนดีที่สุด จึงบอกเจ้าหน้าที่ว่า เขาบอกให้ท่านทำอะไร ก็จงทำเถิด และเหตุการณืที่เกิดขึ้นตามที่เรารู้ น้ำที่พระเยซูเจ้าให้ตักมาใส่ในโอ่ง 6 ใบนั้นได้กลายเป็นเหล้าองุ่น ในพระวรสารบอกว่า เป็นอัศจรรย์แรกของพระเยซูเจ้า

 พี่น้องที่รัก ที่นำสิ่งนี้มาเสนอพี่น้องในตอนสุดท้ายนี้ สิ่งต่างๆในชีวิตของเรา แน่นอนไม่มีใครเป็นคนดีครบถ้วนร้อยเปอร์เซ็นต์ มีข้อบกพร่องมีสิ่งที่จะต้องเติมใหม่ เป็นใครเล่าที่ให้เติมให้เต็มในชีวิตของเรา ก็เป็นองค์พระเยซูคริสตเจ้านั่นเอง และผู้ที่มีส่วนร่วมที่จะให้พระเยซูเจ้าทรงกระทำอัศจรรย์เพื่อต่อเติมสิ่งต่างๆในชีวิตของเรา ไม่ใช่ใครคนอื่นเลย นั่นคือ พระนางพรหมจารีย์มารีอา ดังเหตุที่พระวรสารที่เล่าให้ฟังในวันนี้ จึงด้วยเหตุนี้
ตลอด 25 ปีที่เรามีวัดอันสวยงาม แม่พระก็ได้ให้เรามีสิ่งที่เติมแต่งมากขึ้นภายนอก วัดที่ได้ปรับปรุงให้สะดวก บ้านคุณพ่อ และถ้ำจำลองของแม่พระเมืองลูร์ด จงขอบคุณพระเป็นเจ้าที่พระเป็นเจ้าทรงมีต่อชาวเรา

พระมารดา แม่ของเรา มีแม่คนไหนบ้างที่ไม่ต้องการอยู่ใกล้ชิดลูก ไม่มีในโลก หรือในปัจจุบันมีสิ่งที่เบี่ยงเบนไปเยอะ อาจจะมีคุณแม่หลายคนแทนที่จะให้อยู่ใกล้ชิดกับลูก กลับผลักไสลูกของตน และยิ่งกว่านั้น ทำร้ายชีวิตลูกของตนด้วยซ้ำไม่ใช่พระแม่ พระแม่ต้องอยู่ใกล้ชิดกับลูกทุกคน ไม่ว่าลูกคนนั้นเป็นใคร มีสถานะอย่างไรก็ตาม และวันนี้ เราได้ร่วมพิธีเสกถ้ำจำลองแม่พระ แม่พระได้เตือนบอกเรา เพราะฉะนั้นบอกเราว่าอะไร จงสวดภาวนา จงกลับใจ จงดำเนินชีวิตตามภาวนาที่เราได้กล่าวในวันนี้

แม่พระไม่ว่าที่ไหน แม่พระอยากอยู่กับเราที่บ้าน ที่ครอบครัว ที่ทำงาน และที่ใดๆไม่ว่า ขอเพียงแต่เรายอมรับแม่พระให้อยู่กับเรา เมื่อเป็นเช่นนั้น เราในฐานะลูกแม่พระจะได้รับสิ่งเติมเต็มในชีวิตเหมือนกับอัศจรรย์ที่เกิดในวันนี้ ”

หลังจากบทภาวนาหลังรับศีล ทางวัดได้เปิดวีดีทัศน์ประกอบภาพความเป็นมาของวัดพระมารดานิจจานุเคราะห์ตลอด 25 ปี ที่ผ่านมา จากนั้น ตัวแทนสภาภิบาลกล่าวขอบคุณพระคาร์ดินัล และร่วมฉลองวันเกิดล่วงหน้าให้กับพระคุณเจ้าโอกาสอายุครบ 84 ปี ในวันที่ 24 มกราคม 2013 จากนั้น พระคุณเจ้ากล่าวตอบ และพระคุณเจ้าได้อวยพรพี่น้องสัตบุรุษที่ได้มาร่วมพิธี

ต่อมาเป็นการเทิดเกียรติพระมารดานิจจานุเคราะห์ เริ่มจากการถวายกำยาน แห่รอบวัด ถวายกำยานอีกครั้ง สวดภาวนา และถวายช่อดอกไม้

บรรยากาศในวันนี้ มีพี่น้องสัตบุรุษมาร่วมเป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่พร้อมใจกันใส่เสื้อสีเหลืองเพื่อในหลวง และถ้ำจำลองของแม่พระทำออกมาได้เหมือนกับว่าเราได้ไปแสวงบุญที่ลูร์ดจริงๆ

และความพิเศษในปีนี้ ทางวัดได้จัดนิทรรศการเกี่ยวกับ 25 ปีของวัด และได้จัดทำหนังสืออนุสรณ์และของที่ระลึกมากมาย

และหลังจากพิธีมิสซา มีการแข่งกีฬาบาสเก็ตบอล ระหว่าง พระสงฆ์และครูโรงเรียนพระมารดานิจจานุเคราะห์ และการแข่งกีฬาฟุตซอล ระหว่างโรงเรียนพระมารดานิจจานุเคราะห์ แม่พระฟาติมา และสามเณราลัยนักบุญยอแซฟ ซึ่งมีพิธีเปิด โดย คุณพ่อ สักรินทร์ ศิรบรรเทิง ปลัดวัด เป็นผู้กล่าวเปิดงาน