วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ 7 เมษายน 2555/2012 คุณพ่อสานิจ สถะวีระวงส์ อุปสังฆราช เป็นประธานในพิธีเสกเทียน เสกน้ำ และ โปรดศีลล้างบาป
ศีลกำลัง และ ศีลมหาสนิท ให้กับคริสตชนใหม่ ที่เตรียมจิตใจมาเป็นอย่างดีแล้ว
เวลา 19.00 น. คุณพ่อสานิจ สถะวีระวงส์ อุปสังฆราช เป็นประธาน ร่วมกับคุณพ่อสุรสิทธิ์ชุ่มศรีพันธุ์ เจ้าอาวาส คุณพ่อปิยะชาติ มะกรครรภ์ ผู้ช่วยพระสังฆราชฝ่ายงานอภิบาล คุณพ่อสมเกียรติ บุญอนันตบุตร ผู้ช่วยพระสังฆราช ฝ่ายงานธรรมทูต คุณพ่อธนากร เลาหบุตร ช่วยงานอภิบาล มายังณ บริเวณโรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา เพื่อประกอบพิธีในคืนตื่นเฝ้านี้
คุณพ่อได้เสกเทียนปัสกา เทียนปัสกาหมายถึง พระเยซูเจ้าทรงเป็นอัลฟาและโอเมกา ทรงเป็นจุดเริ่มต้นและเป้าหมายของสรรพสิ่ง กำยานห้าเม็ดที่ติดบนเทียนเป็นรูปกางเขนหมายถึงบาดแผลทั้ง 5 ของพระองค์ จากนั้น การเสกไฟ แสงสว่างใหม่ที่จะใช้จุดเทียนปัสกาชี้แสดงให้เห็นถึงชีวิตใหม่ที่เราได้รับจากพระเยซูเจ้า เราอยู่ในคืนที่ทุกอย่างได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่ สัตบุรุษแห่เทียนเข้าวัด
ขบวนแห่ที่นำหน้าโดยเทียนปัสกาให้ความหมายกับเราว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นแสงสว่างส่องโลก ใครที่เดินตามพระองค์ จะไม่เดินในความมืด แต่จะมีแสงสว่างส่องทางชีวิต (ยน 8:12) พระเจ้านำชาวอิสราเอลไปสู่อิสรภาพและชีวิตใหม่ด้วยเสาเพลิงฉันใด (เทียบ อพย 13:21) คริสตชนผู้ซึ่งเป็นอิสราเอลใหม่ก็ติดตามพระคริสตเจ้าไปสู่ชีวิตใหม่ในลักษณะเดียวกัน พระสงฆ์ขับร้องว่า "พระคริสตเจ้าองค์ความสว่างของชาวเรา" และทุกคนรับว่า "ขอขอบพระคุณพระเป็นเจ้า"
เมื่อถึงประตูวัดหลังจากพระสงฆ์ขับร้องว่า
"พระคริสตเจ้าองค์ความสว่างของชาวเรา" เป็นครั้งที่สอง ทุกคนตอบว่า "ขอขอบพระคุณพระเจ้า" อีกครั้ง แล้วต่างคนต่างจุดเทียนของตนจากเทียนปัสกา เพื่อแสดงว่าเราทุกคนได้รับความสว่างและชีวิตจากพระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ เมื่อเดินมาถึงแท่นบูชามีการขับร้องและตอบรับอีกครั้งหนึ่ง ต่อจากนั้นจึงเปิดไฟในวัด
พิธีแสงสว่างจบลงด้วยการประกาศสมโภชปัสกา (Exultet) ที่อธิบายความหมายของความสว่าง ความหมายของการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า และการกอบกู้มนุษย์ให้พ้นจากบาปและความตาย
การประกาศสมโภชปัสกาจบลงด้วยภาพที่ชัดเจนว่า "พระคริสตเจ้า ผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพทรงส่องแสงและนำสันติสุขมาให้มนุษยชาติ" |