โดย...ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

Share |

          วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม 2011 เวลา 11.00น. คุณพ่อสุรสิทธิ์ ชุ่มศรีพันธ์ เจ้าอาวาสอาสนวิหารอัสสัมชัญ ได้จัดให้มีพิธีบูชาขอบพระคุณระลึกถึงพระอัครสังฆราชยอแซฟ ยวง นิตโย อดีตพระอัครสังฆราชอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ครบ 13 ปีมรณภาพ โดยในปีนี้ได้เชิญคุณพ่อสนัด วิจิตรวงศ์ เป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณ ร่วมกับพระสังฆราชยอแซฟ สังวาลย์ ศุระศรางค์ พระสังฆราชกิตติคุณ คุณพ่อจำเนียร กิจเจริญ พร้อมด้วยพระสงฆ์ และพี่น้องสัตบุรุษมาร่วมพิธีในวันนี้เป็นพิเศษ ซึ่งในปีนี้ทางอาสนวิหารอัสสัมชัญได้ปรับปรุงบริเวณห้องใต้พระแท่นจึงไม่สามารถลงไปถวายกำยานที่หลุมของพระอัครสังฆราชยวง ได้

          คุณพ่อสนัด วิจิตรวงศ์ ได้แบ่งปันในช่วงเทศน์วันนี้ว่า เราได้สัมผัสพระคุณเจ้ายวง มาเป็นเวลาพอสมควรพ่ออยากจะนำบางสิ่งบางอย่างมาแบ่งปันเพื่อว่าเราจะได้ดำเนินชีวิตตามแบบอย่างของท่าน ท่านยวงเป็นพระอัครสังฆราชองค์แรกของประเทศไทย สิ่งที่พ่ออยากจะกล่าวเป็นพิเศษเป็นความรู้สึกจริงๆส่วนตัวมากกว่าท่านยวงเป็นคนเที่เคร่งครัดกับเณร ท่านเคร่งครัดในเรื่องความศรัทธา กับการเรียนของเณร สิ่งที่พ่ออยากจะเน้นเป็นพิเศษ เป็นต้นเรื่องของความนบนอบ นั่นเป็นสิ่งที่สะท้อน ในฐานะเป็นลูกศิษย์ของท่าน นอกจากเรื่องขิงความนบนอบแล้ว ท่านยังเน้นคุณสมบัติที่เหมาะสมของการสามารถบวชเป็นพระสงฆ์ได้ เป็นต้นความซื่อสัตย์ ในหน้าที่ของตน และสิ่งที่ติดตาพ่อเสมอมีเณรหลายคนถูกเชิญให้กลับบ้าน เพราะเณรไปลอกการบ้านเพื่อหรือลอกข้อสอบ เพราะการที่ไม่ซื่อสัตย์ในเรื่องเล็กน้อย เราจะซื่อสัตย์ในเรื่องใหญ่โตได้อย่างไร ถ้าเป็นเณรแล้วไม่ซื่อสัตย์ ต่อไปเป็นพระสงฆ์จะซื่อสัตย์ต่อชีวิตสงฆ์ได้อย่างไร และสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่พ่อเห็นว่าท่านได้กล่าวและเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

          นอกจากคุณสมบัติต่างๆเหล่านี้ เราได้เห็นแบบอย่างในชีวิตของท่านตอนที่ท่านเป็นพระสงฆ์ก็ดี เป็นพระสังฆราชก็ดี ความเหมาะสมในฐานะความเป็นอยู่ การแต่งตัว ท่านเป็นคนที่สมถะมาก ท่านไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ท่านมีใจกว้างเสมอสำหรับพระศาสนจักร แบบอย่างที่เห็น เป็นต้นท่านเกษียณแล้วท่านได้ได้เก็บเงินเอาไว้แล้วได้มอบให้กับพระสังฆราช สำหรับงานของสังฆมณฑล มอบให้สังฆมณฑลของตน นั่นคือความความสมถะและใจกว้างสำหรับงานของสังฆมณฑลและสิ่งที่พ่อยากจะแบ่งปันเป็นพิเศษก็คือชีวิตของท่านที่คอยบอกคอยสอนว่าไม่ว่าเราจะเป็นสังฆราช พระสงฆ์ ทุกคนมีสิทธิ์ในตัวของเรา เขามีสิทธิ์ที่จะเห็นความประพฤติดีของเรา

ฆราวาสมีสิทธิ์ที่จะเห็นพระสงฆ์สวดภาวนา เขามีสิทธิ์ที่จะเห็นพระสงฆ์ถวายบูชามิสซา เขามีสิทธิ์ที่จะเห็นพระสงฆ์เฝ้าศีลมหาสนิท และสิ่งต่างๆเหล่านี้เราไม่ต้องซ่อนเร้นเพราะสัตบุรุษเขามีสิทธิ์ที่จะอยากเห็น และพระสงฆ์ก็มีสิทธิ์ที่จะเห็นพระสังฆราชทำแบบนี้ และท่านเองก็ปฏิบัติสิ่งต่างๆเหล่านี้ เพราะพ่อได้ยินมาว่าบนสำนักพระสังฆราชมีวัดน้อยแต่ท่านก็ลงมาทำมิสซาที่อาสนวิหารแห่งนี้ ท่านบอกว่าท่านมาเฝ้าศีลที่นี่ และทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะเห็นพระสังฆราช พระสงฆ์ถวายมิสซาแม้จะเป็นวันธรรมดาไม่ใช่วันอาทิตย์ หลายๆครั้งเราจะเห็นพระคุณเจ้าจะสวดอยู่ในที่แจ้งที่เราเห็นได้ เวลาพ่อขับรถไปให้ท่านยวง ท่านก็ไปพบพ่อวิญญาณถึงแม้ว่าท่านเป็นสังฆราชท่านก็ยังต้องมีพ่อวิญญาณ ไปแก้บาปให้พระสงฆ์เป็นประจำแม้จะอยู่คนละแห่ง สิ่งต่างๆเหล่านี้ท่านเป็นพระสังฆราชแล้วปฏิบัติสม่ำ่เสมอเวลาเข้าเงียบประจำเดือน ท่านได้ปฏิบัติสม่ำเสมอและยังย้ำเตือนบรรดาพระสงฆ์ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเห็นชีวิตเราเป็นแสงสว่างเป็นแบบอย่าง สิ่งเหล่านี้ที่ท่านได้สอน ก็เหมาะสมกับชื่อของท่านก็คือ ผู้หว่าน หว่านทุกอย่าง หว่านเมล็ดพืช และทุกครั้งที่พ่อระลึกถึงพระคุณเจ้าพ่อสวดภาวนา และคิดว่าพระคุณเจ้าควรจะอยู่ในสวรรค์แล้ว และวอนขอพระคุณเจ้าเพื่อการดำเนินชีวิตของพ่อเองจะได้เป็นไปอย่างดีมากกว่า ที่จะขอพรเพื่อพระคุณเจ้า ถ้าพระคุณเจ้ายวง ได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างดีแล้ว ถ้าเรายังไม่เชื่อว่าพระคุณเจ้าไปสวรรค์แล้วใครเล่าจะเหมาะสมไปสวรรค์แล้ว พ่อเองรู้สึกอย่างนั้น และชีวิตของเรายังห่างไกลจากตัวอย่างของพระคุณเจ้า

พ่ออยากจะเชิญชวนบรรดาพี่น้องพระสงฆ์ให้เราคิดถึงพระคุณเจ้าในฐานะผู้ศักดิ์สิทธิ์ของเราของพระคุณเจ้าช่วยเราในการดำเนินชีวิตซื่อสัตย์ และเหมาะสมในการดำเนินชีวิตเพื่อให้เราเดินทางไปสู่ปลายทาง ไปสู่ชีวิตนิรันดร์เช่นเดียวกับพระคุณเจ้า