ในบทเทศน์พระคุณเจ้าได้แบ่งปันว่า :
หลังจากที่พระคุณเจ้าได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ ได้มาเป็นปลัดที่วัดนี้ พลมารีได้เชิญคุณพ่อไปปราบคนถูกผีสิง พระคุณเจ้าได้ใช้ไม้กางเขนในการปราบคนถูกผีสิงคนนั้นได้ เพราะปีศาจกลัวไม้กางเขน พระเยซูเจ้าใช้กางเขนในการไถ่กู้บาปของมนุษย์ กษัตริย์คอนแสตนใช้ไม้กางเขนเป็นสัญลักษณ์ในการรบ จึงได้รับชัยชนะทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เป็นคริสตังด้วยซ้ำไป
การขุดพบไม้กางเขนทำให้ชายคนหนึ่งหายป่วยด้วยอัศจรรย์ของกางเขน พระเจ้าตากสินได้มอบที่ดินแห่งนี้ให้คริสตชนสร้างวัดในวันที่ 14 กันยายน ซึ่งตรงกับวันเทิดทูนไม้กางเขน วัดนี้จึงเป็นวัดไม้กางเขน ในอดีตไม้กางเขนเป็นเครื่องมือในการประหารชีวิตนักโทษ ปัจจุบันเป็นเครื่องหมายแห่งความรอดของมนุษย์โดยอาศัยไม้กางเขน กางเขนเป็นเครื่องหมายของความทุกข์ยากลำบากต่าง ๆในชีวิตประจำวัน เพื่อผ่านความรอดไปสู่สวรรค์ กางเขนยังเป็นกุญแจไขประตูสวรรค์ ถ้าเราอยากเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้า ต้องแบกกางเขนแล้วติตามพระองค์ ยอมรับความทุกข์ยากลำบาก ความทุกข์ทรมานในทุกรูปแบบ เช่นเดียวกับนักบุญเปาโล หลังจากที่ท่านกลับใจมาเป็นศิษย์ของพระเยซู
ความประทับใจของพระคุณเจ้าขณะที่ทำงานอยู่ที่สังฆมณฑลเชียงใหม่ เมื่อมีชาวเขาคนหนึ่งถูกขวานที่เท้าเป็นแผลใหญ่ต้องค่อย ๆ ประคองตัวไปคลีนิคที่อยู่ห่างไปหลายกิโล พระคุณเจ้าไปถามชาวเขาคนนั้นว่า เจ็บมากไหม ชาวเขาคนนั้นบอกพระคุณเจ้าว่า เจ็บมาก แต่ยังเจ็บน้อยกว่าพระเยซูที่ถูกตรึงบนไม้กางเขน
ดังนั้นขอให้เรายอมรับกางเขนแห่งชีวิต กางเขนคือพระพรของพระเป็นเจ้าที่ได้มอบให้แก่เรา สุดท้ายพระคุณเจ้าได้กล่าวถึงบทสวดเวลาเดินรูป 14 ภาค ข้าพเจ้าทั้งหลายของกราบนมัสการพระองค์ด้วยกางเขนอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ |