ภาพ / ข่าว : เลขาวัดนักบุญยอแซฟ อยุธยา

Share |

          วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน 2011 คุณพ่อวิชา หิรัญญการเจ้าอาวาสวัดนักบุญยอแซฟ อยุธยา  เป็นประธานในพิธีมิสซาสมโภชพระวรกายและพระโลหิตพระคริสตเจ้า หลังจากนั้นแล้วแห่ศีลไปยังพลับพลาบริเวณด้านข้างวัด และเข้าไปในวัดโดยมีเด็กๆร่วมโปรยดอกไม้ตลอดการแห่ไปรอบๆวัด

          คุณพ่อได้เขียนเกี่ยวกับพระวรกายและพระโลหิตไว้ในสารวัดและได้นำมาแบ่งปันให้ผู้อ่านได้อ่านกัน
สมโภชพระวรกายและพระโลหิตพระคริสตเจ้า
ขอให้ศีลมหาสนิท นำทางเราจากการไม่รู้จักความจริงมาสู่ความจริง
ขอให้ศีลมหาสนิท นำเราจากความมืดไปสู่ความสว่าง
ขอให้ศีลมหาสนิท นำเราจากความตายไปสู่ความเป็นอมตะ
วันสมโภชพระวรกายและพระโลหิตพระคริสตเจ้าเริ่มต้นในปี ค.ศ.1264 นี่เอง โดยสมเด็จพระสันตะปาปาอูร์บันที่ 4 ในเวลานั้นพระองค์ได้ทรงมอบหมายให้นักบุญโธมัส อากวีนัส เป็นผู้เขียนหรือแต่งบทพิธีกรรมสำหรับใช้ในวันสมโภช
นักบุญโธมัส จึงผูกพันกับวันฉลองนี้มากทีเดียว บทสดุดี/บทสรรเสริญ

          ศีลมหาสนิทต่าง ๆ ยกให้เป็นฝีมือของท่าน เช่น บท “ตานตุม แอร์โก ซาคราแมนตุม” ที่ยังร้องกันมาอยู่ทุกวันนี้ ก็เป็นบทกวีที่ท่านประพันธ์ไว้
ยิ่งกว่านั้น ท่านมีความศรัทธาภักดีต่อศีลมหาสนิทมากทีเดียว คืนหนึ่งขณะที่ท่านกำลังภาวนาในวัดน้อยของคณะโดมินิกันที่เมืองเนเปิลส์ คนที่จัดวัดได้มองดูท่านในขณะภาวนาโดยที่ท่านไม่รู้ตัว เขาเห็นตัวท่านลอยขึ้นไปในอากาศ และได้ยินเสียง พระเยซูเจ้าตรัสกับท่านทางไม้กางเขน “โธมัส เธอได้เขียนเกี่ยวกับฉันดีเหลือเกิน เธออยากได้รางวัลอะไร” โธมัสตอบว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ไม่ต้องการอะไรเลย นอกจากพระองค์”

          คำขอของท่านได้รับการตอบสนอง วันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ.1273 ในขณะท่านกำลังทำมิสซา ท่านได้เข้าฌานอย่างล้ำลึก หลังมิสซา โธมัสได้พูดกับเลขานุการที่ทำงานมากับท่านยาวนานว่า “พระเจ้าทรงเผยสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้แก่ฉัน จนว่าอะไรที่ฉันเคย
เขียน ๆ ไว้เป็นแต่เพียงแค่ฟางบางเบาเท่านั้นเอง” ต่อจากนั้นท่านก็ไม่ได้เขียนหนังสืออะไรอีกเลย สองเดือนหลังจากนั้น ท่านได้สิ้นใจเมื่ออายุ 49 ปี

          นี่เป็นเรื่องของนักบุญองค์หนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการจัดฉลองศีลมหาสนิท ที่จริงเราทุก ๆ คนก็เกี่ยวข้องกับศีลมหาสนิท ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

          ประชาชนในสมัยพระธรรมเก่าทราบดีว่า พระเจ้าทรงรักและทรงเอาใจใส่ประชากร ในขณะที่เขาเดินทางในถิ่นทุรกันดาร ยามที่เขาพบกับอุปสรรคและปัญหาต่าง ๆ ก็จะพากันร้องหาพระเจ้า ยามที่เขาไม่มีอาหารจะกินและไม่มีน้ำจะดื่ม ก็จะมาร้องขอจากพระเจ้าผ่านทางโมเสส พระเจ้าทรงประทาน “มานนา” ซึ่งเป็นอาหารที่ตกมาจากฟ้า ซึ่งพวกเขาไม่รู้จักมาก่อน ให้เป็นอาหารสำหรับพวกเขา และทรงทำให้น้ำออกมาจากหินเพื่อดับกระหายพวกเขา

          ในยุคสมัยพระธรรมใหม่ พระเยซูเจ้าตรัสไว้ชัดเจนว่าพระองค์ทรงเป็น “ปังทรงชีวิตที่ลงมาจากสวรรค์" ปังนี้ประเสริฐกว่ามานนาในอดีต ในแบบที่เปรียบกันไม่ได้ เพราะมานนานั้นกินไปแล้ว พวกบรรพบุรุษของอิสราเอลก็ยังตาย แต่ “ใครที่กินปังนี้จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป”

          พี่น้องครับ ที่บอกว่าเราแต่ละคนสนิทสัมพันธ์กับศีลมหาสนิทไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพราะว่าชีวิตคริสตชน ไม่อาจดำเนินไปได้โดยปราศจากศีลมหาสนิท

          ศีลมหาสนิท ทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสตเจ้า ยิ่งเรารับพระองค์บ่อย ๆ ในขณะที่เราอยู่ในสถานะพระหรรษทาน เราก็ยิ่งเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์มากยิ่งขึ้น

          ศีลมหาสนิทจะก่อให้เกิดผลแห่งความยินดีในตัวของเรา เปรียบได้กับคนที่กินอาหารดี ๆ อย่างพอเหมาะพอควร ก็ทำให้ร่างกายแข็งแรงดีและมีความสุข ก็เช่นเดียวกันกับผู้ที่หล่อเลี้ยงจิตใจด้วยการรับศีลมหาสนิทเสมอ ๆ

          ศีลมหาสนิทยังช่วยลบล้างบาปเบาต่าง ๆ ในตัวเรา เหมือนอาหารที่ให้พลังและมีฤทธิ์ช่วยต่อต้านเชื้อโรคต่าง ๆ ที่จะเข้ามาโจมตีร่างกายของเรา ทำให้เรามีเกราะป้องกันไว้ได้

          และที่สุด ศีลมหาสนิทเป็นเหมือนยาถอนพิษแห่งความตาย คือเป็นยาที่ทำให้เราเข้าสู่ชีวิตแห่งความเป็นอมตะ
ให้เราขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างสูงที่สุด ที่ทรงมอบของขวัญที่พิเศษสุดให้กับมวลมนุษยชาติ โดยทรงมอบพระองค์เองเป็นอาหารที่บันดาลชีวิตนิรันดรให้แก่ผู้ที่รับพระองค์บ่อย ๆ ด้วยความเลื่อมใสศรัทธา