โดย...ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

Share |

          วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน 2011 เวลา 07.00น. คุณพ่อคมสันท์ ยันต์เจริญ เป็นประธานในพิธีมิสซาสมโภชพระวรกายและพระ โลหิตพระคริสตเจ้า ร่วมกับคุณพ่อสำรวย กิจสำเร็จ คุณพ่อเชษฐา ไชยเดช และคุณพ่อศักดิพัฒน์ กิจสกุล พร้อมด้วยซิสเตอร์ สามเณรเล็กจากสามเณราลัยนักบุญยอแซฟ และพี่น้องสัตบุรุษมาร่วมพิธีมิสซาในวันนี้จำนวนมาก ณ วัดนักบุญเปโตร สามพราน

          หลังจากพิธีมิสซาแล้วมีการแห่ศีลไปตามจุดต่างๆ 3 จุด จุดที่ 1 บริเวณพระรูปนักบุญเปโตร    คุณพ่อคมสันท์ ยันต์เจริญ บ้านพักพระสงฆ์ คุณพ่อเชษฐา ไชยเดช และในวัด คุณศักดิพัฒน์ และมีนักเรียนโรงเรียนนักบุญเปโตร  โปรยดอกไม้ตลอดการแห่ศีลด้วย โดยมีคุณครูวนิดา คริสตปกครองและคุณครูวีณา พุทธไทย ดูแลเด็กๆที่มาร่วมโปรยดอกไม้

          คุณพ่อคมสันท์ เทศน์ให้ข้อคิดในโอกาสนี้ว่า วันนี้เป็นวันสมโภชพระกายและพระโลหิตพระคริสตเจ้า  ในสังคมที่มีความเป็นอยู่สะดวกสบายเหมือนปัจจุบันนี้ อาหารและน้ำไม่เป็นปัญหาสำคัญ มีกินมีอยู่ แต่ในหลายประเทศ เช่นแถบแอฟฟริกา อินเดีย      รวมทั้งประเทศไทยในสลำด้วย ยังมีปัญหาอยู่ พวกเขาเข้าใจเรื่องปัญาหาอาหาร  สำหรับเรื่องน้ำก็ยังคงมีปัญหาในเรื่องความเป็นความตาย หลายครั้ง พระเยซูเจ้าทรงเข้ามาเลี้ยงดูประชากรของพระองค์ ในสังคมที่ทำลายบุคคล เช่นในครอบครัว ในโรงงาน   เราต้องทนทุกข์ เนื่องจากเราหิวกระหายความเป็นมิตร หิวกระหายความรัก ความเอื้ออาทรต่อกัน ความเคารพ ถ้าเราแสวงหาความเอื้ออาทร ความรัก เรามีทุกสิ่งทุกอย่าง เราทรมานเพราะขาดบุคคล พระเยซูต้องการประทับอยู่กับเราด้วยความเอื้ออาทร ด้วยความเป็นอยู่ที่ธรรมดา น้ำ ขนมปัง และเหล้าองุ่น พระองค์บอกถึงการประทับอยู่กับเรา เมื่อเราฉลองปังทรงชีวิต เราฉลองการอยู่ร่วมกัน  ผู้ใดกินเนื้อและโลหิตของเราก็จะมีชีวิตนิรันดร

          นักบุญโธมัส อไควนัส กล่าวว่า โลหิตที่น้ำพระทัยของพระบุตร พระองค์รับธรรมชาติเพื่อการเป็นมนุษย์ของเราจะได้สูงส่ง ดังนั้นพระองค์จึงประทานพระกายและพระโลหิตในรูปขิงเหล้าองุ่น เพื่อเราจะได้บริโภคงานเลี้ยงเปี่ยมด้วยความชื่นชมยินดี

          ในวันนั้นพระคริสตเจ้าทรงถูกตรึงไว้ต่อหน้าเราเพื่อเป็นอาหารของเรา ด้วยอาหารศักดิ์สิทธิ์นี้บาปถูกกำจัดไป   พระศาสนจักรมีการถวายแด่ผู้มีชีวิตและผู้ล่วงลับ เพื่อความรอดของทุกคน ศีลมหาสนิทตั้งไว้เพื่อเป็นอาหารของเรา เพื่อประทับความรักอันหาขอบเขตมิได้นี้ พระเยซูทางตั้งศีลศักดิ์สิทธิ์นี้ในอาหารค่ำมื้อสุดท้าย เพื่อเป็นอนุสรณ์ในพระทรมานของพระองค์ เพื่อบรรเทาความทุกข์เศร้า ในการจากไปของพระองค์ นี่เป็นบทความของนักบุญโทมัสอไคนัส ที่คุณพ่อวีรศักดิ์ วนาโรจน์สุวิช ได้เรียบเรียนไว้

          ศีลเป้นเครื่องหมายของการอุทิศตัวของพระองค์เพื่อเรา และศีลจะเกิดไม่ได้ถ้าไม่มีมิสซา เพราะฉะนั้นเราร่วมมิสซา เรากำลังทำศีลศักดิ์สิทธิ์หล่อเลี้ยงเรา พระองค์ประทานอาหารให้เรา เพื่อเราจะได้เติบโตเข้มแข็งมั่นคง ถ้าเราไม่ได้แสวงหาอาหาร แต่เราแสวงหาคุณค่าความเอื้ออาทร

          พระองค์ทราบว่าเรามีความเดือดร้อน พระองค์มาประทับอยู่กับเราอย่างใกล้ชิด มาซ่อนตัวอยู่ในแผ่นปัง นี่คือการเสียสละ   มอบความรักที่พระองค์มีเพื่อความรอดของเรา

          ขอให้การสมโภชองค์พระเยซูในศีลมหาสนิท เพื่อให้เราตระหนักว่าพระองค์รักเรา และมอบตัวพระองค์แก่เรา บันดาลให้จิตใจของเราเข้มแข็ง เพื่ออยู่ในความรักของพระเยซูเจ้า เมื่อเรารักพระเยซู พระองค์บอกกับเราว่าถ้ารักเราก็ทำงานที่เรามอบหมายให้ เมื่อพระองค์รักเรา พระองค์จะใช้เรา เช่นท่านนักบุญเปโตร พระเยซูถามว่า่ท่านรักเราไหม นักบุญเปโตรกล่าวว่ารัก ดังนั้นพระองค์ให้นักบุญเปโตรดูแลพระศาสนจักรของพระองค์ขอองค์พระเยซูในพิธีมิสซาและศีลศักดิ์สิทธิ์เปลี่ยนตัวเราและให้เรารักพระองค์ยิ่งวันยิ่งมากขึ้น