วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม 2011 เวลา09.30น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและทรัพย์สิน และแผนกบริการ กว่า 30 คน พร้อมใจร่วมฉลอง25ปีชีวิตสงฆ์ แด่คุณพ่ออดิศักดิ์ สมแสงสรวง ณ วัดน้อย สำนักมิสซัง โดยคุณพ่ออดิศักดิ์ เป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณ และหลังจากพิธีมิสซาแล้วคุณชลนาท ผู้แทนเจ้าหน้าที่กล่าวสุนทรพจน์ แด่คุณพ่อพร้อมมอบของที่ระลึกและกระเช้าดอกไม้ในโอกาสนี้ด้วย บรรยากาศเต็มไปด้วยความชื่นชมยินดี และตื้นตันใจ ทั้งของเจ้าหน้าที่และของคุณพ่อ ในสุนทรพจน์นั้นมีภาพกิจกรรมต่างๆของคุณพ่อได้รับแล้วรู้สึกประทับใจมาก

          คุณพ่อกล่าวว่า “ขอบคุณ” ที่พวกเราได้รวม ไม่ได้ขอบคุณเฉพาะวันนี้    แต่ขอบคุณสัมพันธภาพความมีน้ำใจขอบคุณตัวตนของพวกเราที่เป็นอยู่ไม่เฉพาะเรื่องดีเท่านั้น รวมทั้งเรื่องไม่ดีด้วย  และมีโอกาสให้เรามีชีวิตร่วมกันมันเป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะมีแต่ส่วนที่ดี มันก็จะมีทั้งส่วนที่ดีและส่วนที่ไม่ดี  แต่เราก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ทั้งที่มันมีสิ่งที่ไม่ดีเพราะว่าเรามีสิ่งดีดีกว่ามากกว่าและสิ่งที่ไม่ดีก็เลยมองว่าเป็นเรื่องเล็กไป และสิ่งที่ดีที่พ่อพูดถึงนั้นก็คือความมีน้ำใจความเอื้ออาทร ความห่วงใย สัมพันธภาพที่เป็นมิตรต่อกันตรงนี้ต่างหากที่มันเป็นสิ่งที่ผูกมัดทำให้เราร่วมงานกัน

      งานก็เป็นวิธีการหนึ่งเท่านั้น แต่สิ่งที่มีความหมาย ความสำคัญมากกว่าก็คือ การมีชีวิตอยู่ด้วยกันและสิ่งที่สำคัญของชีวิตก็คือชีวิตก็ต้องดำเนินไปเพื่อมีความสุข เพื่อหาคุณค่า เพื่อไปสู่เป้าหมายในสิ่งที่เหนือกว่าการมีเงินหรือการมีกินแต่ละวัน มันมากกว่านั้น

      เรามาอยู่ที่นี่ เรามาอยู่ด้วยกันด้วยเหตุผลทั้งนั้น ไม่ใช่เหตุผลเพราะว่าต้องการมีเงินมากๆ ไม่ใช่ เพราะว่าหลายๆคนสามารถไปทำงานที่อื่นได้หาเงินได้มากกว่านี้แต่เขาก็เลือกที่จะอยู่ตรงนี้อยู่ด้วยกัน และไม่คิดจะไปที่อื่น ไม่ใช่เพราะว่าเราไปไม่ได้ แต่เป็นเพราะเรารู้สึกว่าเราอยู่ตรงนี้และมีความสุขผูกพันก็ขอบคุณพวกเราที่อยู่ด้วยกัน และอยู่ในโอกาสที่พ่อฉลอง25ปีชีวิตสงฆ์ด้วย สิ่งที่พ่อพูดเสมอก็คือพ่อไม่สามารถจะทำอะไรได้ แต่พ่อก็วางใจว่าหลังจากที่พ่อให้แนวคิดให้วิธีการกับพวกเรา และพวกเราก็ช่วยกันทำ ที่มันดำเนินไปและประสบความสำเร็จก็เำพราะพวกเราช่วยกันคนละเล็กละน้อย ก็ขอบคุณที่พวกเราช่วยกัน

          ขอบคุณบรรดาพี่ๆทั้งหลายที่ได้มีความสามารถดูและและถ่ายทอดในความเป็นมิตรสหาย พ่อพูดเสมอว่าองค์กรเรามันต่างจากที่อื่นและเราก็ค่อยๆเรียนรู้วัฒนธรรมการเป็นองค์กรของเรา ที่เราได้ถ่ายทอดและทำในแบบที่เป็นอยู่นี้ซึ่งมันไม่ได้ดี อย่าที่พ่อบอกคือมันมีทั้งสิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดี แต่เราก็พยายามเอาสิ่งที่ไม่ดีให้น้อยลง และเพิ่มสิ่งที่ดีมากขึ้นๆ คุณพ่อประทับใจในเล่มของสุนทรพจน์ที่มอบให้ และคุณพ่อได้ชมว่าสวยดี และพ่อเชื่อว่าคนทำหรือพวกเราทั้งหลายตั้งใจทำให้มันดีที่สุดสวยงามที่สุด มันแสดงออกถึงสิ่งที่อยู่ในใจ พ่อเชื่อว่า เราทุกคนให้ใจ ให้ความเต็มใจ ความรู้สึกที่ดี กับพ่อ ณ เวลานี้โอกาสนี้ มันเป็นสิ่งที่มีคุณค่า และสิ่งที่เราตั้งใจนี้และขอให้เรารับคำขอบคุณจากหัวใจของพ่อ และขอพระเป็นเจ้าได้อวยพรพวกเราด้วย ในทุกคำอวยพรที่พวกเพื่อนๆน้องๆ ที่ส่งให้พ่อ พ่อก็ขอมอบคืนให้กับทุกคน