โดย...ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

Share |

ประมวลภาพพิิธีปิดการประชุมของสมณกระทรวงศาสนสัมพันธ์ แห่งนครรัฐวาติกัน กับสภาคริสตจักรโลก ณ อาสนวิหารอัสสัมชัญ

      วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2011 เวลา 14.00น. พิธีปิดการประชุมของสมณกระทรวงศาสนสัมพันธ์ แห่งนครรัฐวาติกัน (Pontifical  Council for Interreligious Dialogue หรือ PCID) กับสภาคริสตจักรโลก (World Council of Churches - Geneva) ณ อาสนวิหารอัสสัมชัญ โดยมีพระอัครสังฆราชเกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พระอัครสังฆราชอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ พระสังฆราชยอแซฟ ชูศักดิ์ สิริสุทธิ์ ประธานคณะกรรมการคาทอลิกเพื่อศาสนสัมพันธ์ และคริสตสัมพันธ์ คุณพ่อพิพัฒน์ รุ่งเรืองกนกกุล  มงซินญอร์วิษณุ ธัญญอนันต์ แห่งสมณสภาเสวนาระหว่างศาสนาเป็นผู้ประสานงานการจัดประชุม พระอัครสังฆราชโจวานนี ดานีเอลโล เอกอัครสมณทูตวาติกันประจำประเทศไทย และคุณพ่อสมเกียรติ บุญอนัตบุตร ซิสเตอร์กฤษดา สาตร์พันธ์ คุณพ่อเสนอ  ดำเนินสะดวก เลขาธิการพร้อมด้วยอาจารณ์ชัยณรงค์  มณเฑียรวิเชียรฉาย และดร.อภิชาติ อินทรวิศิษฎ์ และบรรดาสมาชิกผู้เข้าร่วมการประชุมร่วมในพิธีปิดในวันนี้

      สมณกระทรวงศาสนสัมพันธ์ แห่งนครรัฐวาติกัน (Pontifical Council for Interreligious Dialogue หรือ PCID) กับสภาคริสตจักรโลก (World Council of Churches - Geneva) ได้มีการประชุมกันระหว่างวันที่ 25-28 มกราคม 2011 ที่โรงแรมอโนมาถนนราชดำริ กรุงเทพฯวันนี้เป็นวันสุดท้ายและจะมาทำพิธีปิดด้วยการอธิษฐานภาวนาร่วมกัน ณ อาสนวิหารอัสสัมชัญแห่งนี้

      การประชุมครั้งนี้นับเป็นการประชุมครั้งที่ 3 ก่อนหน้านี้ สมณกระทรวงศาสนสัมพันธ์แห่งนครรัฐวาติกันได้มีการประชุมกับสภาคริสตจักรโลกมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกเป็นการประชุมในปี ค.ศ. 2006 ที่เมืองลารีอาโน ประเทศอิตาลี และครั้งที่สองในปี ค.ศ.2007 ที่เมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศส โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือถึงแนวทางการแพร่ธรรมโดยที่ให้ความเคารพต่อผู้นับถือศาสนาอื่น การประชุมครั้งที่สองที่ผ่านมายังผลให้มีเอกสารฉบับร่างว่าด้วย การเป็นประจักษ์พยานคริสตชนในโลกที่มีหลายหลากศาสนา : ข้อเสนอแนะระเบียนวิธีปฏิบัติ (Christian witness in a multireligious  world : Recommendations for a code of conduct) บัดนี้ ทั้งฝ่ายคาทอลิกและคริสเตียนได้มาประชุมกันอีกเป็นครั้งที่ 3 ที่กรุงเทพฯมหานคร เพื่อพิจารณาร่างเอกสารดังกล่าวให้ได้ข้อยุติ และประกาศเป็นแนวทางสำหรับคริสตชนทุกนิกายทั่วโลก ประมาณเดือนมีนาคม 2011 ทั้งนี้โดยมีมงซินญอร์วิษณุ ธัญญอนันต์ แห่งสมณสภาเสวนาระหว่างศาสนาเป็นผู้ประสานงานการจัดประชุมครั้งนี้

      อนึ่ง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ให้เกียรติมากล่าวต้อนรับผู้เข้าประชุมในพิธีเปิดเมื่อวันอังคารที่ 25 มกราคม เวลา 18.00น.

      ผู้ที่มาประชุมเป็นผู้แทนของทั้งฝ่ายคาทอลิก และฝ่ายคริสเตียน ซึ่งได้เข้าร่วมประชุมใน 2 ครั้งแรกมาแล้ว ต่างมีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ประกอบด้วยผู้ที่ทำงานด้านคริสตศาสนสัมพันธ์ในประเทศ / ทวีปต่างๆ (ไม่ได้ประจำอยู่เฉพาะที่วาติกัน  หรือที่เจนีวาเท่านั้น แต่มาจากประเทศต่างๆทั่วโลก) บัดนี้การประชุมได้ข้อยุติแล้ว จึงต่างมาขอบคุณพระเจ้าด้วยการอธิษฐานภาวนาร่วมกัน ในวันนี้ โดยที่มีคณะขับร้องประสานเสียง Christian Chorus ภายใต้การอำนวยเพลงของ รศ.จารุณี  หงษ์จารุ ขับร้อง 1 เพลงได้แก่เพลง Majesty ขณะเริ่มการอธิษฐานภาวนา และจบการอธิษฐานฯ ด้วยอีก 2 เพลงที่มีความสง่างามและไพเราะ    อีกทั้งมีความหมายอย่างมากสำหรับการอธิษฐานภาวนาเพื่อเอกภาพของคริสตชน นั่นคือเพลง We worship  as one และเพลงสุดท้าย ได้แก่ Hallelujah Chorus ของ Georg Frederic Handel

      Christian Chorus ประกอบด้วยนักร้องชาย - หญิง ทั้งคาทอลิกและคริสเตียนเป็นคณะนักร้องที่เริ่มต้นจากการขับร้องในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ในปี ค.ศ.1998 ณ กรุงเทพมหานคร และในปีปีติมหาการุณย์ ค.ศ.2000 ได้ขับร้องในพิธีเฉลิมฉลองที่สนามกีฬาธรรมศาสตร์ รังสิต ด้วยบทเพลงต่างๆ ที่เรียงร้อยแสดงถึงประวัติศาสตร์ความรอดของมนุษยชาติ หลังจากนั้นทุกปี Christian Chorus เป็นคณะนักร้องที่ขับร้องในการอธิษฐานภาวนาเพื่อเอกภาพของคริสตชนเป็นประจำทุกปี  ครั้งล่าสุดได้ขับร้องที่โบสถ์แม่พระฟาติมาเมื่อวันอาทิตย์ที่เพิ่งผ่านมา

      พิธีอธิษฐานภาวนาเพื่อเอกภาพในวันนี้ มีนักเรียนทั้งฝ่ายคาทอลิก และคริสเตียนมาร่วมด้วยเป็นการแสดงให้เห็นว่า บรรดาเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของพระศาสนจักรจะได้ประจักษ์ในความมุ่งมั่นต่อการสร้างเอกภาพและความเป็นหนึ่งเดียวกัน โดยผู้ใหญ่ของยุคนี้ และให้เหล่าอนุชนสืบสานดำเนินการต่อไป จนกว่าบรรดาคริสตชน ผู้เป็นลูกของพระบิดาเดียวกัน มีความเป็นเอกภาพ มีความเป็นหนึ่งเดียวกันในที่สุด