โดย...ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

Share |

ประมวลภาพมิสซาคำนับพระสงฆ์โอกาสปีใหม่และเกษียณผู้อาวุโสฝ่ายงานอภิบาลและฝ่ายงานธรรมทูต

          วันอังคารที่ 4 มกราคม 2010 ที่ผ่านมา เวลา 10.30น. คุณพ่อปิยะชาติ มะกรครรภ์ ผู้อำนวยการฝ่ายงานอภิบาล ร่วมกับ  คุณพ่อสมเกียรติ บุญอนันตบุตร ผู้อำนวยการฝ่ายธรรมทูตอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ คุณพ่อสุพจน์ ฤกษ์สุจริต คุณพ่ออภิเดช สุภาจักร์ คุณพ่อเอกรัตน์ หอมประทุม คุณพ่อสราวุธ อมรดิษฐ์ เป็นประธานในพิธีมิสซาต้อนรับปีใหม่ และพิธีเกษียณอายุผู้อาวุโส จำนวนทั้ง 3 ท่าน ของทั้งสองฝ่ายงาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทั้ง2ฝ่ายและเจ้าหน้าที่ชมรมนักธุรกิจ รวมจำนวน 30 ท่าน

          หลังจากพิธีมิสซาแล้ว คุณอภิวัฒน์ เขียวแก้วผู้แทนเจ้าหน้าที่กล่าวคำนับคุณพ่อในโอกาสปีใหม่พร้อมตัวแทนมอบของที่ระลึก จากนั้นได้เชิญคุณพ่อแต่ละท่านกล่าวให้ข้อคิดในโอกาสนี้ จากนั้นรับประทานอาหารร่วมกันโดยมีคุณพ่อสมเกียรติ เป็นผู้นำภาวนา และเริ่มรับประทานอาหาร ต่อมาเป็นกิจกรรม แฟนพันธุ์แท้ ซึ่งจัดทำโดยแผนกคริสตศาสนธรรมอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ทุกคน ได้ร่วมกิจกรรมนี้อย่างสนุกสนาน ตามด้วยpresentation สำหรับผู้สูงอายุทั้ง 3    ท่านและจากนั้นเจ้าหน้าที่ทุกท่านร่วมมอบมาลัยกรแด่ท่านทั้ง 3 พร้อมทั้งติดสติ๊กเกอร์รูปหัวใจเล็กๆเป้นสัญลักษณ์สื่อความหมายถึงความรักความผู้พันที่ทำงานร่วมกันมานาน

          ท้ายที่สุดแล้วเชิญคุณพ่อสุพจน์ ฤกษ์สุจริต กล่าวอวยพรผู้อาวุโสทั้ง 3 ท่าน และกล่าวปิดงาน

คุณพ่อปิยะชาติได้กล่าวให้ข้อคิอในบทเทศน์วันนี้ว่าพ่อคิอว่าในวันนี้ที่เรามารวมกัน   เรามาเริ่มงานในปีใหม่ในวันนี้โดยการที่เรามาขอพรจากพระเป็นเจ้า ก็คิดว่าเป็นสิ่งที่ดี และเราก็ทบทวนชีวิตของเรา    แน่นอนว่าเราไม่ได้มีชีวิตเฉพาะในครอบครัวของเราซึ่งจะมีความสัมพันธ์ที่ดี ในที่ทำงานเราเจอเพื่อนๆของเรา ผู้ร่วมงาน หลายๆครั้งมีเรื่องที่เราพอใจ ไม่พอใจ ทั้งegoของเราเอง egoของ  เพื่อนเรา แต่ถ้าเกิดว่าเราไม่รู้ และก็ไม่เตือนตัวเองเสมอว่าเราทำงานให้ใคร เราก็อาจจะหลงตัวเองได้ บางคนอาจจะเก่งกว่าคนอื่น เราก็คิดว่าเราเป็นมากกว่าคนอื่น บางคนคิดว่าเรามีความสามารถมีหรือเป็นอะไรมากกว่าคนอื่น  เราก็จะคิดว่าเราเป็นกว่าคนอื่นแต่ที่จริงแล้วต่อหน้าพระเป็นเจ้าเราเท่าเทียมกัน พ่อที่ยืนที่นี่ก็เท่าเทียมกันกับพวกเธอแตกต่างแค่ตรงที่หน้าที่ความรับผิดชอบในแผนกของเราก็เช่นเดียวกันในบรรยากาศแบบนี้ ถ้าเราคิดว่าเราเตือนตัวเองได้เสมอ เราก็จะทำงานแบบช่วยกัน ใครอาจจะทำได้ช้า  เราก็ยินดีที่จะช่วย ใครที่อาจผิดไปบ้างเราก็ให้คำแนะนำ ใครที่ไม่รู้เรารู้มากกว่าเราก้ช่วยเหลือ และสิ่งต่างๆเหล่านี้ เราต้องเริ่มจากตัวเราก่อน ไม่ต้องเริ่มจากใคร ไม่ต้องรอให้เขาทำดีให้กับเรา เราไม่ต้องรอให้เขามาง้อมาคุยกับเราก่อน ถ้าอย่างนั้นต่างคนต่างอยู่ก็ยังได้ ถ้าไม่อย่างนั้นสิ่งดีดีก็จะไม่เกิดขึ้น และไม่สามารถเกิดขึ้นได้ด้วย และพ่อหวังว่าในปีนี้ขอให้บรรยากาศการทำงานของเราเป็นบรรยากาศที่ดี เป็นบรรยากาศแบบเอื้ออาทรกันและก็เอาใจเขามาใส่ใจเราให้มากขึ้น

      เราก็เพิ่งจะปิดทำงานมาหลายวันเราก็ไปเที่ยว หลายคนก็คงจะสนุก และก่อนปิดงานเอากิจกรรมงานวันสิ้นปีก็สนุกสนาน และวันนี้คือของจริง ที่เราจต้องเริ่มงานกันแล้ว งานเลี้ยงสนุกสนานก็จริงแต่มันก็มีวันจบ ถ้าเรามีความสุขได้เฉพาะที่มีงานเี้ลี้ยงชีวิตมันเป็นแค่มายา แต่นี่คือการทำงานในแต่ละวันของเราเป็นของเจริง   ถ้าเราสามารถมีความสุขได้ในการทำงานของเราในแต่ละวันนั่นคือสวรรค์ ตั้งแต่วันนี้ ขอให้เรามีความสุขกับการทำงาน มีความสุขกับการที่ได้พบเพื่อนๆ ถึงแม้จะไม่ใช่เพื่อนใหม่ แต่ว่าเราก็มีจิตใจใหม่    ในปีใหม่ให้มีความเอื้ออาทรต่อกันมาที่สุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งแด่ผู้อาสุโสของเราทั้ง 3

      และวันนี้เราก็มีพิธีจัดให้ เราต้องเราเข้าใจว่างานที่จัดให้นั้นไม่ได้เป็นการตอกย้ำว่าแก่แล้ว  แต่เป็นการตอกย้ำว่านี่คือพระพรของพระเป็นเจ้าที่มอบให้กับรุ่นพี่ของเรา ทำงานมาตั้ง 10 กว่าปี ประมาณ18ปี สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือว่าในพระคัมภีร์ก็บอกอยู่แล้วว่าคนที่มีผู้อาวุโส ก็ได้รับอวยพร ไม่ได้อวยพรที่อายุมากแต่ว่าเพราะมีปรีชาญาณ ในวันนี้ให้เราสวดขอเป็นพิเศษสำหรับท่านทั้ง3ที่วันนี้เราจะทำพิธีให้เป็นพิเศษ แต่ว่าไม่ใช่ว่าทำพิธีเกษียณแล้วจะและปลดเกษียณพ่อไม่อยากใช้คำว่าปลดเกษียณ เราก็ยังเจอ  และยังทำงานกันอยู่ และท่านทั้ง 3 ก็เป็นตัวอย่างในการทำงานให้กับเรา พ่อก็หวังว่าเราที่เหลืออยู่ให้ดูท่านทั้ง 3 และอยู่ทำงานให้ครบ 60   และอย่างน้อยพระก็อวยพร แล้ว พวกเราก็พยายามอยู่กันด้วยความรัก อยู่ในพระพรของพระเป็นเจ้า อายุมากอายุน้อยเราก็สามารถทำงานให้พระเป็น เจ้าได้ ก็ขอพระเป็นเจ้าได้อวยพรให้เริ่มปีใหม่อย่างมีความสุขโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำงานของเรา   ขอให้เราเป็นผู้ทำให้คนที่อยู่รอบข้างมีความสุข อย่าให้เรากลายเป็นจุดทำให้คนที่ยู่รอบข้างเราต้องระทมทุกข์ พ่อเชื่อว่าในปีนี้เราคงจะเริ่มจากตัวเรา จากบ้านเรา จากที่ทำงานทั้ง 2 ฝ่าย และร่วมสร้างบรรยากาศแห่งความสุขแท้จริงขอพระเป็นเจ้าอวยพรทุกท่าน