ภาพ / ข่าว : อุดมสาร

Share |

          กรุงเทพฯ / สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย ร่วมกับสถานเอกอัครสมณทูตวาติกันประจำประเทศไทย จัดสมโภชนักบุญเปโตรและเปาโล ฉลองปีที่ 5 แห่งสมณสมัยของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 16 พิธีมอบเครื่อง   อิสริยาภรณ์ประดับเกียรติยศแก่คริสตชน พระสงฆ์ นักบวช จำนวน 12 ท่าน และขอบคุณพระอัครสังฆราชซัลวาตอเร เปนนักคีโอ เอกอัครสมณทูตวาติกันประจำประเทศไทย โอกาสรับหน้าที่เอกอัครสมณทูตวาติกันประจำประเทศอินเดีย โดยพระอัครสังฆราชหลุยส์ จำเนียร สันติสุขนิรันดร์    ประธานสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทยเป็นประธานในพิธ๊มิสซาบูชาขอบพระคุณ พร้อมด้วยบรรดาพระสังฆราช พระสงฆ์  นักบวชชาย-หญิง และสัตบุรุษจำนวนมาก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน 2010 ณ อาสนวิหารอัสสัมชัญ

          ในโอกาสพิเศษนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงประทานเครื่องอิสริยาภรณ์ประดับเกียรติยศอัศวินของพระสันตะปาปาแก่คริสตชน พระสงฆ์ นักบวช จำนวน 12 ท่าน โดยพระสมณทูตเป็นผู้มอบเครื่องอิสริยาภรณ์แห่งสันตะสำนัก    อันเป็นเครื่องประดับเกียรติยศจากสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ที่ทรงมอบให้แก่ผู้ที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่พระศาสนจักรและสังคมในสาขาต่างๆ ดังนี้

          เครื่องประดับเกียรติยศพระสันตะปาปานักบุญเกรโกรีผู้ยิ่งใหญ่ ขั้นผู้บัญชาการใหญ่ (Knight Commander of the Order of St. Gregory the Great) ได้แก่ คุณพอลแมรี่ สุวิช สุวรุจิพร และคุณอาดรีอาโน กวี อังศวานนท์

          เครื่องประดับเกียรติยศพระสันตะปาปานักบุญเกรโกรีผู้ยิ่งใหญ่ (Knight of the Order of St. Gregory the Great) ได้  แก่ ดร.นิโคลาส นิติ ไมเยอร์ คุณโยเซฟ ปราโมทย์ พูลโภคผล และดร.คริสโตเฟอร์ อภิชาต อินทรวิศิษฏ์

          เครื่องประดับเกียรติยศพระสันตะปาปานักบุญเกรโกรีผู้ยิ่งใหญ่ อัศวินหญิง (Dame  of the Order of St. Gregory the Great) ได้แก่คุณหญิง เทเรซา ปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล คุณมารีอาอรอนงค์ ซื่อเพียรธรรม ด.ร.เทเรซา วิรัชนี พรหมสุนทร      และคุณอักแนส พัชรา พูลโภคผล

          เหรียญพระสันตะปาปา (Pontifical Cross “Pro Ecclesia et Pontifice”)    เหรียญพระสันตะปาปา  ไม่ใช่เครื่องประดับ เกียรติยศเช่นอัศวิน แต่เป็นเครื่องหมายแสดงความขอบคุณของพระศาสนจักรสากลโดยปกติแล้ว พระสันตะปาปาจะทรงมอบเหรียญ เกียรติยศนี้แก่พระมหากษัตริย์ หรือผู้นำประเทศในโอกาสที่เสด็จเยือนประเทศนั้น ในปัจจุบันสันตะสำนักยังมอบเหรียญพระสันตะปาปาให้แก่พระสงฆ์และนักบวชเป็นการขอบคุณที่ได้อุทิศตนทำคุณประโยชน์รับใช้พระศาสนจักรอย่างยาวนาน    นอกเหนือจากหน้าที่ปกติแล้ว ได้แก่ คุณพ่อชาร์ส เวลาร์โด คณะซาเลเซียน ภราดาประทีป มาร์ติน โกมลมาศ คณะเซนต์คาเบรียล   และเซอร์ลอเรตตา โยเซฟ แซมโบ คณะเซนต์ปอลเดอชาร์ตร

          จากนั้นคุณพอลแมรี่ สุวิช สุวรจิพร เป็นผู้แทนกล่าวขอบคุณสมเด็จพระสันตะปาปาในนามของผู้ได้รับเครื่องอิสริยาภรณ์
อาจารย์ชัยณรงค์ มณเทียรวิเชียรฉาย ผู้ได้รับเครื่องอิสริยาภรณ์ประดับเกียรติยศพระสันตะปาปานักบุญเกรโกรรีผู้ยิ่งใหญ่    บุคคล แรกๆ ของพระศาสนจักรไทย กล่าวต้อนรับทุกๆท่าน “ขอร่วมแสดงความยินดีกับทุกๆท่าน และขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ชมรมอัศวิน แห่งประเทศไทย”

          จากนั้นพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทยขอบคุณพระอัครสังฆราชซัลวาติเร เปนนักคีโอ โอกาสได้รับแต่งตั้งจากสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ให้ไปรับหน้าที่เอกอัครสมณทูตวาติกันประจำประเทศอินเดีย โดยพระสังฆราชหลุยส์จำเนียร สันติสุขนิรันดร์ กล่าวขอบคุณและมอบดอกไม้

          พระอัครสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช รองประธานสภาพระสังฆราชคาทอลิกฯมอบของที่ระลึกแด่สมณทูต
ภราดาศิริชัย ฟอนซีกา ประธานสหพันธ์อธิการเจ้าคณะนักบวชในประเทศไทย และเซอร์ไอรีน ชำนาญธรรม มอบของที่ระลึกแด่พระสมณทูต

          พระสมณทูตกล่าวขอบคุณสภาพระสังฆราชคาทอลิกฯ ที่ช่วยจัดงานในวันนี้  “เป็นการแสดงออกถึงความรักความซื่อสัตย์ของพระศาสนจักรในประเทศไทยต่อสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 และข้าพเจ้าจะนำคำกล่าวของพระคุณเจ้าจำเนียร    สันติสุขนิรันดร์ ขึ้นทูลสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ด้วย

          ขอถือโอกาสนี้กล่าวคำอำลาทุกๆท่าน ยังจำช่วงเวลาที่มาถึงประเทศไทยในวันแรกได้เมื่อ 7 ปีที่แล้ว เป็นอย่างดี  ขอบคุณสำหรับการให้การต้อนรับและการสนับสนุนของทุกๆท่าน และรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งในวันนี้ที่ได้ทำหน้าที่ประดับเครื่องอิสริยาภรณ์ของสมเด็จพระสันตะปาปา ซึ่งถือว่าเป็นการแสดงออกถึงความชื่นชมที่สมเด็จพระสันตะปาปามีต่อการอุทิศตนของบรรดาประชากรของพระเจ้าในพระศาสนจักรแห่งประเทศไทย”

          วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน ค.ศ.2010 สถานเอกอัครสมณทูตวาติกันประจำประเทศไทย ได้จัดงานเลี้ยงรับรองสำหรับสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย เอกอัครราชทูต ทูตานุทูต ผู้แทนจากภาครัฐบาล ผู้แทนองค์กรต่างๆ ที่โรงแรมแมนดาริน  โอเรียน เต็ล และมีพิธีกล่าวขอบคุณอำลาพระสมณทูตโดยคณบดี ซึ่งเป็นเอกอัครราชทูตจากโมร๊อกโก

          จากนั้นพระสมณทูตแนะนำหนังสือ “มิ่งมิตรมิ่งขวัญ” ซึ่งจัดทำขึ้นโอกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเยือนนครรัฐวาติกันครบ 50 ปี วันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ.2010รวบรวมและเรียบเรียงโดยพชรดนย์ ศรีนวรัตน์ และคุณจริยาพรรณ แก้วสุวรรณ