Share |

ประมวลภาพพิธีมิสซาปลงศพโทมัส ติ่ง สมแสงสรวง

โดย.....ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

          เมื่อวันอังคารที่ 29 มิถุนายน 2010 เวลา 15.00น. คุณพ่ออดิศักดิ์ สมแสงสรวง เป็นประธานในพิธีมิสซาปลงศพ โทมัส ติ่ง สมแสงสรวง บิดา ร่วมกับคุณพ่อสานิจ สถะวีระวงส์ คุณพ่อทนุ เจษฎาพงษ์ภักดี โดยมีพระอัครสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์    โกวิทวาณิช พระสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์ วีระ อาภรณ์รัตน์ และพระสังฆราชมีคาแอล บุญเลื่อน หมั้นทรัพย์ พร้อมด้วยพระสงฆ์กว่า50องค์ บรรดาญาติมิตรมาร่วมอาลัยเป็นครั้งสุดท้ายจำนวนมาก ณ วัดเซนต์ร็อค ท่าไข่ หลังจากพิธีมิสซาแล้วเคลื่อนศพไปยังสุสานวัดเซนต์ร็อค

โทมัส ติ่ง (เจริญ) สมแสงสรวง     เกิดวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2462 รับศีลล้างบาปที่วัดพระนามกรเยซู จังหวัดชลบุร ี เคยใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเณรบางช้างอยู่ช่วงหนึ่ง   จากนั้นได้มาอาศัยอยู่กับครูหยินและสอนเรียนที่โรงเรียนของวัดเซนต์ร็อค ได้แต่งงานกับโรซา สุกใส มีบุตรธิดารวม 5 คน คือ

1.นางสาวกาทารีนา พรสวรรค์ สมแสงสรวง
2.ซิสเตอร์มารีอา อัญชลี สมแสงสรวง (เสียชีวิต)
3.คุณพ่ออิกญาซีโอ อดิศักดิ์ สมแสงสรวง
4.นางสาวลูซีอา อัจฉรา สมแสงสรวง
5.นายร็อค อัศวิน สมแสงสรวง

          นอกจากการเลี้ยงดูครอบครัวทางฝ่ายกายแล้ว สิ่งที่พ่อได้ปลูกฝังไว้ให้กับลูกๆ มาจนถึงทุกวันนี้ คือ การสวดพร้อมกันทุกคืน แม้จนกระทั่งในเวลาที่พ่อล้มป่วย พวกเรายังร่วมสวดกับพ่อทุกคืน

          พ่อเริ่มป่วยเป็นพาร์กินสัน หลังจากที่แม่เสียชีวิต ในปี 2532

          จนกระทั่งวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2549 ช่วงสาย พ่อลุกขึ้นมารับประทานอาหารเช้าไม่ได้ จึงรู้ว่าพ่อมีอาการผิดปกติทางสมอง  ในช่วงเย็นได้นำพ่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ นายแพทย์ โสภณรัชต์ สิงหจารุ ได้ทำการตรวจวินิจฉัย  และแนะนำการรักษาด้วยการผ่าตัดเพื่อรักษาชีวิต จากการที่เลือดไหลลงไปกดก้านสมอง อาการที่ตามมาคืออัมพาตและพูดไม่ได้เพราะสมองส่วนที่ควบคุมการพูดถูกทำลายไป คืนนั้นพ่อได้ผ่านวิกฤตมาได้ ในสภาพที่ช่วยตัวเองไม่ได้เลย พ่อได้กลับมาอยู่ที่บาน ในเวลาเดียวกันก็ได้รับคำปรึกษา และการดูแลของคณะแพทย์ของทางโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์อย่างใกล้ชิด

บ่ายวันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2553 พ่อมีอาการอ่อนแรง จึงได้พาพ่อไปโรงพยาบาล แพทย์พบว่า หัวใจเต้นผิดจังหวะ จึงรีบส่งพ่อเข้าห้องไอ ซี ยู เพื่อช่วยชีวิตโดยด่วน แต่อาการของพ่อทรุดหนักลง และจากไปเมื่อเวลา 16.35 น.

พวกเราขอขอบคุณ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู พระอัครสังฆราชฟรังซิสเซวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช คณะสงฆ์ คณะเซอร์ คณะซิสเตอร์ คณะแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ตลอดจนผู้มีน้ำใจดีทุกท่าน   ที่ได้ช่วยเหลือ ให้กำลัง ใจแก่พวกเรา ตลอดระยะเวลาในช่วงที่พ่อเจ็บป่วย จนถึงการจัดงานศพของพ่อ ให้ผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น

ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
ลูกทุกคนของพ่อ