ภาพ คุณพ่อวิทยา แก้วแหวน / ข่าวรายงานโดยแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

ประมวลภาพน้ำท่วมบริเวณวัดมารีย์สมภพ บ้านแพน จ.อยุธยา

สวัสดีครับ ปีนี้สถานการณ์น้ำท่วมเป็นประเด็นใหญ่สำหรับบ้านเมืองของเรา หลายๆ วัดในอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ เป็นต้นวัดในเขตการปกครองที่ 6 หลาย ๆวัด ตอนนี้กำลังประสบปัญหาน้ำท่วมเช่นเดียวกัน ผมได้สอบถามไปยัง วัดมารีย์สมภพ บ้านแพน ว่า ณ ขณะนี้สถานการณ์ที่นั่นเป็นอย่างไร คุณพ่อวิทยา แก้วแหวน เลยรายงานข่าวมาให้รับรู้กันครับ

วันนี้ ( วันที่ 22 ตุลาคม 2010 ) คุณพ่อวิทยา แก้วแหวน เจ้าอาวาสวัดมารีย์สมภพ บ้านแพน เล่าให้ฟังว่า สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา เพียงแต่ยังไม่ถึงบริเวณด้านหน้าวัด ท่วมบริเวณด้านหน้าตลาด แต่มาวันนี้ น้ำได้ท่วมทั้งหมดแล้ว ทั้งบริเวณถนนด้านหน้าวัด รวมถึงบ้านสัตบุรุษในบริเวณนั้นด้วย พ่อมาอยู่ที่วัดนี้ 2 ปี ปีที่แล้วน้ำไม่ท่วมขนาดนี้ แต่ปีนี้ คาดการณ์ว่าน้ำจะท่วมเหมือนเมื่อ 3 หรือ 4 ปี ที่เคยท่วมมา ขณะนี้ น้ำเพิ่มขึ้น 15-20 ซม. และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

ณ ขณะนี้ความช่วยเหลือ ก็เพียงขอคำภาวนาจากพี่น้อง ช่วยให้น้ำลดโดยเร็ววัน คุณพ่อได้ส่งรูปมาให้ เริ่มต้นด้วยการป้องกันน้ำท่วมสุสานวัดมารีย์สมภพ ตามมาด้วยบรยากาศน้ำท่วมบ้านสัตบุรุษบริเวณรอบวัด ภาพน้ำท่วมถนนจากเชิงสะพันตลาดบ้านแพนมาถึงหน้าโรงเรียน มีภาพจากน้ำเริ่มท่วมที่ตลาดอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ขอพี่น้องช่วยภาวนาเพื่อสัตบุรุษวัดมารีย์สมภพเป็นพิเศษ รวมถึงคุณพ่อได้ส่ง สารวัดในวันอาทิตย์นี้ มาให้ได้ทราบถึงสถานการณ์ปัจจุบันโดยทั่วกันครับ

จากใจพ่อ ( เจ้าอาวาสวัดมารีย์สมภพ ) สารวัดอาทิตย์นี้ครับ

ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา พ่อได้ออกตัวไว้ว่า พ่อคงทำนายเรื่องดินฟ้าอากาศไม่แม่นยำเท่ากับกรมอุตุนิยมวิทยา แต่ก็ได้คาดไว้ว่า “ปีนี้น้ำคงไม่ท่วม”  ก็เป็นจริงตามที่พ่อได้ออกตัวไว้ เพราะวันนี้น้ำท่วมสูงขึ้นเร็วมากจนต้องปิดประตูทางเข้าที่ติดกับโรงอาการแล้ว โดยมีน้ำท่วมสูงเกือบถึงคอแล้ว ตามถนนจากเชิงสะพานมาจนถึงหน้าโรงเรียนก็มีน้ำสูงขึ้นมากมาโดยตลอด ตอนนี้ก็กลายเป็น “แม่น้ำน้อย” สายที่สองไหลผ่านคู่ขนานกับที่หน้าบ้านพ่อแล้ว (เช้าวันศุกร์ที่ 22 ที่ผ่านมา)  เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “เหนือฟ้ายังมีฟ้า” ยังมีความจริงอีกหลายเรื่องที่มากเกินกว่าความจริงเท่าที่ตาเห็น มากเกินไกลโพ้นไปจากที่เราคาดคิดไว้

เกี่ยวกับเรื่องน้ำท่วมที่วัดของเรานี้ มีเรื่องเล่าหลายเรื่อง ที่คณะครูและพี่น้องหลายท่านถ่ายทอดประสบการณ์จากอดีตที่ผ่านมาให้พ่อฟังหลายแง่หลายมุมหลายช่วงเวลา ทำให้พ่อเข้าใจได้ถึงความยากลำบากของผู้คนในสมัยก่อนๆที่วัดและโรงเรียนของเราเป็นอย่างดี ทำให้รู้ว่า พวกท่านเหล่านั้น “รัก” และ “สู้ทน” เพื่อรักษาวัดและโรงเรียนของเรามาด้วยความยากลำบากตลอดมา มาในช่วงเวลาที่พ่อเข้าทำหน้าที่เจ้าอาวาสของพี่น้องและผู้บริหารโรงเรียนราษฎร์บำรุงศิลป์ พ่อก็อยากสานต่อคุณความดีของคนรุ่นก่อนๆอย่างเต็มความสามารถด้วยเช่นกัน  อย่างไรก็ตาม พ่อก็มิได้เก่งกาจอะไรมากมายนัก ยังคงต้องได้รับคำแนะนำและร่วมกันเดินไปพร้อมกับพี่น้อง บนเส้นทางเดินของน้ำที่ไม่มีใครสามารถคาดหมายได้ถูกต้องแม่นยำครบถ้วน โดยเฉพาะเมื่อดินฟ้าอกาศวิปริศไม่คงเส้นคงวาเหมือนแต่ก่อนที่เคยเป็นมา

เมื่อพี่น้องมาวัดอาทิตย์นี้ ก็จะเห็นว่าที่ประตูสุสานวัดของเราได้รับการป้องกันน้ำไว้อย่างหนาแน่นแล้ว ภายในสุสานจะตั้งเครื่องสูบน้ำอัตโมมัติไว้ด้วยหนึ่งเครื่อง เพื่อสูบนำที่ซึมเข้าไปได้ ซึ่งคาดว่าจะซึมเข้าไปไม่มากนัก เพราะเราได้ปรับปรุงกำแพงใหม่เพื่อป้องกันน้ำซึมผ้านไว้โดยรอบก่อนน้ำจะมาถึงแล้ว ที่พ่อยังห่วงอยู่ ก็เห็นจะเป็นแนวคันดินริมแม่น้ำน้อยที่น้ำขึ้นสูงอย่างต่อเนื่องเหลืออีกประมาณครึ่งเมตรก็จะล้นข้ามเข้ามาในบริเวณวัดของเราได้ คนงานของวัดเล่าให้ฟังว่า เมื่อน้ำท่วมใหญ่ในครั้งที่ผ่านมา ต้องตั้งกระสอบทรายไว้สองชั้นตลอดแนวถึงจะป้องกันน้ำล้นเข้ามาได้ ก็คาดการณ์ไม่ถูกว่าน้ำจะมากเหมือนช่วงปีนั้นหรือไม่ หรือจะมากกว่าก็ไม่แน่ แต่พระสงฆ์ท่านหนึ่งแนะนำพ่อว่า “ยอมเป็นตัวตลกทำอะไรไปในวันนี้ ดีกว่านำตาตกในวันหน้า หากไม่เสี่ยงลงมือป้องกันไว้ก่อน” พ่อก็เลยคิดว่าจะลงมือเตรียมการรับมื่อเหมือนปีที่น้ำท่วมมากในปีนั้นตั้งแต่วันนี้ ไม่ทราบว่าพี่น้องคิดอย่างไร

พ่อเชื่อแน่ว่าพี่น้องแต่ละบ้านคงต้องได้รับผลกระทบบ้างไม่มากก็น้อยเกี่ยวกับน้ำท่วมในขณะนี้ เชื่อแน่ว่าพี่น้องก็คงเตรียมทำนั่นทำนี้เหมือนที่พ่อกำลังคิดทำอยู่ที่วัด หากพี่น้องป้องกันน้ำท่วมที่บ้านได้สำเร็จไม่ว่าจะอยู่ในระดับไหน หรือจัดการเรื่องน้ำท่วมได้ในระดับใดระดับหนึ่ง พ่อเชิญชวนให้พี่น้องมองดูรอบๆบ้านของพี่น้อง หากพระเจ้าจะอวยพรให้พี่น้องจัดการเกี่ยวกับน้ำท่วมในบ้านของพี่น้องได้สำเร็จ นั่นก็หมายความว่าทรงอำนวยพระพรให้กับเรา เพื่อให้เราเป็นดังพระองค์ที่จะต้องส่งยื่นพระพรที่ได้รับไปช่วยเหลือผู้อื่นที่ลำบากมากยิ่งกว่า เราจะภูมิใจและรู้สึกเป็นสุขได้อย่างไร ในเมื่อผู้คนรอบข้างต้องทนทุกข์เกี่ยวกับน้ำท่วมตำหูตำตาเราอยู่ทุกวัน  เราลูกวัดมารีย์สมภพจะเป็นสุขอยู่ได้อย่างไร เมื่อสัมผัสรับรู้ว่าคนอีกมากมายที่ยังคงทนทุกข์กับภัยน้ำท่วม โดยเรายังมิได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือพวกเขาแต่อย่างใด
 
กำหนดการถวายมิสซาฯประจำอาทิตย์เป็นไปตามปรกติ