พิธีเสกไฟหน้าอาสนวิหารอัสสัมชัญ

โดย...ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

เมื่อวันเสาร์ที่ 3 เมษายน 2010 เวลา 19.00น. คุณพ่อสานิจสถะวีระวงส์ อุปสังฆราชอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ  เป็นประธาน ในพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณโอกาสพิธีตื่นเฝ้าและสมโภชปัสกา       พิธีเสกไฟบริเวณหน้าอาสนวิหารอัสสัมชัญ ร่วมกับคุณพ่อเอกรัตน์ หอมประทุม ผู้จัดการแผนกคริสตศาสนธรรมอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ คุณพ่อณรงค์ รวมอร่าม คุณพ่อสุรสิทธิ์ ชุ่มศรีพันธุ์    คุณพ่อวรยุทธ กิจบำรุง พร้อมด้วยคริสตชนใหม่ของวัดอัสสัมชัญ จำนวน 20 คน พ่อแม่อุปถัมภ์ และบรรดาสัตบุรุษมาร่วมพิธีตื่นเฝ้านี้เป็นจำนวนมาก และในวันนี้มีการถ่ายทอดสดผ่านทาง เวบไซต์   www.catholic.or.th   ด้วยอีกเช่นกัน  ท่านที่ไม่สามารถเดินทางมาร่วมก็สามารถรับชมได้หรือสามารถรับชมย้อนหลังได้เช่นกัน

บรรยากาศของพิธีในวันนี้เต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์  และชื่นชมยินดี  หลังจากพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณเสร็จสิ้นลงแล้วบรรดาคริสตชนใหม่ถ่ายภาพหมู่ร่วม  กับประธานในพิธี ทั้ง 5 ท่าน ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และตื้นตันเป็นที่สุด

โอกาสนี้คริสตชนทุกท่านก็ขอต้อนรับคริสตชนใหม่ทุกๆท่านด้วย ก็ขอให้ความเชื่อทวีเพิ่มมากยิ่งๆ ขึ้นไป ไม่ใช่แค่เฉพาะอาสนวิหารอัสสัมชัญเท่านั้นแต่ในค่ำคืนวันนี้ทุกๆวัดก็ได้มีการล้างบาปให้กับคริสตชนใหม่ด้วยเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยินดีในโอกาสสมโภชปัสกานี้

โครงสร้างของพิธีกรรม ประกอบด้วย 4 ภาค คือ

1. พิธีแสงสว่าง เสกไฟ เตรียมเทียนปัสกา แห่เทียนปัสกา และประกาศสมโภชปัสกา ซึ่งให้ความหมายว่า   พระคริสตเจ้าทรงเป็นความสว่างที่มาทำลายความมืดของบาปและความตาย

2.วจนพิธีกรรม เป็นการระลึกถึงงานแห่ง
ความรอดพ้นของมนุษยชาติในประวัติศาสตร์
แห่งความรอด และงานแห่งความรักสำเร็จ
โดยอาศัยการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า

3. การเสกน้ำ พีธีศีลล้างบาป และการรื้อ ฟื้นคำสัญญาแห่งศีลล้างบาป ชี้ให้เห็นว่าโดยการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า เราได้รับชีวิตใหม่ที่พระเจ้าประทานให้ (โดยศีลล้างบาป)

4. ภาคศีลมหาสนิท   ชี้ให้เห็นว่าชีวิตใหม่ที่     พระคริสตเจ้าประทานให้มุ่งไป สู่ความสมบูรณ์ โดยการเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ในศีลมหาสนิท

วันนี้   นับเป็นมิสซาที่มีการอ่านบทอ่านมากที่สุด และเรายังได้มีโอกาสรื้อฟื้นคำสัญญาในวันรับศีลล้างบาปด้วย การเสกน้ำและฉลองศีลล้างบาป   การรื้อฟื้นคำสัญญา แห่งศีลล้างบาปโดยศีลล้างบาปเราได้รับชีวิตใหม่อันเป็นผลมาจากการสิ้น   พระชนม์และการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้า

น้ำเสกเป็นสิ่งคล้ายศีล   ไม่ใช่เครื่องรางที่มีฤทธิ์อำนาจในตัวเอง แต่เป็นเครื่องเตือนใจถึงศีลล้างบาป (โดย คุณพ่อเชษฐา ไชยเดช )