ภาพ / ข่าว   : สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย

นครราชสีมา l เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม ค.ศ. 2010 เวลา 18.30 น. พระอัครสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์  โกวิทวาณิช (อดีตอธิการ คนที่สอง)  เป็นประธานพิธี พร้อมด้วยพระสังฆราช ซิลวีโอ สิริพงษ์ จรัสศร(สามเณรกลางรุ่นที่สอง ที่นครราชสีมา) ประมุขสังฆมณฑลจันทบุรี พระสังฆราชยอแซฟ ชูศักดิ์ สิริสุทธิ์ ประมุขสังฆมณฑลนครราชสีมา และคณะสงฆ์ บรรดาผู้ให้การอบรมทั้งอดีตและปัจจุบัน นักบวชชาย-หญิง และสัตบุรุษมากมายมาร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันในพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ  โอกาสฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ องค์อุปถัมภ์ของสามเณราลัยพระวิสุทธิวงศ์ (บ้านเณรกลาง) และร่วมเฉลิมฉลองการก่อตั้งบ้านเณรกลางครบ 35 ปี 

พระอัครสังฆราชเกรียงศักดิ์ ประธานในพิธี   ได้นำตัวอย่างครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ มาเป็นข้อคิดข้อเตือนใจในบทบาทแห่งความเป็นพ่อ แม่และลูก ในครอบครัวคริสตชนว่าจุดสำคัญควรยึดเอาตัวอย่างของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์มา ดำเนินชีวิตแต่ละวัน โดยแต่ละท่านนั้นได้กระทำตามน้ำพระทัยของพระเป็น เจ้าเป็นที่ตั้งไม่ใช่น้ำใจของตนเอง เช่นเดียวกับเราคริสตชน โดยรูปแบบของครอบครัวที่มีความรักกันและกัน มีพระเป็นเจ้าเป็นศูนย์กลางของชีวิต

อาจารย์ชัยณรงค์ มนเทียรวิเชียรฉาย    เป็นตัวแทนคณะเซอร์ร่าและตัวแทนสัตบุรุษทุกท่านกล่าวแสดงความยินดี  และให้ข้อคิดที่ผู้ที่เป็นฆราวาสควรมีบทบาทส่งเสริมกระแสเรียก เป็นต้นลูกหลานในครอบครัวของตนเอง

คุณพ่อสุเทพ วนพงศ์ทิพากร     อธิการคนปัจจุบันได้กล่าวขอบพระคุณบรรดาพระสังฆราช คณะสงฆ์ นักบวช และพี่น้องทุกท่านที่ได้ช่วยเหลือบ้าน  เณรมาตลอดทั้งในอดีตจนกระทั่งถึงปัจจุบัน  และเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่วันนี้อดีตอธิการทั้ง 5 ท่านได้มาร่วมฉลองในวันนี้ด้วย

จากนั้นคุณพ่อสุรินทร์ ประสมผล อธิการคนแรกของบ้านเณรกลางได้เล่าเรื่องราวการก่อตั้งบ้านเณร และการที่ท่านได้รับเลือกมารับผิดชอบบ้านเณรกลางคนแรก (เรียกได้ว่า หากไม่บอกก็ไม่มีใครรู้) ทำให้ได้รับรู้ว่าในครั้งแรกบ้านเณรเป็นเพียงแค่ตึกธรรมดาที่มีผ้าใบกันฝนและลมเพียงผืนเดียวทำให้มีความลำบาก ยิ่งนักในเรื่องความเป็นอยู่

พระสังฆราชซิลวีโอ สิริพงษ์ จรัสศรี กล่าวในฐานะศิษย์เก่าบ้านเณรรุ่นที่สองว่ารู้สึกภูมิใจดีใจที่ได้เติบโต ณ  ที่แห่งนี้ซึ่งเป็นที่ที่ต้องทบทวนและไตร่ตรองพร้อมทั้งการมีชีวิตกลุ่มในหมู่คณะ  เราอยู่กันอย่างเรียบร้อยจนชาวบ้านรอบข้างต่างแปลกใจคิดว่าเราเป็นครอบครัวตระกูลสูงศักดิ์  เพราะมีป้ายหน้าบ้านว่า “บ้านพระวิสุทธิวงศ์”

พระอัครสังฆราชเกรียงศักดิ์ กล่าวในฐานะอธิการคนที่สองของบ้าน  เณรกลางว่า เป็นที่ที่มีเรื่องราวให้จดจำมากมายเกี่ยวกับความรักความผูกพันกับบ้านเณร การทำงานด้านอบรมและอภิบาลกับสังฆมณฑลนครราชสีมา

หลังจากนั้นพระคุณเจ้าชูศักดิ์   กล่าวในฐานะประมุขสังฆมณฑลนครราชสีมาว่าบ้านเณรกลางได้ช่วยเหลืองานต่างๆ ของวัดในสังฆมณฑลเสมอ   ในโอกาสฉลองวัดและโอกาสพิเศษต่างๆ ทำให้พี่น้องรักและช่วยกันสนับสนุนกระแสเรียกที่มาร่วมฉลองกันอย่างมากมาย    “แม้ว่าบ้านเณรกลางจะไม่มี

อะไรเป็นของตนเองเลย แต่วันนี้ทุกอย่างสวยงามได้ด้วยน้ำจิตน้ำใจจากพี่น้องสัตบุรุษทุกท่านช่วยเหลือบ้านเณร” 

จากนั้นคุณพ่อสุเทพ อธิการและตัวแทนสามเณรกลาง ได้มอบของที่ระลึกให้แด่บรรดาพระสังฆราช  และอดีตผู้ให้การอบรมทุกท่าน  พระสังฆราชประธานในพิธีและบรรดาพระสังฆราช ได้ร่วมกันอวยพร ถวายกำยานและดอกไม้แด่พระวิสุทธิวงศ์   นอกจากนั้น พระสังฆราชทั้งสามยังได้ปลูกต้นไม้เป็นที่ระลึกร่วมกัน หลังจากพิธีกรรมเสร็จสิ้นก็มีการรับประทานอาหาร   และชมดนตรีจากคณะ

สามเณรกลาง อีกทั้งยังมีการจับสลากแจกรางวัล ส่งความสุขโอกาส คริสต์มาสและปีใหม่       บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะด้วยความสนุกสนาน

สำหรับบ้านเณรกลางในปีการศึกษานี้เป็นรุ่นที่ 35 มีสมาชิกสามเณร 17 คน จาก 10 สังฆมณฑลทั่วประเทศไทย   ขอขอบคุณอดีตอธิการคุณพ่อสุรินทร์ ประสมผล   พระคุณเจ้าเกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช คุณพ่อประยูร พงษ์พิศ คุณพ่อไชโย กิจสกุล     คุณพ่อประสาท ใหม่เพียรวงศ์ รวมทั้งคุณพ่ออดิศักดิ์ พรงาม อดีตรองอธิการฯ ซึ่งปัจจุบันเป็นอธิการบ้านเณรใหญ่แสงธรรม และผู้ให้การอบรมทุกท่านที่มีส่วนร่วมให้บ้านเณรกลางแห่งนี้เป็นสถานฝึก อบรมชายหนุ่มให้ได้เข้าใจมิติของกระแสเรียกของตนอย่างชัดเจนและถ่อง แท้ยิ่งขึ้น จนสามารถตัดสินใจ     และก้าวหน้าสู่ระบบการอบรมในความเป็นสงฆ์ในบ้านเณรใหญ่ต่อไป

ในโอกาสที่วันนี้บ้านเณรกลางได้เดินทางมาครบ 35 ปี แต่ภารกิจของพระคริสตเจ้ายังคงต้องดำเนินต่อไป ดังพระวาจาที่ว่า “ข้าวที่จะเก็บเกี่ยวนั้นมีมาก แต่คนงานยังมีน้อยจงสวดวอนขอเจ้าของนาส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวเถิด”  ขอคำภาวนาสำหรับกระแส เรียกของบรรดาสามเณรทั้งหลายด้วย