![]() |
![]() |
||||
|
|
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ภารดี เทศชาตรี... |
|||
วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2552 พวกเรานัดรวมตัวกันที่ประตู 10 ชั้น 4
สนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนเดินเรื่องเพื่อออกเดินทางสู่รัฐอิสราเอล บรรยากาศการพบกันเต็มไปด้วยความวุ่นวายแต่อบอุ่นด้วยความสุขใจ ในการเดินทางสู่จุดหมายแห่งการเรียนรู้ร่วมกัน เราขึ้นสายการบินอิสราเอล แอร์ไลน์(LY 082) แม้จะดูอึดอัดคับแคบไปบ้างแต่อบอุ่นด้วยความหวังที่กำลังรอให้เราไปสัมผัสอยู่เบื้องหน้า เราได้ทำความรู้จักกับ คุณนวลฉวี คู่วิรัตน์ และ คุณเทวี เหลืองธาดา ผู้ที่จะดูแลเราตลอดการเดินทางครั้งนี้
เวลา 00.40 น. เราทั้งหมดก็พร้อมสำหรับการเดินทาง เดินทางถึงสนามบินเบ็นกูเรียน(ชื่อสนามบินตั้งเพื่อระลึกถึงนายกรัฐมนตรีคนแรกของอิสราเอล) ณ กรุงเทลอาวีฟ(เมืองท่า) เวลาประมาณ 07.00 น. ใช้เวลาเดินทางเกือบ 11 ชั่วโมง เวลาที่อิสราเอลช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง เมื่อถึงสนามบินเราต่างร่วมด้วยช่วยกันคัดเลือกกระเป๋าของกลุ่มเราออกมาวางไว้ ความร่วมมือร่วมใจกันดูน่าประทับใจจริงๆ เมื่อทุกคนได้สัมภาระครบแล้วเราออกจากสนามบินไปขึ้นรถโค้ช อากาศค่อนข้างเย็น มีฝนตกลงมาเล็กน้อยต้อนรับพวกเราที่มาเยี่ยมแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งประชาชนที่นี่ถือว่าเป็นพระพรของพระ เนื่องจากฝนที่นี่ตกน้อยมากและทำให้ขาดแคลนน้ำจืดในประเทศอิสราเอล เดินทางเลียบฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เข้าสู่ ทิเบเรียส ด้วยระยะทาง 110 ก.ม. ระหว่างทางไกด์ชาลีได้แนะนำประวัติคร่าวๆ ของอิสราเอลให้เราได้รับทราบ โดยมีคุณพ่อสมเกียรติ ตรีนิกร และ คุณพ่อทัศไนย์ คมกฤส เป็นล่ามผู้ทรงเกียรติแปลเนื้อหาให้เป็นอย่างดี |
|
|
|
![]() |
![]() |
อิสราเอลประกอบด้วยศาสนาสำคัญ 3 ศาสนา ได้แก่ ศาสนายิว ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม - แผ่นดินอิสราเอลแม้จะดูแห้งแล้งแต่ดินที่นี่เป็นดินที่มีแร่ธาตุมากกว่า 1500 ชนิด ซึ่งสามารถปลูกพืชผักได้ดี และอิสราเอลในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาก เดินทางถึง เมืองโบราณเซซารียา (Caesarea) ซึ่งเป็นเมืองที่กษัตริย์เฮโรดสร้างขึ้นเป็นเมืองเล็กๆ สมัยชาวฟินีเซียขึ้นมาที่ฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ด้วยการสร้างตามแบบสถาปัตโรมัน เป็นเมืองท่าริมทะเลในสมัยโบราณ (จะมีซากท่าเรือเก่าให้เราเห็น) เซซารียาเป็นชื่อที่กษัตริย์เฮโรดตั้งให้เพื่อเป็นเกียรติแก่จักรพรรดิซีซ่าร์ออกัสตัส และหลังจากที่เฮโรดตายเมืองเซซารียากลับเป็นเมืองที่ปกครองโดยชาวโรมัน และเป็นที่อาศัยของข้าหลวงโรมัน แวะลงชมความงดงามของซากเมืองเซซารียา และท่าเรือเก่าริมทะเลเมดิ เตอร์เรเนียน และเข้าชมเรื่องราวประวัติเมืองเซซารียา ก่อนเดินแวะบันทึกภาพและชมโรงมหรสพโรมันกลางแจ้ง(Roman Amphitheater)ที่อยู่ใกล้ๆท่าเรือของเมืองเซซารียา ซึ่งเป็นอัศจรรย์ทำด้วยหินหันหน้าหาทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ... เซซารียาใหม่เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของบรรดามหาเศรษฐี ซึ่งมีอาชีพประเภทนักการเมือง รัฐบาล และนักธุรกิจเป็นส่วนใหญ่ .... ผ่านคลองส่งน้ำโบราณ มีลักษณะเหมือนสะพานหินเล็กๆ ด้านล่างเป็นท่อสำหรับส่งน้ำ.... |
|
|
![]() |
![]() |
รับประทานอาหารกลางวันร่วมกันที่ ภัตตาคารอาหารจีน YAN - YAN Chinese Restaurant (Jaffa St. /Down Town/HAIFA) แวะชม สถานที่ของบาฮาย วัดของบาฮาย ที่นับถือความว่างเปล่าเป็นพระเจ้า พวกเขาถือว่า ความสุขคือสวรรค์ ความทุกข์คือนรก เวลา 14.24 น.วันนี้มีฝนตกเล็กน้อย น่าจะเป็นสิ่งที่ชาวอิสราเอลรอคอย มุ่งหน้าสู่นาซาเร็ธเมืองที่ตั้งอยู่บนเนินเขา เหนือระดับน้ำทะเล 1,230 ฟุต และเป็นเมืองที่พระเยซูเจ้าเจริญชีวิตในวัยเยาว์ที่นี่ นาซาเร็ธเป็นเมืองเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงไม่ค่อยดีนักเพราะนาธานาแอลอุทานเมื่อมีคนพูดถึงเยซูชาวนาซาเร็ธว่า จากนาซาเร็ธ จะมีอะไรดีเล่า แวะเข้าชม วิหารแม่พระรับสารจากเทวทูตสวรรค์ ( Church of the Annunciation) ที่นี่จะมีรูปแม่พระนานาชาติรวมทั้งแม่พระของประเทศไทยด้วย คุณพ่อสมเกียรติ ตรีนิกร เล่า เรื่องพิธีการหมั้น ขั้นตอนการแต่งงานในสมัยแม่พระกับนักบุญยอแซฟ ก่อนเดินชมบ้านของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ (House of Joseph) บ้านของนักบุญ ยอแซฟ |
|
|
|
![]() |
![]() |
เข้าพักที่โรงแรมRoyal plaza Hotel Tiberieas โรงแรมอยู่ในเมืองทิเบเรียส เมืองทิเบเรียสตั้งอยู่ใต้ระดับน้ำทะเลระดับ 682 ฟุต เมืองนี้ถูกสร้างในปี ค.ศ. 26 โดยกษัตริย์เฮโรด อากริปปา โดยตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่จักรพรรดิโรมัน ทิเบริอัส ด้านข้างโรง แรม ติด ทะเลสาบกาลิลี ด้านหลังเป็นภูเขา |
|
![]() |
![]() |
วันอังคารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2552 เวลา 07.50 น. เดินทางออกจากโรงแรมมุ่งหน้าสู่ ทะเลสาบกาลิลี ขึ้นเรือที่ฝั่งทิเบเรียส มุ่งสู่ ฝั่งคาฟานาอูม ทะเลสาปกาลิลี เป็นทะเลสาปน้ำจืด ความยาว 13 ไมล์ กว้าง 7 ไมล์ ลึก 130 157 ฟุต ตั้งอยู่ใต้ระดับน้ำทะเล 686 ฟุต เกิดวิกฤตเพราะน้ำที่ลดลง เรื่อยๆ และเป็นน้ำจืดจุดเดียวของอิสราเอล ในแต่ละปีน้ำจะลดลงไปถึง 5 เมตร ณ ที่นี่พระเยซูเจ้าเสด็จไปมาเป็นประจำ ดำเนินชีวิตอยู่บริเวณนี้มาก่อน บนฝั่งของทะเลสาปกาลิลีนี้ พระองค์ทรงเรียก เปโตร อันดรูว์ ยากอบ และอัครสาวกอื่นๆ พวก เราลงเรือ Worship Boat Sea of Galilee . ออกสู่กลางทะเลสาปกาลิลี คุณพ่อสมเกียรติ ตรีนิกร อ่านพระวรสาร เรื่องพระเยซูเจ้าดำเนินบนผิวน้ำในทะเลสาปกาลิลี ในขณะที่มีพายุหนัก สาวกที่อยู่บนเรือกลัว ( มธ.8:23-27) .....และพระเยซูเจ้าทรงทำให้คลื่นลมนั้นสงบลง ...เปรียบเหมือนตัวเรา อยู่บนเรือแห่งชีวิต เราต้องไว้วางใจ และเชื่อในพระเจ้าที่สามารถเข้ามาช่วยให้คลื่นลมในชีวิตของเราสงบลงได้ ร้องเพลงสรรเสริญพระร่วมกัน คุณพ่ออธิบายถึงเรื่องบุญลาภ 8 ประการ (พระโอวาทบนภูเขา) ที่นี่มีการค้นพบเรือโบราณสมัย 2,000 ปีที่แล้ว หลังเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับทะเลสาปกาลิลีแล้ว ร่วมกันบันทึกภาพ ชมทิวทัศน์ทะเลสาปกาลิลี รับอากาศบริสุทธิ์พร้อมรับฟังเพลงจากไกด์เจ้าของเรือ Worship Boat เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับพระเยซูเจ้าที่เคยดำเนินชีวิต ในแถบนี้ และบทเพลงสรรเสริญพระองค์ ฯลฯ ก่อนกลับขึ้นฝั่ง และชมพิพิธภัณฑ์เรือโบราณ The Mystery of the 2000 - year Old Boat ชมวีดีทัศน์เรื่องราวของทะเลสาปกาลิลี ในอดีตถึงปัจจุบัน |
|
|
![]() |
||||
|
![]() |
![]() |
มุ่งสู่คาเปอรนาอูม (Capernaum) อดีตเคยเป็นทางผ่านไปสู่ดามัสกัสเมืองธุรกิจ เป็นเมืองที่พระเยซูเจ้ามาสั่งสอนประชาชนและ ได้ทำอัศจรรย์หลายอย่างที่นี่ และที่นี่ยังเป็นบ้านของนักบุญเปโตร เป็นที่ที่พระเยซูเจ้าทรงรักษาแม่ยายของนักบุญเปโตร รักษาบ่าวของนายร้อยและคนง่อยที่ถูกหย่อนลงมาจากหลังคาบ้าน ฯลฯ แวะเยี่ยมบริเวณหมู่บ้านที่นักบุญเปโตรเคยอาศัยอยู่ ซึ่งค้นพบในปี 1972 ในบริเวณใกล้ๆ บ้านนักบุญเปโตร พบซากศาลาธรรมที่สร้างโดยนายร้อยที่พระเยซูเจ้าทรงรักษาบ่าวของเขาให้หาย และขุดค้นพบบ้านของนักบุญเปโตร กับซากกำแพงวัดที่ สร้างบนสถานที่นั้น เดินชมรอบๆ บริเวณซากเมืองโบราณในหมู่บ้าน และขึ้นไปสวดขอพรในวัดใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นบนวัดซ ากวัดโบราณ รอบๆ ซากหมู่บ้านเก่า คณะฟรังซิสกันได้สร้างกำแพงไว้เพื่อง่ายต่อการดูแล พระเยซูเจ้าทรงเลือกอัครสาวก 12 คนที่นี่ แวะเดินชื่นชมทัศนียภาพ และบรรยากาศรอบๆ ศาลาธรรม และซากกำแพงเสาหินทรงกลมแบบโรมันในศาลาธรรมของชาวยิว |
|
|
|
![]() |
![]() |
เข้าสู่ถ้ำในวัดน้อย คุณพ่อทัศไนย คมกฤส แนะนำภาพบนกำแพงในวัดน้อย วัดน้อยในถ้ำที่ 1 เป็นรูปประกาศกเอลียาห์ กำลังถวายของบูชาของพระเจ้า และมีไฟลงมาจากสวรรค์ แต่ของพระบาอัลไม่มี และวัดน้อยในถ้ำที่ 2 เป็นรูปโมเสส และรูปนักบุญฟรังซิส กับพระเยซูเจ้า วัดบนเขาทาทอ (วัดพระเยซูเจ้าแสดงองค์บนยอดเขา) สร้างครอบยอดเขาส่วนที่สูงที่สุด ปิดด้วยกระจก มองเห็นหินบนยอดเขาผ่านกระจกใส ที่นี่นักบวชฟรังซิสกันเป็นผู้ดูแล เดินชมรอบๆ บริเวณวัด -โมซาอิคคือการวางเม็ดหินสีต่างๆ ซึ่งเป็นสีธรรมชาติจากหลายแหล่ง ประดับเป็นรูปโดยวาดลายลงบน |
|
![]() |
![]() |
วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2552 เวลา 07.50 น. เดินทางออกจากโรงแรม มุ่งตรงสู่แม่น้ำจอร์แดน แต่ไม่ใช่ในส่วนที่พระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้างจากนักบุญยอห์น ส่วนที่พระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้างอยู่ในเยริโค ซึ่งต้องลงทางใต้ไปอีก การเข้าไปค่อนข้างยาก ในสมัยพระเยซูเจ้าแม่น้ำจอร์แดนใหญ่ กว่านี้และน้ำไหลแรงกว่านี้ มีการเปิดเขื่อนเพื่อเป็นการระบายขยะออกเป็นระยะ เพราะแม่น้ำจอร์แดนปัจจุบันนี้สกปรกมาก สัมผัส แม่น้ำที่กล่าวถึงหลายครั้งในพระคัมภีร์ภาคพระธรรมใหม่ ที่ที่พระเยซูเจ้าข้ามไปมาเป็นประจำ ระลึกถึงศีลล้างบาป โดยคุณพ่อสมเกียรติ ตรีนิกร นำน้ำจากแม่น้ำจอร์แดนเทใส่ศีรษะของเราทีละคน เหมือนย้อนรอยพระเยซูเจ้า พร้อมกับฟื้นฟูชีวิตคริสตชนของตัวเองไปด้วยในตัว ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับแม่น้ำจอร์แดน....แม่น้ำจอร์แดนเป็นแม่น้ำที่ไหลมาจากยอดเขาเฮอร์โมน และไหลลงสู่ทะเลตาย เชื่อกันว่า ที่ที่พระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้างนั้นอยู่ทางตะวันออกของเมืองเยริโค การรับพิธีล้างที่แม่น้ำจอร์แดนทำให้แม่น้ำจอร์แดนกลายเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์สำหรับคริสตชนทุกคน |
|
|
|
|
![]() |
![]() |
ในถ้ำ เรื่องราวเกี่ยวกับภูเขาแห่งการประจญล่อลวง เชื่อกันว่า...เป็นที่ที่พระเยซูเจ้าถูกประจญล่อลวงจากซาตาน 3 ครั้ง หลังอดอาหาร 40 วัน กลับลงมาด้วยกระเช้าลอยฟ้าก่อนออกเดินทางสู่ที่ต่อไป เวลา 16.15 น. ร่วมมิสซาที่วัดที่เยริโค ภาพในวัดเป็นภาพกระเบื้องสีรูปพระเยซูเจ้าเสด็จมาที่เยริโค 3 ภาพ ที่นี่พระองค์ทรงรักษาคนตาบอด ให้เรารู้จักที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเปลี่ยนแปลงชีวิตจิตใจของเรา |
|
|
![]() |
![]() |
วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2552 เวลา 07.50 น. มุ่งสู่เบธเลแฮม Beth = บ้าน Lehem = ขนมปัง Bethlahem = บ้านขนมปัง ที่นี่นักโบราณคดีขุดค้นพบกระดูกสัตว์ งาช้าง สันนิษฐานว่าในอดีตน่าจะมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่ในที่ทุรกันดารนี้มากในเบธเลแฮม และที่นี่ก็เป็นบ้านเกิดของกษัตริย์ดาวิด จนถึงเป็นที่กำเนิดของพระเยซูเจ้าซึ่งสืบเชื้อสายกษัตริย์ดาวิด |
|
|
|
![]() |
![]() |
เวลา 12.45 น. รับประทานอาหารเที่ยง เวลา 1 3.00 น.มุ่งสู่ปาเลสไตล์ เข้าเขต West Bank ที่ที่เป็น Bet EL = บ้านของพระเจ้า ผ่านดินแดนเผ่าเบนยามิน Benyamin แปลว่า ลูกแห่งพระหัตถ์ขวา ออกเดินทางใช้เวลา ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งจึงไปถึง Jacob Well บ่อน้ำยากอบ เป็นที่ที่พบกันระหว่างพระเยซูเจ้าที่เป็นชาวยิว กับสาวชาวสะมาเรียและพระเยซูเจ้าขอน้ำดื่มจากนาง และสุดท้ายสาวชาวสะมาเรียพูดว่า พระเยซูเจ้าข้า ขอโปรดให้น้ำนั้นแก่ลูกเถิด ลูกจะได้มีชีวิตกับพระองค์ |
|
|
|
![]() |
![]() |
เวลา 10.30 น. เดินทางสู่เวียโดโลโรซา(Via Dolorosa) เริ่มต้นที่วัดพระเยซูเจ้าทรงถูกโบยตี ณ ที่นี่ เป็นสถานศึกษาของฟรังซิสกัน ร่วมพิธีบูชามิสซา ...บทเทศน์สอน... ความชื่นชมที่สุดของคริสตชนคือความตายของพระเยซูเจ้า... ศาสนาคริสต์ : เน้นเรื่องความรักและการเสียสละ...ทำให้เรารู้สึกว่าเรามีค่า ให้เราขอบพระคุณพระสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เรากระทำ ไม่มีความรักใดยิ่งใหญ่เท่ากับความรักที่พระเยซูเจ้าทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา หลังมิสซา ร่วมเดินรูป 14 ภาค ก่อนออกเดินทางไปตามเส้นที่มรรคาศักดิ์สิทธิ์พร้อมๆ กัน ชมบ้านของผู้ว่าราชการที่จับพระเยซูเจ้ามาขังไว้ ก่อนมอบให้ปิลาต จนถึงพระคูหาศักดิ์สิทธิ์(Holy Sepulchre) ที่ที่พระเยซูเจ้าถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการตรึงกางเขนบนเนินเขากัลวาริโอ สัมผัสช่องที่เชื่อว่าเป็นที่ที่กางเขนที่ตรึงพระองค์ปักลงตรงนั้น และสัมผัสแผ่นหินใหญ่ที่เชื่อว่าเป็นที่รองพระศพของพระองค์ในถ้ำ ณ ที่นี่ ทุกคนรู้สึกถึงกลิ่นอายของพลังแห่งความรักที่ทุกคนต่างเดินทางมาเพื่อระลึกถึงพระเยซูเจ้าพระผู้ไถ่ที่ทรงยอมสิ้นพระชนม์เพื่อนมนุษยชาติ แวะวัดนักบุญเปโตรไก่ขัน ที่ที่นักบุญเปโตรปฏิเสธพระเยซูเจ้า 3 ครั้ง ซึ่งในบริเวณนี้จะมีรูปปั้นที่เป็นรูปนักบุญเปโตรกำลังปฏิเสธพระเยซูเจ้า และเหนือรูปปั้นจะมีไก่ ขึ้นเขาศิโยน(Mouth of Zion) ชมหลุมฝังศพของกษัตริย์ดาวิด และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวยิว ห้องอาหารค่ำมื้อสุดท้าย (The Last Supper) ที่ที่พระเยซูเจ้าทรงจัดเลี้ยงแก่อัครสาวกและทรงตั้งศีลมหาสนิทที่นี่ หลังจากนั้นเข้าชมวัดแม่พระนิทรา (Church of Dormition) ที่เชื่อว่าแม่พระเสด็จสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ เหนือรูปปั้นแม่พระนิทรา มีโดมหลังคาเป็นรูปสตรีที่มีชื่ออยู่ในพระคัมภีร์ เช่น อาดัม เอสเธอร์ ยูดิธ นางรูธ ฯลฯ ภาวนาส่วนตัวต่อหน้ารูปแม่พระนิทรา เวลา 13.00 น. รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร ด้านหน้ามีกังหันลมใหญ่ |
|
|
![]() |
![]() |
เวลา 17.00 น. กลับสู่โรงแรมเพื่อเก็บของลงกระเป๋า จัดสัมภาระเพื่อเตรียมพร้อมขึ้นเครื่องกลับสู่ประเทศไทยในเย็นวันพรุ่งนี้ วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม 2552 เวลา 07.50 น. เดินทางสู่เนินเขามะกอก(Mount of Olive) มุ่งหน้าสู่วัดนักบุญเฮเรน เช้านี้อากาศหนาวมาก ลมพัดแรง ชมวัดข้าแต่พระบิดา (Pater Noster Church) คุณพ่ออธิบายบทภาวนาข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย และสวดบทข้าแต่พระบิดาพร้อมกัน การเรียกพระเป็นเจ้าเป็นพระบิดา แสดงว่าเรายอมมอบชีวิตของเราแด่พระองค์ศิโรราบแด่พระเจ้า เชื่อและศรัทธาในพระองค์...บทภาวนาในการร้องเรียกหาพ่อ เวลา 09.20 น. เข้าสู่วัดพระเยซูเจ้าทรงกรรแสง ร่วมพิธีบูชามิสซาที่วัดนี้ ...บทเทศน์... บนเขามะกอกนี้ พระเยซูเจ้าทรงรักเยรูซาเล็ม และชาวยิว พระเยซูเจ้าร้องไห้ผิดหวังกับชนชาวเยรูซาเล็ม เมื่อพระเยซูเจ้ามองเราอย่าให้พระองค์ผิดหวังในตัวเรา การมาคราวนี้ ให้เรามีความสุข ความเชื่อ ความหวัง เมื่อกลับไปเราจะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไป การดำเนินชีวิตของเรา เราจะน่ารักขึ้น ศักดิ์สิทธิ์ขึ้น การแสวงบุญจะไม่มีความหมายจนกว่าเราจะเปลี่ยนเป็นประสบการณ์ความเชื่อ เจริญชีวิตดีขึ้น เสียสละ รักมากขึ้น ให้อภัยมากขึ้น เราร่วมเดินทางการเปลี่ยนแปลงจิตใจด้วยศรัทธาในพระเจ้า ไม่ใช่น้ำจากยากอบหรือกาลิลีที่ล้างเราให้สะอาด แต่ชีวิตเราต้องล้างให้ดีขึ้น เมื่อกลับไปเมืองไทยเราจะเป็นแสงสว่าง เป็นคนดีแก่คนรอบข้าง หลังจากนั้นเดินทางต่อวัดพระเยซูเจ้าทรงเข้าตรีฑูต ก่อนที่จะถูกจับ |
|
![]() |
![]() |
![]() |
ชมสวนเกทเสมนี (Gethssemane) ที่มีต้นมะกอกเทศอายุกว่า 1000 ปี ที่เชื่อว่าเป็นต้นมะกอกเทศสมัยพระเยซูเจ้า มีรั้วล้อมรอบต้นมะกอกเทศไว้ และได้รับการดูแลอย่างดี เดินชมวัดนานาชาติ (The all Nations Church)ซึ่งประดับด้วยหินสีต่างๆ สวยงาม มี 16 ประเทศที่มีส่วนร่วมในการสร้างวัดนี้มีหินที่เชื่อว่าเป็นหินที่พระเยซูเจ้าทรงภาวนาในช่วงเข้าตรีฑูตในวัดนี้ด้วย ช่วยกัน เก็บใบมะกอกเทศหน้าวัดที่เจ้าหน้าที่กำลังริดทิ้ง เพื่อเป็นที่ระลึก เดินทางต่อไปบ้านเบธานี ถ่ายภาพขี่อูฐเป็นที่ระลึก ก่อนแวะซื้อศาสนภัณฑ์ตามอัธยาศัย เวลา 12.00 น. อาหารกลางวันที่ร้านอาหารพื้นเมือง เวลา 13.00 น. เดินทางสู่กรุงเทลอาวีฟ แวะชมหมู่บ้านเอมมาอูส และแวะเข้า Mini Israel เมืองจำลองของอิสราเอล อากาศค่อนข้างหนาวมากและลมแรง ที่เมืองจำลองได้จำลองเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของอิสราเอล และสถานที่สำคัญต่างๆ ในอิสราเอลไว้แบบย่อขนาด แวะสวนหย่อมติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน พักผ่อนเดินชมทิวทัศน์รอบบริเวณ เวลา 18.00 น. รับประทานอาหารเย็นที่ภัตตาคารอาหารจีน หลังรับประทานอาหาร คุณพ่อสมเกียรติ ตรีนิกร กล่าวขอบคุณคนขับรถโค้ชและไกด์ของเรา และผู้แทนกลุ่มพระคัมภีร์กล่าวขอบพระคุณคุณพ่อทั้งสองท่าน ก่อนออกเดินทางสู่สนามบินเบ็นกูเรียน ที่ เทลาวีฟ เราผ่านขั้นตอนการตรวจเชคไปได้ด้วยดีไม่ลำบากเท่าไหร่นักแม้จะมีบางคนต้องทำการรื้อกระเป๋าบ้างก็ไม่ใช้เวลานาน เท่าไร ก่อนเข้าสู่ภายในเดินเลือกซื้อสินค้าใน Duty free เวลา 23.05 น. เดินทางกลับโดยเที่ยวบินที่ LY081 ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง ก่อนถึงประเทศไทย ในเวลา 14.30 น. ร่ำลากันเรียบร้อยแยกย้ายกันกลับบ้านของตนเอง |
||
![]() |
![]() |
|
![]() |